Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 184

บทที่ 184

ทำไมไม่หนีต่อล่ะ?

กู้ซีจิ่วยืนอยู่กลางพงหญ้ารกชัฏ ร่างน้อยๆ แทบจะจมหายไปในพงหญ้า

เธอเงยหน้ามองซากปรักหักพังภายในบ้านร้าง กวาดสายมองรอบๆ อย่างรวดเร็ว

นี่คือบ้านผีสิงอันโด่งดัง ไม่ค่อยมีใครเข้ามา ในบ้านหลังใหญ่นี้จึงมีเพียงตัวเธอ

เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อครู่นั้นเธอได้ยินเสียงหัวเราะน่าฟังของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!

เขาหาเจอได้ยังไง?!

โชคดีที่ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอว่องไว อีกทั้งใช้วิชาเคลื่อนย้ายได้ทันกาล!

ตอนเธอเคลื่อนย้ายคนอื่นจะจับทิศทางของเธอไม่ได้ ทั้งยังหายแวบไปในชั่วพริบตา และไม่เหลือกลิ่นอายใดไว้ตามทางด้วย ดังนั้น ถ้าคิดไล่ตามเธอจะต้องคว้าน้ำเหลวแน่นอน…

นึกถึงปีนั้นที่เธอไปสังหารผู้มีอิทธิพลรายหนึ่ง ถูกลูกน้องหลายสิบคนล้อมไว้ในรังของศัตรู หลายสิบคนนั้นเล็งกระบอกปืนใส่เธอจนดำพรืดไปหมด ในตอนที่พวกเขาจะเหนี่ยวไก เธอกลับใช้วิชา เคลื่อนย้ายหายตัวไป

ภายหลังลูกน้องหลายสิบคนนั้นถูกจับ ยามที่ให้การกับตำรวจก็ยังหวาดผวาอยู่ ด้วยนึกว่าพวกเขาเจอผีเข้าแล้ว…

แม้ฝีมือของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้นจะสูงส่ง วิชาสืบรอยจะร้ายกาจ เธอก็ไม่เชื่อว่าหลังจากจากเธอเคลื่อนย้ายติดต่อหลายครั้งแล้วเขาจะยังคงหาพบอีก!

การใช้วิชาเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่องทำให้เธอหอบเล็กน้อย กู้ซีจิ่วสงบสติ นั่งลงบนบันไดขั้นหนึ่ง ‘เสี่ยวชาง เจ้าสัมผัสดูหน่อยสิ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายโรคจิตผู้นั้นคงไม่ไล่ตามมาแล้วใช่ไหม?’

สหายเสี่ยวชางนิ่งสนิท ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งก็วางลงบนไหล่ นํ้าเสียงเนิบนาบดั่งสายลมเย็นฉ่ำเสียงหนึ่งแว่วอยู่ข้างหูเธอ “เด็กน้อยเจ้าพูดอะไรอยู่?”

กู้ซีจิ่วขนลุกไปทั้งตัว!

กู้ซีจิ่วพุ่งตัวไปด้านหน้าทันที มือข้างนั้นหลุดจากไหล่ เธอฉวยโอกาสใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง หายตัวไปจากจุดเดิม

ณ ที่นาผืนหนึ่ง เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง พืชไร่ฤดูใบไม้ผลิที่ดูคล้ายข้าวโพดยังไม่ถูกเก็บเกี่ยว ยืนต้นอยู่ตรงนั้นเป็นทิวแถวราวกับผืนมุ้งสีเขียวแกมเหลือง

หนนี้กู้ซีจิ่วมาโผล่ในไร่ข้าวโพด รอบด้านล้วนพืชเกษตร สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านใบจนเกิดเสียงดังซู่ซ่า

เพราะฝนไม่ตกมานานมากแล้ว บนใบของพืชเหล่านี้เลยมีฝุ่นอยู่ไม่น้อย กู้ซีจิ่วยืนอยู่ด้านในครู่หนึ่ง เสียดสีฝุ่นให้ติดร่างกาย

การใช้วิชาเคลื่อนย้ายบ่อยเกินไป จะทำให้ผู้ใช้หน้ามืดตาลาย กู้ซีจิ่วหอบหายใจรุนแรง เธอนั่งพักบนคันนาเส้นหนึ่ง

ถึงแม้ฝีมือของทูตสวรรค์ผู้นั้นจะเยี่ยมยอด แต่คนผู้นี้เป็นโรครักสะอาด สถานที่เช่นนี้เขาคงไม่ตามหรอกกระมัง?

ถ้าเขาโผล่มาอีกเธอจะชิงสะบัดฝุ่นใส่เขาก่อนเลย!

ความคิดนี้เพิ่งจะจบลง ด้านหลังพลันมีเสียงคนถอนหายใจเบาๆ อยู่ไม่ไกล “ไม่ได้เรื่องไปกันใหญ่แล้ว จากวังหลวงสู่บ้านร้างและมาสู่ที่รกร้าง…จุ๊ๆ เลือกสถานที่พักผ่อนให้สบายกว่านี้หน่อยไม่ได้ หรีอ?”

หนนี้กู้ซีจิ่วไม่ได้ใช้วิชาเคลื่อนย้ายต่อ เธอค่อยๆ หันหลังไป หรี่ตามองจุดที่เสียงดังขึ้นมาด้านหลัง

บนยอดข้าวโพดสกปรกเลอะเทอะ มีคนผู้หนึ่งยืนอยู่อย่างสบายๆ เรือนผมยาวจรดเอว สวมเสื้อคลุมสีม่วง แถบแพรคาดหน้าผาก ประดับอัญมณีสีแดงทรงนัยน์ตาจิ้งจอก ดวงอาทิตย์ยามอัสดงลอยอยู่เบื้องหลัง ทำให้ใบหน้าของเขาเลือนรางเล็กน้อย

ตี้ฝูอี!

กู้ซีจิ่วค่อยๆ ลุกขึ้นมา “ท่านต้องการอะไรกันแน่?”

ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าตนเองหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น ไม่รู้ว่าไอ้บัดซบนี่ติดอุปกรณ์ติดตามอะไรไว้บนตัวเธอ ถึงได้หาเจอตลอด!

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมดแล้วชัดๆ ถึงขั้นสระผมแล้วด้วยซ้ำ…

หาเธอพบครั้งเดียวยังพอกล่าวได้ว่าโชคดีดั่งแมวตาบอดพบหนูตาย หาเธอพบสองครั้งยังพอฝืนกล่าวได้ว่าบังเอิญ เช่นนั้นการหาเธอพบติดต่อกันสามครั้งล่ะ?

ตี้ฝูอียืนอยู่บนยอดอ่อนต้นข้าวโพด มองเธออย่างยิ้มๆ “ทำไมไม่หนีต่อล่ะ?”

กู้ซีจิ่วเม้มปากมองเขา มีวูบหนึ่งที่อยากเอาประจำเดือนสาดหน้าอีกฝ่าย

ในเมื่อหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ แล้วเธอยังจะหนีทำซากอะไร! ให้เขาเล่นแมวจับหนูหรือไง? เธอไม่ได้โง่นะ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version