Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 589

บทที่ 589 จ่ายเงินยลโฉม 2

สายตาจิ่งหลานเย่าคมดั่งมีด “นี่เป็นเรื่องสำคัญ ให้ข้าเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านสักแวบเถิด วิชาหลอมโอสถของท่านล้ำเลิศถึงเพียงนี้จะต้องเป็นผู้มีความสามารถเป็นแน่ มิสู้เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงออกมาแล้วพวกเรามาคบหากัน”

กู้ซีจิ่ววางนิ้วลงบนหน้ากากบนใบหน้าเอ่ยว่า “พวกท่านต้องการฝ่าฝืนกฎของที่นี่สินะ?”

จิ่งหลานเย่าสูดลมหายใจเข้าไป กล่าวว่า “เรื่องเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ข้าก็เพิกเฉยไม่ได้ หากมีความผิดประการใด โปรดอภัยให้ด้วย หากทำให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ พวกเราจะชดใช้ให้แก่เจ้า”

กู้ซีจิ่วหัวเราะ “ที่จริงข้าก็ไม่มีอะไรให้ผู้อื่นมองไม่ได้ เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎของที่นี่เท่านั้น ถ้าต้องการให้ข้าถอดหน้ากากออกก็ไม่ยาก ขอเพียงท่านกระทำเรื่องหนึ่งก็พอ”

จิ่งหลานเย่าขมวดคิ้ว “เรื่องใดกัน?”

กู้ซีจิ่วยื่นมือน้อยๆ ไปทางเขา “จ่ายเงิน! หินวิญญาณสองพันก้อนต่อการมองหนึ่งครั้ง!”

จิ่งหลานเย่าตะลึง

ฝูงชนก็ตะลึงเช่นกัน

“มีเหตุผลเช่นนี้ที่ไหนกัน?” ปรมาจารย์โอสถท่านหนึ่งกล่าวขึ้นมาอย่างเหลืออด “เจ้าเป็นโจรชัดๆ!”

หินวิญญาณสองพันก้อนเชียวนะ ปรมาจารย์โอสถหนึ่งท่านในหนึ่งปียังหาไม่ได้มากถึงเพียงนี้เลย!

น้ำเสียงกู้ซีจิ่วราบเรียบ ไม่มีวี่แววผ่อนปรนเลยสักนิด “จะปล่อยให้พวกท่านทำผิดกฎเปล่าๆ ได้อย่างไร? จ่ายเงินแล้ว ดูหรือไม่ก็เปิดทางให้ข้าจากไปซะ!”

ฝูงชนพูดไม่ออก

จิ่งหลานเย่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนนี้เป็นพวกเขามีเหตุผลละเมิดกฎก่อนจริงๆ แต่คนผู้นี้จะต้องเห็นให้ได้…

“ได้ ตกลง! หินวิญญาณสองพันก้อนต่อการเห็นเจ้าหนึ่งครั้ง” จิ่งหลานเย่าตอบตกลง เขาจ้องมองกู้ซีจิ่วพลางเอ่ย “ตอนนี้ เจ้าคงถอดหน้ากากของเจ้าออกได้แล้วกระมัง?”

ดวงตากู้ซีจิ่วหยีโค้ง ตอบว่า “จ่ายหินวิญญาณมาก่อนแล้ว ค่อยมองทีหลัง”

จิ่งหลานเย่าโมโห ล้วงหินวิญญาณทั้งหมดบนร่างออกมา ผลคือไม่เพียงพอ ยังไม่ถึงหนึ่งพันก้อน

ปรมาจารย์โอสถที่เหลือเห็นเช่นนี้ก็พากันก้าวเข้ามาแล้วเรี่ยไรกัน

เรี่ยไรกันอยู่พักใหญ่ ก็รวบรวมหินวิญญาณได้หนึ่งพันแปดร้อยก้อน ยัง ขาดอีกสองร้อยก้อน…

จิ่งหลานเย่านำหินวิญญาณหนึ่งพันแปดร้อยก้อนมาวางไว้เบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว “เอาเท่านี้ไปชั่วคราวก่อน…”

กู้ซีจิ่วตอกเขากลับประโยคเดียว “น้อยไปสักก้อนก็ไม่ได้!”

จิ่งหลานเย่าโมโหจนหน้าเขียวคล้ำแล้ว ทว่าไม่สามารถทำอะไรเธอได้

ความอยากรู้อยากเห็นของฝูงชนที่มุงดูอยู่รอบๆ ก็ถูกหลอกล่อจนเพิ่มสูงเช่นกัน ผู้ที่มั่งมีบางส่วนเริ่มเรี่ยไรกันบ้างแล้ว มอบให้แบบเจ้าสองก้อนเอย ข้าสามก้อนเอย

หยกนภาที่ชมเรื่องครื้นเครงนี้อยู่ ทอดถอนใจอยู่ในสมองกู้ซีจิ่วอย่างอดไม่ได้ ‘เจ้านาย ท่านได้กำไรมากเหลือเกิน! นี่เปรียบเสมือนฝูงชนระดมทุนกันเพียงเพื่อจะได้ยลโฉมท่านสักครั้งเลยนะ หลายวันก่อนท่านยังยากจนข้นแค้น หินวิญญาณสัก ก่อนก็ยังไม่มี นึกไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ท่านก็กำลังจะกลายเป็นเศรษฐีนีน้อยแล้ว’

กู้ซีจิ่วยิ้มแวบหนึ่งไม่ได้ตอบมัน

ช่วยไม่ได้นี่นา เจ้าหอยยักษ์จอมตะกละตัวนั้นอยากกินอาหารของชั้นเรียนเมฆาม่วงจนตาเขียวปัดแล้ว พร่ำพูดกับเธอมาหลายวันแล้วด้วย เธอย่อมต้องหาเงินให้พอก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เลี้ยงดูสามปากท้องไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ

หินวิญญาณสองพันก้อนในที่สุดก็รวบรวมได้ครบ ส่งถึงมือกู้ซีจิ่ว

หินวิญญาณแต่ละก้อนมีขนาดเท่าเม็ดถั่ว สองพันก้อนก็เต็มถุงใหญ่ใบหนึ่ง กู้ซีจิ่วชั่งน้ำหนักในมือ ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “ที่จริง ทุกคนก็พบหน้ากันตอนกลางวันอยู่เสมอ ต้องจ่ายเงินเพื่อเห็นหน้ากันในยามนี้เลยหรือ”

จากนั้นก็ใส่หินวิญญาณลงไปในถุงเก็บของ แล้วถอดหน้ากากออกเผยโฉมหน้าที่แท้จริง…

….

“ฮ่าๆๆ ข้าขำจะตายอยู่แล้ว ข้าไม่เคยเห็นสีหน้าที่น่าชมถึงเพียงนั้นของจิ่งหลานเย่ามาก่อนเลย ข้ารู้สึกว่าวินาทีที่เขาเห็นหน้าเจ้าอย่างชัดเจนสีหน้าล้วนเขียวคล้ำไปหมด!”

ระหว่างที่เดินทางกลับ แสงดาวสุกสกาวเต็มฟ้า เชียนหลิงอวี่ที่อยู่ด้านข้างยังคงคึกคักอยู่ไม่สร่างซา ดวงตาส่องประกายยิ่งกว่าดาวบนฟ้าเสียอีก ความคึกคักนั้นราวกับจะเอ่อล้นออกมา ดังนั้นเขาจึงตีลังกากลางอากาศสองตลบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version