บทที่ 442
เจ้าชอบข้ามากขึ้นอีกนิดหรือไม่ 5
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้เห็นชัดๆ ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
มันเป็นไข่ที่ส่องแสงสีม่วงวิบวับใบหนึ่ง!
ไข่ใบนั้นมีขนาดเท่าไข่นกกระจอกเทศ บนไข่มีแสงสีม่วงพร่างพราว กำลังจะหล่นลงบนพื้น
หล่นจากที่สูงขนาดนี้ ไข่ใบนี้จะแตกจนไข่แดงทะลักหรือไม่?!
กู้ซีจิ่วแทบจะไม่หยุดคิดเลย เส้นเชือกยืดหยุ่นบนข้อมือพุ่งออกไป ม้วนเป็นวงกลางอากาศ แล้วพันไข่ใบนั้นไว้
ไข่ใบนั้นพลังเปล่งแสงสีม่วงเจิดจ้า เชือกที่พันรอบตัวมันก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มแล้วเช่นกัน ดุจดั่งกระแสไฟฟ้า เพียงชั่วพริบตาแสงสีม่วงนั้นก็แผ่ลามไปทั่วเส้นเชือก…
“ระวัง!” สีหน้าซือเฉินแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ฝ่ามือมีแสงห้าสีวาบขึ้นมา ฟันลงบนเชือกเส้นนั้นทันใด
เส้นเชือกถูกสะบั้นได้ทันทีวงที เมื่อร่วงลงบนพื้น พื้นดินกลายเป็นสีม่วงทันที…
ซือเฉินดึงกู้ซีจิ่วทะยานเบี่ยงไปด้านข้าง ออกห่างจากพี้นที่สีม่วง ยามร่อนลงบนพื้นอีกครั้งเขาก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างที่พบเห็นได้ยาก “เจ้ารนหาที่ตายหรือ? อยากถูกมันดูดกลืนจนเหลือแต่ซากหรืออย่างไร?!”
หัวใจกู้ซีจิ่วเต้นกระหน่ำ เธอเองก็รู้ว่าหนนี้ตนมุทะลุไป
หากเป็นไปตามที่คาด แสงสีม่วงนั้นก็คืออาวุธที่เจ้าไข่ใช้ดูดกลืนเครื่องสังเวย เธอเกือบได้กลับบ้านเก่าแล้ว!
แปลกนัก ปกติเธอไม่ใช่คนมุทะลุแบบนี้ แต่ครั้งนี้สมองเหมือนถูกภูตผีเร่งเร้าจนร้อนรนอย่างน่าประหลาด
เธอลอบสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง ตั้งสติให้มั่น หัวใจที่เต้นรัวสงบลงเล็กน้อย ก่อนมองซือเฉินที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง “ขอบคุณมาก”
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ซือเฉินผู้นี้ยังคงจัดการเรื่องราวได้อย่างน่าไว้วางใจยิ่งนัก การถอยก้าวนั้นของเขาไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตกู้ซีจิ่วไว้เท่านั้น ถึงขั้นสะบัดแขนเสื้อพัดเจ้าหอยยักษ์ที่ทึ่มทื่ออยู่ตรงนั้นให้กระเด็นไปหลายจั้ง เลี่ยงไม่ให้กลายเป็นเครื่องสังเวยของไข่ใบนี้ด้วย
ยามนี้สองคนหนึ่งหอยล้วนอยู่นอกเขตแสงสีม่วง ปลอดภัยชั่วคราว
เจ้าหอยยักษ์อกสั่นขวัญกระเจิง ฝาอ้าค้างหุบไม่ลง “เกือบไปแล้วๆ!”
กู้ซีจิ่วไม่ใส่ใจมัน สายตาของเธอจับจ้องไข่ใบใหญ่ที่ส่องแสงสีม่วงพร่าวพราว ไข่ใบนั้นตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น แน่นิ่งไปชั่วคราว
เจ้าหอยยักษ์ค่อยๆ เขยิบไปอยู่ข้างกายคนทั้งสอง จากนั้นก็อ้าปากงับชายชุดมุมหนึ่งของซือเฉินอย่างไร้สุ้มเสียง
เมื่อกี้อันตรายเหลือเกิน! หากมิใช่เพราะซือเฉินพัดมันกระเด็นได้ทันกาล เกรงว่ามันคงถูกแสงสีม่วงนั้นดูดกลืนจนเหลือแต่ซากแห้งไปแล้ว!
มันมิได้โชคดีอยู่ร่ำไป ถ้าเผชิญสถานการณ์อันตรายเข้าจริงๆ เจ้าหนุ่มหน้าขาวผู้นี้จะต้องคำนึงถึงเพียงความเป็นความตายของกู้ซีจิ่วแน่นอน จะไม่คำนึงถึงมันอีก ดังนั้นมันต้องงับชายชุดเขาไว้จะได้ปลอดภัยหน่อย ขอเพียงเขาล่าถอย ก็จะพามันถอยไปด้วยแน่นอน…
ซือเฉินกลับไม่แยแสมัน มือหนึ่งเขาจูงกู้ซีจิ่วไว้ อีกมือหนึ่งจรดนิ้วอยู่ในแขนเสื้อ เตรียมพร้อมเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ถึงแม้เขาจะผนึกพลังวิญญาณส่วนใหญ่ของตนไว้ แต่เมื่ออยู่ในช่วงเวลาวิกฤตก็ยังคลี่คลายได้อย่างไม่ลำบากลำบนนัก ร่ายอาคมสักอย่างก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว
เพียงแต่ถ้าไม่พบช่วงเวลาคับขันที่สุดเขาก็ไม่คิดจะทำเช่นนี้
ถึงเขาจะควบคุมลิขิตสวรรค์ แต่ก็ไม่อาจละเมิดลิขิตสวรรค์ได้ มิเช่นนั้นจะก่อให้เกิดหายนะอันใดบ้างก็ไม่อาจทราบได้
ถึงเขาจะไม่เกรงกลัว แต่เด็กสาวผู้นี้เปราะบางดุจไข่ใบหนึ่ง เกรงว่าจะต้านรับไม่ไหว…
เขาหรี่ตามองไข่ใบนั้น แต่ก็ไม่มีท่าทีจะเร่งรัดให้กู้ซีจิ่วจากไป
จู่ๆ ไข่ใบนั้นก็พุ่งตรงเข้ามา!
กู้ซีจิ่วเตรียมการไว้นานแล้ว ขณะที่จับซือเฉินไว้คิดจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายจากไป ไข่ใบนั้นก็พุ่งมาถึงเบื้องหน้าคนทั้งสองแล้วหยุดลงที่ระยะห่าง 2 เมตร แสงสีม่วงเริ่มหมุนวนไปรอบๆ มัน จากนั้นเสียงกรงเล็บขีดข่วนก็แว่วออกมาจากเปลือกไข่ใบนั้น
ไข่ใบนี้จะฟักแล้วหรือ?!
กู้ซีจิ่วเบิกตากว้างจ้องมันเขม็ง
‘แกรก!’ บนไข่ใบนั้นปริแตกเป็นรู เผยให้เห็นกรงเล็บโค้งงอข้างหนึ่ง
กรงเล็บนั้นมีสีอ่อน ดูนุ่มนิ่มอย่างยิ่ง
กรงเล็บนั้นกะเทาะเปลือกไข่ เกิดเสียงดังแกรกๆ อีกครั้ง อุ้งเท้าสีม่วงแซมลวดลายสีดำข้างหนึ่งโผล่ออกมาโดยสมบูรณ์