Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 158

ตอนที่ 158

ไปดูอาการผู้ทรงศีลฮั่ว

ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้แต่ตามจักรพรรดิซวนขึ้นราชรถมังกร ราชรถมังกรเพิ่งจะเริ่มขยับ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนมาจากด้านหลัง “หยุดก่อน!”

ผู้ทรงศีลฮั่วเหาะทะยานมาดุจสายลมคลั่ง ขวางอยู่เบื้องหน้าราชรถมังกร!

ผู้ทรงศีลฮั่วมีฐานะสูงส่งมากในสำนักเก้าดารา แต่ต่อให้เป็นเจ้าสำนักเก้าดาราเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิซวนก็ทำได้แค่สนทนากันอย่างเสมอศักดิ์เท่านั้น ความเคารพที่ควรมีก็ยังต้องมีอยู่

ต่อให้เป็นเจ้าสำนักเก้าดาราก็ไม่สามารถขวางหน้าราช รถมังกรตรงๆ เพื่อให้จักรพรรดิหยุดอย่างไม่แยแสเช่นนี้!

ยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นแค่ผู้ทรงศีลคนหนึ่งด้วย?

จักรพรรดิซวนใบหน้าถมึงถึง “นี่ผู้ทรงศีลฮั่วคิดจะทำอะไรกัน? ราชรถของเราเจ้าคิดจะขวางก็ขวางได้เลยหรือ?!”

ในนํ้าเสียงแฝงความเย็นเยียบ!

ในที่สุดผู้ทรงศีลฮั่วก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง รีบถอยหลังไปแล้วค้อมกาย “ฝ่าบาท เป็นข้าพระบาทเสียมารยาทแล้ว ข้าพระบาทถูกพิษของคุณหนูกู้ผู้นี้พะย่ะค่ะ! ข้า พระบาทถึงได้ร้อนใจ…มิได้มีเจตนาหมิ่นเกียรติองค์จักรพรรดิเลยพะย่ะค่ะ”

ถูกพิษ?

จักรพรรดิซวนมองดูใบหน้าของผู้ทรงศีลฮั่ว ยังเห็นใบหน้าเขาเป็นสีแทนดูสุขภาพดีอยู่เหมือนเดิม ไหนเลยจะเหมือนผู้ถูกพิษ?

“เจ้าบอกว่าถูกพิษงั้นหรือ? เรามองไม่ออกเลย”

“ฝ่าบาท พิษที่ข้าพระบาทโดนมองภายนอกไม่เห็นว่าเป็นอะไร แต่…แต่จุดที่ถูกพิษกลับคันคะเยออย่างน่าประหลาดยิ่งพะย่ะค่ะ…”

“เจ้าถูกพิษตรงจุดไหน?” จักรพรรดิซวนมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งยังสำรวจจากเท้าจรดหัว ก็ไม่เห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลย

ผู้ทรงศีลฮั่วกัดฟันตอบ “ห…หน้าอกพะย่ะค่ะ”

อาการคันคะเยอนั้นเสียดแทงหัวใจแล้ว!

จักรพรรดิซวนมองหมอหลวงที่ติดตามอยู่ข้างกายตนแวบหนึ่ง “ไปดูอาการผู้ทรงศีลฮั่ว”

ผู้ทรงศีลฮั่วทะนงตนมาก และก็หัวโบราณมากด้วย ปกติแล้วยากนักที่จะเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บ เล็กๆ น้อยๆ เป็นบางครั้งคราวเขาก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ตังนั้นร่างกายของเขาจึงแทบไม่เคยถูกใครพบเห็นมาก่อน ยามนี้กลับต้องถูกหมอหลวงที่ใบหน้ามีหนวดเครารกรุงรังมองหน้าอก…

เขาคิดจะปฏิเสธ แต่มองท่าทีของจักรพรรดิซวนแล้วเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ…

เขาจึงได้แต่หันหลัง หลบเลี่ยงสายตานับไม่ถ้วนแล้ว

ปลดสาบเสื้อตรงหน้าอกออก ให้หมอหลวงผู้นี้ดู หมอหลวงมองดูบาดแผลตรงหน้าอกเขาแล้วก็มองดูเขา อีกหลังจากนั้นยังแตะชีพจรเขา เหมือนจะยังไม่วางใจ เลยถ่างเปลือกตาเขาด้วย

ผู้ทรงศีลฮั่วเดือดดาลมาก “เห็นชัดเจนหรือยัง?!”

“เห็นชัดเจนแล้ว” หมอหลวงผู้นั้นตอบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์จากนั้นก็หันกลับไปรายงานจักรพรรดิซวนตามความเป็นจริง “ทูลฝ่าบาท บนหน้าอกของผู้ทรงศีลฮั่วมีรอยขีดข่วนขนาดเท่าปลายเล็บอยู่จริงๆ พะย่ะค่ะ รอยข่วนแดง ไม่มีเลือดออก ไม่คล้ำไม่มีสีของการถูกพิษเช่นสีคลํ้าหรึอสีม่วง ชีพจรเต้นปกติเหมือนคนทั่วไป ม่านตาก็ปกติพะย่ะค่ะ…”

กล่าวก็คือ สิ่งที่เรียกว่าบาดแผลของผู้ทรงศีลฮั่วไม่คล้ายกับถูกพิษเลย!

จักรพรรดิซวนเหลือบมองผู้ทรงศีลฮั่วอย่างเย็นชา ยิ่งมองเขาก็ยิ่งขัดเคืองนัยน์ตา!

เจ้าคนผู้นี้เคยกล่าวว่าสงสัยว่ากู้ซีจิ่วจะถูกปีศาจร้ายสิงสู่ร่าง ทั้งยังกล่าวอีกว่าหากไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อทั่งอาณาจักรเฟยซิง กล่าวว่าร้ายแรง เป็นอย่างยิ่ง

จักรพรรดิซวนเห็นเขากล่าวอย่างเคร่งขรึมเป็นการเป็นงาน ทั้งด้วยฐานะผู้ทรงศีลแห่งสำนักเก้าดาราของเขา ถึงได้ยอมเห็นด้วยกับกับดักที่เขาจะวางไว้ในวังอย่างไม่เต็มใจ

ซึ่งผลก็พิสูจน์แล้วว่ากู้ซีจิ่วเป็นเด็กสาวธรรมดา ไม่ได้ถูกภูตผีปีศาจอะไรสิงร่างแน่นอน!

ทำให้จักรพรรดิผู้สง่างามเช่นเขาต้องกลายเป็นคนชั่วช้าต่อหน้าเด็กคนหนึ่ง…

ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะไม่พูดอะไร แต่จักรพรรดิซวนก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าสาวน้อยไม่พอใจและหวาดระแวงเขาอยู่ลึกๆ!

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเพราะผู้ทรงศีลฮั่วก่อเรื่องขึ้น!

นํ้าเสียงจักรพรรดิซวนเย็นยะเยือก “ผู้ทรงศีลฮั่ว เจ้ามีอะไรจะพูดไหม?”

ผู้ทรงศีลฮั่วแทบจะกระวนกระวายใจ “ฝ่าบาท ข้าพระบาทถูกพิษจริงๆ นะพะย่ะค่ะ จุดนี้คันคะเยอจนเสียดแทงหัวใจ! เมื่อสักครู่นี้เป็นเพราะคันคะเยอเหลือเกิน ข้าพระบาทจึงพลั้งมือทำหยกเก้าดาราแตกร้าวไปต้นหนึ่ง!”

เรื่องนี้ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุด

เขากระจ่างแจ้งบางอย่างขึ้นมาเลยถือโอกาสกล่าวต่อ “ฝ่าบาท เมื่อครู่คุณหนูกู้ผู้นี้เกือบจะสะดุดล้ม เลยชนหยกเก้าดาราของข้าพระบาท ข้าพระบาทรีบรุดเข้าไป พยุง ก็ถูกนางโถมตัวใส่อ้อมกอด ปิ่นบนศีรษะนางทิ่มเข้าที่หน้าอกของข้าพระบาท…ปิ่นนั้นของนางต้องมีพิษแน่ๆ! หากฝ่าบาทไม่เชื่อ สามารถตรวจสอบปิ่นของนางได้พะย่ะค่ะ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version