Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 155

บทที่ 155

อันที่จริง…ข้าทำได้นะ

‘ใช่แล้ว ช่างทำให้คนไม่สบอารมณ์เสียจริง!’ กู้ซีจิ่วเยาะหยัน พลางมองดูเสาเหล่านี้ ‘ข้าว่าเสาเหล่านี้มีค่ายิ่งนัก หากพังเสียหายไปต้องมีคนปวดใจเป็นแน่’

‘ยิ่งกว่าปวดใจเสียอีก เป็นความเจ็บปวดเหมือนถูกเชือดเนี้อเถือหนังต่างหาก! หยกดำชนิดนี้ผลิตได้ยากเป็นที่สุด ขนาดเท่ากำปั้นก็มีราคาหลายล้านตำลึงแล้ว ต้นใหญ่ถึงเพียงนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย! แถมยังมีตั้งเก้าต้น! ทั้งชุดนี้มีค่าควรเมือง เกรงว่าจะเป็นสมบัติของสำนักเก้าดารา!’

กู้ซีจิ่วถอนหายใจ ‘ข้าต้องการทำลายมัน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ข้ามีกำลังไม่พอ’

หยกดำนี้แข็งแรงนัก หากเป็นช่วงที่เธอสมบูรณ์เต็มที่ จะทำลายสิ่งนี้ย่อมไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ร่างเล็กๆ นี้ยังไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น…

‘อันที่จริง…ข้าทำได้นะ’ หยกนภาตอบอย่างทะนงตน

ดวงตากู้ซีจิ่วเปล่งประกาย แย้มยิ้ม ‘แล้วทำไมยังไม่รีบลงมืออีก?!’

รอยยิ้มของเธอแฝงความเหี้ยมเกรียมไว้จางๆ

หยกนภาถูกอารมณ์ของเธอชักจูง จึงกระตือรือร้นขึ้นมาทันที ‘ข้าเกรงว่าถ้าทำลายสิ่งนี้แล้วจะทำให้พวกเขาไม่พอใจท่าน นำความยุ่งยากใหญ่หลวงมาให้ท่าน เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะเพิ่มอะไรเล็กๆ น้อยๆ ใส่พวกมัน ทำให้พวกมันไม่พังทลายลงทันที รอถึงยามที่ตั้งค่ายกลครั้งต่อไปเจ้าสิ่งนี้จะแหลกสลายกลายเป็นผุยผงด้วยตัวเอง ทำให้พวกเขาเจ็บปวดเหมือนถูกเชือดเนื้อเถือหนังแทบตายไปเลย!,

กู้ซีจิ่วเคาะร่างมันด้วยปลายนิ้ว ‘ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะใจดำถึงเพียงนี้ ดี จัดการตามนี้เลย!’

หยกนภาอาจกระทำเรื่องชั่วร้ายเป็นครั้งแรก มันจึงตื่นเต้นมาก เร่งเร้าให้กู้ซีจิ่วดำเนินการตามที่มันบอกอย่างต่อเนือง

กู้ซีจิ่วเดินวนรอบเสาแต่ละต้นอย่างรวดเร็ว ให้หยกนภาสัมผัสกับเสาเหล่านั้นอย่างแนบชิดหนหนึ่ง…

‘เสร็จเรียบร้อย!’ หยกนภาภาคภูมิใจ

‘เด็กดี เจ้าเก่งมาก!’ กู้ซีจิ่วก็ยิ้มจนตาหยี

‘ฮึ่ม ข้าคือหยกนภาผู้น่าเกรงขาม ไม่ใช่เด็กดีอะไรนั้น อย่ามาเรียกอะไรน่าขยะแขยงแบบนี้’ หยกนภาไม่พอใจ

‘ก็ได้ท่านอาจารย์เสี่ยวชาง[1]’ กู้ซีจิ่วอารมณ์ดียิ่งนัก จึงตบหยกนภาเบาๆ

หยกนภาชะงัก มันกัดฟันกล่าว ‘ท่านมันลามก!’

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว ‘เจ้าเก่งกาจถึงเพียงนี้ข้าเรียกเจ้าว่าอาจารย์ไม่ได้หรือ? เกี่ยวอะไรกับลามกกัน? หรือคำว่าอาจารย์เสี่ยวชางนี้ยังมีความหมายอื่นด้วย? เจ้าออกจะมีความรู้กว้างขวาง ทำไมไม่อธิบายให้ข้าฟังล่ะ?’

หยกนภาเงียบงัน มันหดหู่เหลือเกิน!

อึดอัดอยู่สักพักถึงเอ่ยขึ้น ‘เรียกข้าว่าเสี่ยวชางก็พอ ไม่ต้องเติมอาจารย์!’

กู้ซีจิ่วแทบจะกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เจ้าหยกนภานี่รู้จักแม้กระทงอาจารย์ชาง ดูท่าว่าจะไม่ใสซื่อเสียแล้ว

สุดท้ายแล้วเจ้าหยกนภานี้มีที่มาอย่างไรกันแน่นะ? ดูเหมือนเจ้าสิ่งนี้จะกระจ่างแจ้งในโลกนี้ทั้งยังรู้จักโลกที่เธอเคยอยู่เป็นอย่างดี เธอตัวคนเดียวในโลกใบนี้ ย่อมรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่บ้าง ยามนี้มีเจ้าหยกนภามาอยู่ข้างกายก็ไม่เลว อย่างน้อยก็ สามารถพูดคุยเป็นเพื่อนเธอได้เสมอ

ถึงแม้หยกนภาจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ แต่ก็สามารถสัมผัสรับรู้อารมณ์ของเธอได้ มันเอ่ยออกมาทันที ‘อย่ามาหลงใหลในตัวข้า ตัวข้านั้นเป็นเพียง ตำนาน’

กู้ซีจิ่วยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่

เธอเพิ่งจะแย้มรอยยิ้ม ด้านนอกพลันมีเสียงฝีเท้าโกลาหลลอดเข้ามา มีเสียงแหลมกังวานอันเป็นเอกลักษณ์ของขันทีกู่ตะโกนขึ้น “จักรพรรดิเสด็จ!”

ประตูตำหนักถูกคนเปิดออก จักรพรรดิซวนก้าวนำฝูงชนเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อมองเห็นกู้ซีจิ่วยืนอยู่ตรงนั้นอย่างปลอดภัย นัยน์ตาของจักรพรรดิซวนก็เปล่ง ประกาย สาวเท้าก้าวออกมา “ซีจิ่ว เจ้าไม่เป็นไรใช่ ไหม?”

“ด้วยพระบารมีของฝ่าบาท ซีจิ่วจึงไม่เป็นไรเพคะ” กู้ซีจิ่ว หันกลับมา นํ้าเสียเย็นชาเล็กน้อย “นึกไม่ถึงเลยว่าในวังหลวงแห่งนี้ก็มีมือสังหารด้วย ช่างอยู่เหนือความคาดหมายของซีจิ่วจริงๆ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version