Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 549

บทที่ 549

ผู้บงการตัวจริง 2

นี่คือแผนซ้อนแผน เงื่อนซ่อนเงื่อน

ถึงผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังจะเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก แต่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์…ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะเหนือชั้นกว่า เป็นจิ้งจอกเฒ่า

กู้ซีจิ่วมองเชือกเซียนที่รัดจนจมลึกเข้าไปในผิวกายขององค์ชายหรงเช่อ อดไม่ไหวจึงเอ่ยถามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เจ้าคะ พวกเขาแค่ถูกผู้อื่นควบคุม มิได้กระทำเรื่องนี้โดยเจตนาตน สามารถใช้วิธีอื่นคุมตัวพวกเขาได้ไหมเจ้าคะ? ไม่ต้องใช้เชือกเซียนเส้นนี้”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “เจ้าสามารถลองใช้วิธีอื่นได้”

ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงลองใช้วิธีอื่นดู สกัดจุดเอย กั้นชีพจรเอย ใช้วิชาตรึงร่างเอย…วิธีการทั้งหมดที่ตนรู้เธอล้วนนำมาลองใช้จนสิ้น ผลคือไม่มีประโยชน์อะไรเลย สองคนนั้นดิ้นรนหนักธงกว่าเดิมอีก…

และเริ่มเปิดปากพูดเพ้อเจ้อ สิ่งที่อวิ๋นซิงหลัวกล่าวคือ “กู้ซีจิ่ว ข้าจะฆ่าเจ้า! จะฆ่าเจ้า! จะฆ่าเจ้า! ฝูอี ฝูอี…ท่านมองข้าหน่อยได้หรือไม่? ข้าทุ่มเทมากจริงๆ นะ ข้ายอดเยี่ยมกว่านางนะ ยอดเยี่ยมกว่านางแน่นอน…”

สีหน้าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เรียบเฉย ทูตเฉิงเอ้อชำเลืองมองเจ้านายตนแวบหนึ่ง พยายามทำให้ตัวเองนิ่งเฉย

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ คิดไม่ถึงว่าความรู้สึกที่อวิ๋นซิงหลัวมีต่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะหยั่งรากลึกถึงเพียงนี้…

ภาพตี้ฝูอีที่ยิ้มคล้ายมิยิ้มผุดขึ้นมาในสมอง จิตใจจ้าวุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายช่างมีชะตารักดอกท้อมากมายโดยแห้ บุคคลเช่นนี้เรียกได้ว่าชะตาดอกท้อยั่งยืน ชั่วชีวิตนี้จะหยุดอยู่ที่สตรีนางเดียวได้จริงๆ หรือ?

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าคนเช่นตี้ฝูอีเหมาะจะเป็นม้าพ่อพันธุ์ วังหลังมีโฉมงามสามพันนาง ทุกนางมอบกายถวายชีวิตเพื่อเขา ทว่าเขากลับสามารถสะบัดแขนเสื้อลอยชาย มิอาจรั้งเมฆาให้อยู่กับที่ได้ มิอาจสละทั้งพงไพรเพื่อพฤกษาเพียงต้นเดียว…

“คิดอะไรอยู่?” เสียงท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แว่วเข้ามาในหู

กู้ซีจิ่วเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ สบเข้ากับดวงตาลึกลํ้าดั่งผืนสมุทรคู่นั้นของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ศีรษะเธอร้อนวาบขึ้นมา เอ่ยความคิดในใจที่ยังไม่ได้ไตร่ตรองผ่าน สมองออกมา “ตี้ฝูอีคือม้าพ่อพันธุ์[2]…”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึง…

“อุ้บ แค่กๆ” ทูตเฉิงเอ้อสำลักอย่างไร้มารยาท

“ซีจิ่ว!” หลงซือเย่เรียกเธอ

กู้ซีจิ่วก็รู้ตัวแล้ว ความรู้สึกแรกของเธอก็คือสมองของตนคงจะถูกอะไรบางอย่างเตะเข้า! ถึงได้โพล่งถ้อยคำเช่นนี้ออกมาอย่างหุนหันพลันแล่น!

ถึงแม้ตี้ฝูอีจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ ซึ่งท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกชะตากับตี้ฝูอีเป็นพิเศษ

อีกอย่างกู้ซีจิ่วก็ไม่ชอบว่าร้ายผู้อื่นลับหลัง อย่างมากก็บ่นพึมพำในใจเท่านั้น ไม่ได้เอ่ยออกมา ทว่ายามนี้กลับกล่าวออกมาต่อหน้าสาธารณะชน…

ตนโดนคุณไสยอะไรหรือเปล่านะ? อยู่ต่อหน้าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ยังพูดความในใจออกมาอย่างยั้งใจไว้ไม่อยู่!

เคราะห์ดีที่ตามกฎเกณฑ์ของทวีปนี้ หากลอบปองร้ายสานุศิษย์สวรรค์จนถึงแก่ชีวิตจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ร้ายแรง แต่จะไม่ติฉินนินทาเลยก็คงเป็นไปไม่ได้..

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์น่าจะไม่ลงโทษเธอจริงๆ

อีกอย่างท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่เข้าใจว่าความหมายของคำว่า ‘ม้าพ่อพันธุ์’ นี่คือคำศัพท์ของยุคปัจจุบัน เธอเคยอธิบายให้ตี้ฝูอีฟังเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

สายตาที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองเธอค่อนข้างคาดเดายาก ทว่าไม่ได้พูดอะไร กู้ซีจิ่วค่อนข้างขนลุกนิดหน่อยที่ถูกเขามอง กระแอมไอพลางเอ่ยอธิบายอย่างขอไปที “ม้าพันธุ์ความหมายคือ…ลํ้าเลิศ…พันธุ์

มิใช่มีถ้อยคำที่กล่าวไว้ว่าเมล็ดพันธุ์ที่ถูกคัดเลือกหรอกหรือ? สานุศิษย์สวรรค์ทั้งหมดล้วนเป็นดั่งเมล็ดพันธุ์ที่ถูกคัดเลือก สำคัญอย่างยิ่ง ม้า ก็คือคล้อยตามศีรษะอาชาแม่ทัพ[3]…ความหมายของม้าพ่อพันธุ์ก็คือผู้นำสานุศิษย์สวรรค์”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เงียบงัน

หลงซือเย่ค่อนข้างทนดูไม่ได้ กระแอมไอ เบี่ยงหัวข้อสนทนาเสีย “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ดวงวิญญาณของหูชิงชิงซ่อมแซมสมบูรณ์แล้วหรือขอรับ? นางสารภาพอะไรออกมาบ้าง?”

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง กำลังจะพูด จู่ๆ เจ้าหอยยักษ์ที่เพิ่งตามมาถึงที่นี่ก็อ้าฝาออกทันที เครื่องหมายคำถามอยู่บนใบหน้า “เอ๋ เสียงขลุ่ยนั่นหายไปไหนแล้ว?”

………………….

[1] ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม เป็นหนึ่งในกลศึกสามก๊ก หมายถึงการโจมตีในจุดที่ศัตรูต่างคาดไม่ถึง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ศัตรูตั้งรับได้ถูก

[2] ม้าตัวผู้ หมายถึง ผู้ชายเจ้าชู้ที่มีสัมพันธ์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตา

[3] คล้อยตามศีรษะอาชาแม่ทัพ หมายถึง ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version