บทที่ 357
ภายหน้าผู้ใดออกเรือนกับเขา ผู้นั้นคงกดดัน
ขณะที่เธอกำลังคุยเล่นกับหยกนภาอย่างไม่อนาทรร้อนใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีสายตาแหลมคมคู่หนึ่งจับจ้องร่างตนอยู่
สายตานั้นราวกับมีรูปร่างจับต้องได้ ทำให้ร่างกายเธอหนาวสะท้านโดยไร้สาเหตุ
เธอเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ และพลันสบนัยน์ตามืดมิดสุดหยั่งคู่นั้นของตี้ฝูอี!
สายตาประสานกันกลางอากาศ ตี้ฝูอีเงียบงัน กู้ซีจิ่วก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง กู้ซีจิ่วพลันหยักยิ้มมุมปากบางๆ ผงกศีรษะเล็กน้อย ท่าทีสุภาพดั่งพบสหายทั่วไป ตี้ฝูอีหรี่ตาลง เรียวปากสีอ่อนโค้งขึ้นนิดๆ ราวกับยิ้มอยู่
รอยยิ้มของคนสวมหน้ากากผู้นี้ทรงเสน่ห์เย้ายวนถึงเพียงนี้ สมกับเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของทวีปซิงเยวี่ยและชายในฝันของหญิงสาวผู้ดีมากมายจริงๆ
กู้ซีจิ่วประเมินอยู่ในใจ
‘เจ้านาย เขาน่าจะจำท่านได้กระมัง? ถึงไม่มีท่าทีแปลกใจเลยสักนิด!’ หยกนภาไม่ชอบใจ
‘เขาเติบโตมาจนป่านนี้ คาดว่าต่อให้พบเทพธิดาเขาก็คงไม่แปลกใจกระมัง?’ กู้ซีจิ่วอธิบาย แล้วถอนหายใจอีกครั้ง ‘อันที่จริงข้าแปลกใจมากว่าทำไมเขาไม่กลายเป็นศัตรูของเหล่าสตรี? บุรุษผู้หนึ่งเติบใหญ่มางดงามกว่าสตรีเสียอีก ภายหน้าผู้ใดออกเรือนกับเขา ผู้นั้นคงกดดัน’
‘เจ้านาย ท่านกล่าวเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าข้าน่าจะโล่งใจได้แล้ว ดูท่าท่านคงไม่อยากออกเรือนกับเขาจริงๆ’ ‘แน,นอนสิ ข้าไม่ได้เสียสตินี่นา!’
คนผู้นี้เจิดจ้าสะดุดตาเกินไป ใครแต่งกับเขาก็กลายเป็นศัตรูของเหล่าปวงชน ไม่รู้ว่ามีคนมากน้อยเพียงใดที่อยากตีท้ายครัว ประกอบกับเขามีนิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดาทางไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะถูกเขาวางแผนเล่นงานเวลาไหน นั่นต่างหากถึงจะเป็นเรื่องอันตรายที่สุด!
ตอนที่กู้ซีจิ่วสนทนากับหยกนภา จักรพรรดิซวนทักทายสองคนนั้นอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสแล้ว กำลังเชื้อเชิญคนทั้งสองเข้าไปด้านใน
กู้ซีจิ่วเดินไปพร้อมกับสตรีคนอื่นๆ เธออยู่รั้งท้ายเล็กน้อย
หยกนภาจับจ้องแผ่นหลังอันโดดเด่นที่สุดของสองคนเบื้องหน้า พลางนินทา ‘เจ้านาย ท่านว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่รักกันจริงหรือไม่?’
กู้ซีจิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กล่าวอย่างไม่แน่ใจนัก ‘มิใช่ว่าเขาเป็นต้วนซิ่วหรอกรึ?’
หยกนภา พลันสั่นสะท้าน!
จู่ๆ ตี้ฝูอีที่เดินอยู่ด้านหน้าก็ชะงักฝีเท้า!
ทำให้อวิ๋นซิงหลัวที่เดินตามมาเกือบจะชนแผ่นหลังเขา!
อวิ๋นซิงหลัวรีบหยุดฝีเท้า “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย?”
ช่วงเวลาที่เขาหยุดชะงักสั้นอย่างยิ่ง แค่ชั่วพริบตาเท่านั้น คนอื่นย่อมไม่ทันสังเกต
กู้ซีจิ่วที่เดินรั้งท้ายก็ยิ่งไม่ทันสังเกต เธอกำลังสนทนากับหยกนภาอย่างออกรส
แถมกู้ซีจิ่วยังบอกข้อสันนิษฐานในใจกับหยกนภาเป็นครั้งแรกด้วย มันตกตะลึงยิ่งนัก บื้อใบ้ไปครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยปาก ‘เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้? ข้าไม่เคยได้ยินเลยว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นต้วนซิ่ว’
‘คนผู้นี้แค่วางแผนรอบคอบ ปกปิดได้มิดชิดยิ่งเท่านั้น’ กู้ซีจิ่วส่ายหน้า
‘ท่านดูออกได้อย่างไร? แล้วคู่ต้วนซิ่วที่เขาหมายปองคือใครกัน?’ หยกนภาใคร่รู้ยิ่งนัก ซักถามอย่างกระตือรือร้น รู้สึกว่านี่คือข่าวซุบซิบข่าวใหญ่
กู้ซีจิ่วไม่ได้อธิบายกระบวนการวิเคราะห์ความเป็นชายรักชายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแก่มัน บอกแค่ผลลัพธ์ของการคาดเดาเท่านั้น ‘คนที่เขาหมายปองคือเทพศักดิ์สิทธิ์ แต่คนที่ชอบน่าจะเป็นหลงซือเย่’
‘สวรรค์เป็นเช่นนี้นี่เอง!’ หยกนภาอุทานตกใจอย่างผู้อ่อนต่อโลก เพียงแต่ยังฉงนอยู่บ้าง ‘แล้วเหตุใดถึงมีข่าวลือว่าเขาจะวิวาห์กับอวิ๋นซิงหลัว? ท่านก็เห็นนี่ พวกเขามาด้วยกันไปด้วยกัน ดูแล้วก็สมกันดี…’
‘ดูสมกันก็ใช่ว่าจะรักกัน บางครั้งก็ต้องมีความแตกต่างถึงจะรู้สึกว่าเข้าคู่กัน ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสวยหยาดเยิ้มล่มเมือง เทพศักดิ์สิทธิ์สูงส่งเย็นชา หลงซือเย่สุขุมเยือกเย็นดั่งภาพวาด บุคลิกของเทพ ศักดิ์สิทธิ์กับหลงซือเย่มีจุดที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้น…’