Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 573

บทที่ 573 นางคือพญาหงส์ 5

ไม่ทราบว่าเริ่มตั้งแต่วัน ไหน จู่ๆ สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก็มีข่าวลือเรื่องหนึ่งแพร่ออกมา

กล่าวว่ากู้ซีจิ่วผู้มาใหม่มีวิธีรักษาเชียนหลิงอวี่…

ข่าวลือนี้พัดโหมดั่งพายุ แพร่กระจายไปทั่วสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ข่าวลือนี้เริ่มร่ำลือในชั้นเรียนเมฆาคล้อยก่อน แล้วค่อย

แพร่ไปถึงชั้นเรียนเมฆาม่วง จากนั้นคณะอาจารย์ที่อยู่เบื้องบนก็ได้ยินข่าวลือนี้ด้วย…

ปฏิกิริยาแรกที่ผู้คนได้ยินข่าวลือนี้ก็คือ…เป็นข่าวลือ!

เป็นข่าวลืออย่างแน่นอน!

อย่างไรเสียเรื่องของเชียนหลิงอวี่ก็ทราบกันทั่วสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์อยู่แล้ว รู้กันถ้วนหน้าว่ายามนี้เขาก็คือสวะที่ฝึกฝนพลัง

ไม่ได้ซ้ำ ยังไร้หนทางช่วยเหลือเยียวยาด้วย

บัดนี้ผู้ที่มาใหม่อย่างกู้ซีจิ่ว เด็กสาวที่ขนยังไม่งอกคนหนึ่งจะมีความสามารถเช่นนี้จริงๆ น่ะหรือ?

จะเป็นไปได้อย่างไร?!

อาการป่วยของเชียนหลิงอวี่ในยามนั้นผู้ที่ถูกเรียกขานว่าแพทย์ชั้นสูงเคยมาดูอาการแล้ว ล้วนกล่าวกัน ว่าหมดหนทางรักษาแล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่กู้ซีจิ่วจะทำได้?

หลอกลวง!

กู้ซีจิ่วผู้นี้หลอกลวงอยู่กระมัง?!

หลอกให้ เชียนหลิงอวี่เป็นสหายกับนาง รับใช้นางต่างวัวต่างม้า…

ด้วยเหตุนี้ยามที่กู้ซีจิ่วไปกินอาหารอีกครั้ง สายตาที่มองเธอเหล่านั้นจึงเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม มีทั้งสนใจใคร่รู้ มีทั้งข้องใจสงสัย

แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือรังเกียจและราวกับมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอได้ทะลุปรุโปร่ง

สายตาที่มองว่าเธอเหมือนสตรีมากเล่ห์ เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

แต่สายตาที่ทอดลงบนร่างเชียนหลิงอวี่กลับฉายแววเวทนา หรือไม่ก็เหมือนมองคนโง่ที่กำลังโดนหลอก…

ทว่ากู้ซีจิ่วกลับไม่สะทกสะท้าน หนึ่งวันมาทานอาหารที่โรงอาหารสามมื้อ แถมทุกครั้งล้วนมากับเชียนหลิงอวี่

ภายใต้สายตาที่มองดั่งเห็นปีศาจจิ้งจอกจอมหลอกลวงมากมาย เธอเดินอย่างเอ้อระเหยลอยชาย แจ่มใสยิ่งนัก

ทำให้ผู้คนมากมายเห็นแล้วชิงชังนัก ในที่สุดก็มีคนที่มองต่อไปไม่ได้…

กู้ซีจิ่วมองเยี่ยนเฉินที่ เข้ามาขวางทางเบื้องหน้ากะทันหัน เธอเลิกคิ้วพลางเอ่ยถาม “คุณชายเยี่ยนมีธุระอะไรหรือ?”

ตอนนั้นเธอกับเชียนหลิงอวี่กำลังจะขึ้นไปชั้นบน เยี่ยนเฉินกำลังถูกเหล่าศิษย์คนอื่นๆ รุมทักทายอยู่ตรงนั้นดั่งดาวล้อมเดือนจู่ๆ

แหวกฝูงชนออกมา ตรงเข้ามาปิดกั้นหนทางของพวกกู้ซีจิ่วทั้งสอง

เยี่ยนเฉินเป็นดั่งบุปผาบนยอดดอย ไม่เอ่ยปากสนทนากับใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับสตรี

สำนักศึกษาถามสวรรค์มีศิษย์หญิงอยู่หลายสิบคน ศิษย์หญิงเหล่านี้ย่อมหยิ่งทระนงเช่นกัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยนเฉิน แต่ละคนว่าง่ายดั่งแกะน้อย สตรีที่ชอบเขามีมากถึงสองในสาม ดังนั้นเมื่อเขาไปไหนก็แทบจะเป็นจุดสนใจอยู่เสมอ เป็นเป้าที่สตรีเหล่านี้ไล่ตาม ทว่าเขากลับคร้านจะเสวนากับพวกนาง นอกเหนือจากการสื่อสารด้วยความจำเป็นแล้ว เขาก็ไม่สนใจพวกนางเลย

บัดนี้บุปผาบนยอดดอยผู้นี้มาขวางทางกู้ซีจิ่วไว้กะทันหัน บรรดาสตรีที่อยู่ในเหตุการณ์แทบจะมองตรงมาทันที ส่วนบรรดาศิษย์ชายกลับมีท่าทีเหมือนรอชมเรื่องครื้นเครง

ทว่าก็ซีจิ่วกลับไม่มีท่าทีพิเศษอันใด ราวกับผู้ที่ขวางทางเธอคือคนที่ผ่านทางมาเท่านั้น

“กู้ซีจิ่ว ไม่ว่าอย่างไรเชียนหลิงอวี่ก็เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ เป็นศิษย์น้องของผู้แซ่เยี่ยน เจ้าจงอยู่ให้ห่างจากเขาเสีย!” ในที่สุดเยี่ยนเฉินก็เปิดปากเอ่ย น้ำเสียงเยียบเย็นปานหิมะน้ำแข็ง

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว เผยสีหน้าไม่เข้าใจ “ประหลาดนัก เหตุใดเจ้าต้องให้ข้าอยู่ห่างจากเขาด้วยล่ะ? หากไม่มีอะไรเห็นทีความคาดหมายในอนาคตข้าและเขาก็จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ระหว่างเพื่อนร่วมชั้นมิใช่ว่าควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันหรอกหรือ? ข้า และเขาเพียงแรกพบก็ชิดเชื้อดั่งเพื่อนเก่า สนิทกันสักหน่อยแล้วจะเป็นไรไปเล่า?”

เชียนหลิงอวี่ยังค่อนข้างยำเกรงเยี่ยนเฉินผู้นี้อยู่บ้าง เขากระแอมไอพลางกล่าว “ศิษย์พี่เยี่ยน ข้ากับซีจิ่วเข้ากัน ได้ดีมาก…”

เยี่ยนเฉินไม่สนใจเขา สายตายังคงจับจ้องที่ร่างกู้ซีจิ่วเช่นเดิม ราวกับมองหมาป่าที่คิดจะล่อลวงหนูน้อยหมวกแดง “กู้ซีจิ่ว ข้า รู้ว่าเจ้าวางแผนอะไรอยู่ แต่เชียนหลิงอวี่มิใช่เป้าหมายที่เจ้าควรจะเล่นเล่ห์ได้! เขา…เป็นเช่นนี้ไปแล้ว เจ้ายังแข็งใจซ้ำ

เติมได้ลงคออีกหรือ?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version