บทที่ 560 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนหลังนาง 2
“มองไม่เห็นไม่ได้แปลว่าไม่มี” มีคนไม่เห็นด้วย “หรือนางจะใช้คาถาอะไรซ่อนเร้นไว้? พอคาถาซ่อนเร้นเหล่านี้สลายไป เกรงว่าคงงดงามจนทำให้คนอยากควักลูกตาทิ้ง”
“เฮ้ๆ ตอนนี้พวกเรากำลังคุยกันว่าจะจัดการหอยตัวนี้อย่างไร มิใช่ทับถมเจ้าของมันอยู่ที่นี่” ในที่สุดก็มีคนลุกขึ้นมาลากหัวข้อสนทนาที่ออกทะเลไปไกลกลับมา
“หอยตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของนาง ย่อมต้องคุยเรื่องของนางก่อน” บางคนยังติดลมอยู่
“วางเรื่องรูปโฉมของแม่นางน้อยผู้นี้ลงก่อน ยามนี้ต่อให้นางงดงามแค่ไหนก็เทียบซิงหลัวไม่ได้ ซิงหลัวสิถึงจะเป็นยอดหญิงงาม ข้าคิดว่าเหตุผลที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์รับนางเป็นศิษย์น่าจะเป็นเพราะนาง มีอุบายลํ้าลึก และพอมีความสามารถอยู่บ้าง อ๊ะ พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องยามที่นางอยู่อาณาจักรเฟยซิงหรือไม่? แต่ก่อนแสนอ่อนแอและไม่มีตัวตน แต่ปีนี้ประหนึ่งถูกปีศาจสิงสู่ ทำสิ่งที่ไม่เคยทำออกมาสารพัด ไม่รู้ว่าเสี้ยมด้วยวิธีใด ทำให้กู้เซี่ยเทียนสังหารเหลิ่ง ฮูหยิน ซ้ำยังทำให้กู้เทียนฉิงและหรงเหยียนถูกประหาร อ่อ ใช่แล้ว กู้เทียนอีพี่สาวอีกคนของนางก็ถูกตัดสินแล้วเนรเทศไปยังด่าน
ชายแดน ได้ยินว่าสิ้นชีพระหว่างทาง ใช่แล้ว ยังมีกู้เทียนเฉาด้วย นั่นคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลกู้ ถูกท่านทูตสวรรค์ออกคำสั่งให้สังหารเสีย…ตระกูลกู้เรียกได้ว่าบ้านแตกสาแหรกขาด ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะนาง…ที่น่าประหลาดยิ่งกว่านั้นคือ นางทำลายครอบครัวตนจนย่อยยับถึงเพียงนั้น ยังมีหน้ามาตัดความสัมพันธ์กับบิดาตนอีก ทำราวกับนางได้รับความอยุติธรรมนักหนา! หนึ่งปีมานี้นางก่อเรื่องขึ้นมากมาย ทำให้คนตายไปมากมายปานนั้น…พวกเจ้าว่า นางมีอุบายลํ้าลึกหรือไม่เล่า? น่ากลัวมากหรือเปล่า? ถุย! คุณชายเช่นข้าน่ะรังเกียจสตรีมากเล่ห์เช่นนี้ที่สุด! อีกทั้งท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยังประคองนางไว้ดั่งสมบัติลํ้าค่า ทำให้เจ้าหอยตัวนี้อาศัยบารมีผู้เป็นนายมาระรานผู้อื่น…”
ทุกคนพากันเห็นด้วย รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าสหายที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้วิเคราะห์ได้ถูกต้อง
คนกลุ่มนี้ล้วนเป็นเด็กๆ อายุราวสิบห้าสิบหกปี เป็นวัยเลือดร้อนบ้าพลัง และคล้อยตามได้ง่ายยิ่งนัก ดังนั้นเมื่อพวกเขาคุยไปคุยมา ความเดือดดาลก็พุ่งกระฉูดขึ้นมา เมื่อมองเจ้าหอยตัวนั้นอีกครั้งก็รู้สึกขวางหูขวางตามากขึ้นเรื่อยๆ!
หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างเหยียดหยัน “เจ้าหอยตัวนี้น่าชังยิ่งนัก! กินสัตว์พาหนะของพวกเราสองคน! ซ้ำยังจองหองถึงเพียงนี้! ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาชัดๆ!”
“ได้ยินว่าเมื่อก่อนมันกินมนุษย์เป็นประจำ เป็นเพียงสัตว์ชั่วช้าตัวหนึ่ง พวกเราสังหารมันก็นับว่าเป็นการลงทัณฑ์แทนสวรรค์!”
“เช่นนั้นถ้าเจ้าของมันตามมาสู้ตายกับพวกเราจริงๆ จะทำอย่างไร?”
“พวกเราก็อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ที่ด้อยกว่าอย่างนางสิ! อย่างมากก็ชดใช้หอยให้นางสักตัว!”
“วรยุทธ์นางอ่อนด้อยเช่นนั้นต่อให้มาสู้ตายกับพวกเราก็แล้วไปเถอะ กลัวแต่ว่านางจะใช้ลูกไม้สกปรกไปร้องเรียนต่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ ไม่รู้ว่าจะใช้อุบายอันใด ทำให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ลงโทษพวกเรา”
“เหอะ เป็นเจ้าหอยตัวนี้ของนางทำผิดก่อน ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จัดการเรื่องราวอย่างเป็นธรรมเสมอ ไม่มีทางลำเอียงเข้าข้างนาง ขอเพียงพวกเราไม่ทำให้นางบาดเจ็บจริงๆ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์คงไม่ลงโทษพวกเราเพราะหอยตัวเดียวหรอก”
“นี่ก็พูดยาก ไม่รู้ทำไมท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถึงเอ็นดูนางเป็นพิเศษ พอมาถึงก็สำแดงเดชพานางออกมาจากคุก ซ้ำยังระบายแค้นแทนนาง แม้แต่ท่านอาจารย์ใหญ่กู่ก็ได้รับโทษหนัก ข้ารู้สึกว่าท่านเทพ ศักดิ์สิทธิ์…ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็มิได้เที่ยงธรรมถึงเพียงนั้น…”
“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แค่เข้าข้างนาง แล้วจะเข้าข้างเจ้าหอยชั่วตัวนี้ด้วยหรือ? พวกเราประหารก่อนแล้วค่อยอุทธรณ์ทีหลัง เด็กสาวคนนั้นก็หมดหนทางแก้ไขแล้ว ต่อให้นางไปร้องเรียนต่อท่านเทพ ศักดิ์สิทธิ์ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะสังหารพวกเราทั้งหมดเพื่อหอยตัวเดียวจริงๆ น่ะหรือ? พวกเราคือศิษย์หัวกะทิของชั้นเรียนเมฆาม่วง อีกทั้งสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก็เป็นสำนักศึกษาที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก่อตั้งขึ้นมา เมื่อนับเช่นนี้พวกเราก็ถือว่าเป็นศิษย์ของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กึ่งหนึ่งเหมือนกัน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงโทษพวกเราจริงๆ อย่างมากก็คงกักบริเวณสักสี่ซ้าห้าวัน…”