บทที่ 153
ฆาตกรไม่ใช่นาง!
ร่างของกู้ซีจิ่วเอนไปด้านหลังทันที ลำแสงเจิดจ้าพุ่งเฉียดหน้ากระทบเข้ากับผนังเกี้ยวด้านหลังเธอ เกิดเสียงดังครืน หลังคาเกี้ยวพังทลายลง…
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่ง คนหามเกี้ยวที่อยู่ด้านนอกเพิ่งจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบขึ้นมาในยามนี้
“มีมือสังหาร!”
“คุ้มครองคุณหนูกู้!”
คนหามเกี้ยวของราชวงศ์ล้วนมีวรยุทธ์ แม้จะตระหนก แต่ก็ไม่ลนลาน ส่งเสียงตะโกน หามเกี้ยวแล้ววิ่งอย่างรวดเร็ว
ด้านนอกยังมีเสียงหวีดหวิวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่ามือสังหารนั้นไม่คิดจะปล่อยเธอไป ไล่ตามหลังมาติดๆ พลางซัดอาวุธลับใส่เรื่อยๆ…
เคราะห์ดีที่วรยุทธ์ของเหล่าคนหามเกี้ยวยอดเยี่ยม พาเกี้ยวหลบซ้ายหลีกขวา ทำให้อาวุธลับไม่ได้พุ่งเข้ามาในเกี้ยวอีก เพียงแต่อยู่ภายใต้การโจมตีเช่นนี้ เหล่าคนหามเกี้ยวจึงไม่สามารถเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดไว้แต่เดิมได้ เดิมทีเหล่าคนหามเกี้ยวนั้นหามเกี้ยวมุ่งไปยังห้องทรงอักษร ยามนี้เพื่อจะหลบหลีกคนร้ายพวกเขาแทบจะเลือกเส้นทางไม่ได้จึงพุ่งตรงเข้าไปในตรอกเล็กๆ ตรอกหนึ่ง วิ่งตะบึงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
‘ในวังหลวงก็มีมือสังหารด้วยหรือ!’ หยกนภาแปลกใจอย่างยิ่ง
กู้ซีจิ่วจับราวเกี้ยวแน่น ดูราวกับตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่กลับตอบหยกนภาอย่างสุขุมนัก ‘เป็นการหยั่งเชิงอีกฉากนึง!’
หยกนภาตกตะลึง
‘เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?’
‘ตามน้ำไป’
มีมือสังหารเหาะทะยานตามมา กระโดดลงจากกำแพงวัง ลำแสงสายหนึ่งพุ่งเข้าหากู้ซีจิ่วที่อยู่ในเกี้ยวโดยตรง!
เป็นกระบี่ลํ้าค่าเปล่งแสงแวววาวเล่มหนึ่ง คมกระบี่ปรากฏเป็นสีฟ้าประหลาด เห็นได้ชัดว่ามีพิษร้ายแรง หากกู้ซีจิ่วถูกมันแทงเข้า เกรงว่าคงเสียชีวิตทันที กู้ซีจิ่วก็คล้ายจะหวาดกลัว พยายามหลบหลีกสุดชีวิตอยู่ในเกี้ยว ลำแสงนั้นเฉี่ยวแขนเธอไป คมกระบี่กรีดแขนเสื้อเธอขาด และกรีดโดนผิวหนังของเธอเล็กน้อย มีเลือดไหลซึมออกมา เลือดเป็นสีฟ้า เห็นได้ชัดว่าเธอถูกพิษแล้ว…
กระบี่ลํ้าค่าของมือสังหารผู้นั้นปักเข้าที่พื้นเกี้ยว ดึงไม่ออกภายในระยะเวลาสั้นๆ กู้ซีจิ่วชักกริชออกมาจากแขนเสื้อ กัดฟันแล้วแทงเข้าที่ขั้วหัวใจของมือสังหารคนนั้น!
มือสังหารยังไม่ทันได้ดึงดาบ ก็ต้องถอยหลังหลบหลีกกริชของกู้ซีจิ่ว หมุนกายกลับมา ในที่สุดก็ดึงกระบี่ลํ้าค่าออกมา แล้วจ้วงแทงใส่กู้ซีจิ่วอีกครั้ง ในเกี้ยวแคบเกินไป หลบหลีกไม่ถนัด กู้ซีจิ่วจึงทะยานออกไปนอกเกี้ยวเสียเลย มือสังหารคล้ายกับผุดขึ้นมาจากพื้นดินก็มิปาน มีมือสังหารสิบกว่าคนโอบล้อมเกี้ยวหลังนี้ไว้ตรงนั้น แต่คนหามเกี้ยวมีแค่สี่คน ขณะนี้ทั้งสี่คนเหลืออยู่แค่สองคน ทั้งสองคนกำลังต้านทานไว้อย่างยากลำบาก ไม่มีใครสามรถดูแลกู้ซีจิ่วต่อได้
เมื่อเห็นกู้ซีจิ่วกระโจนออกมา คนหามเกี้ยวคนหนึ่งซึ่งชุลมุนวุ่นวายอยู่ตะโกนขึ้นมา “คุณหนูกู้วิ่งไปทางซ้าย! ที่นั้นมีกำลังเสริมของกองทหารรักษาพระองค์…”
กู้ซีจิ่วหันหลังทะยานจากไปโดยไม่พูดอะไร มือสังหารคนอื่นๆ คิดจะไล่ตาม แต่ถูกคนหามเกี้ยวสองคนนั้นขวางไว้อย่างเป็นเอาตาย มีเพียงมือสังหารรายหนึ่งที่ฝ่าแนวป้องกันได้ไล่ตามกู้ซีจิ่วมา…
ด้านล่างมีเสียงร้องตะโกน เสียงอาวุธปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ยุ่งเหยิงวุ่นวายนัก
แต่ในจุดสูงของตำหนักหลังหนึ่ง กลับมีคนหลายคนยืนอยู่ตรงนั้น มองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงนี้
สายตาหลายคู่จับจ้องเงาร่างกู้ซีจิ่วที่เหาะทะยานอยู่ ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของเธอ
คนหนึ่งในนั้นมองดูอยู่สักพัก ส่ายศีรษะเล็กน้อย “ในช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดเช่นนี้นางย่อมสำแดงวรยุทธ์ทั้งหมดออกมา แต่ก็ได้เพียงเท่านี้”
“มองจากท่าทางและการเคลื่อนไหวของนางแล้ว อย่างมากสุดนางก็สามารถฝึกฝนจนบรรลุเป็นนักรบพลังวิญญาณขั้นสองได้เท่านั้น ห่างขั้นกับเล่อฮวาโหวนัก!” อีกคนเอ่ย
“มิผิด ด้วยฝีมือของนางไม่สามารถสังหารเล่ออวาโหวได้ ฆาตกรไม่ใช่นาง! ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าข้อกล่าวหาของนางลบล้างได้แล้วพะย่ะค่ะ” คนที่สามตัดสิน
ทั้งสามคนนี้ล้อมอยู่รอบๆ บุคคลผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีเหลือง บุคคลที่สวมเสื้อคลุมสีเหลืองนี้ก็คือจักรพรรดิซวน
เขาพยักหน้านิดๆ “เราก็คิดว่านางไม่ใช่ฆาตกร”