บทที่ 590 จ่ายเงินยลโฉม 3
เขารู้สึกว่าวินาทีที่กู้ซีจิ่วถอดหน้ากากออกมา สีหน้าคนทั้งหลายประหนึ่งถูกสายฟ้าฟาด ทำให้เขาขบขันไปได้อีกเป็นเดือน!
เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านข้างอารมณ์ดีมาก กู้ซีจิ่วจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ เธอเหวี่ยงถุงใส่เชียนหลิงอวี่เต็มแรง หินวิญญาณในถุงเกิดเสียงดังเกรียวกราว ยืนยันว่ามีจำนวนไม่น้อย เธอเอ่ยขึ้นว่า “พรุ่งนี้พวกเราไปกินอาหารมื้อใหญ่ที่ชั้้นหนึ่งกัน”
“ได้! พอถึงเวลาข้าจะสั่งทุกอย่างหนึ่งจานใหญ่ เอาให้โกรธไปยันลูกหลานเลย!” เพียงเชียนหลิงอวี่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็รู้สึกอิ่มเอมใจ ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “ใช่แล้ว ซีจิ่ว เจ้าคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วใช่ไหมว่าคืนนี้พวกเขาจะกระชากหน้ากากเจ้าอย่างข่มใจไว้ไม่อยู่?”
ดวงตากู้ซีจิ่วหยีโค้งดั่งจันทร์เสี้ยว ตอบสั้นๆ “เจ้าลองเดาสิ?”
เชียนหลิงอวี่เงียบงัน ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะใช้ประโยคคำถาม แต่อันที่จริงเขาแน่ใจอยู่แล้ว
เด็กสาวผู้นี้เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!
เพียงแต่ ถึงแม้จะทำให้คนเกลียด คนกัดฟันกรอดๆ แต่กลับไม่เชิญชวนให้ผู้อื่นรู้สึกเดียดฉันท์
เขากุมหน้าผากแล้วเอ่ยว่า “ซีจิ่ว เจ้าชั่วร้ายเกินไปแล้ว เจ้าสามารถใช้โอกาสนี้คิดวิธีหาเงินออกมาได้!”
กู้ซีจิ่วยิ้มหวาน “แบบข้า เรียกว่าหาเงินเก่ง ไม่อยากแทะกะหล่ำกับหัวผักกาด ก็ต้องคิดวิธีหาเงินให้มากเข้าไว้ เฮ้อ เสียดายจัง…”
“เสียดายอะไร?” เชียงหลิงอวี่ฉงน
“เสียดายที่ทุกคนในตลาดผีสวมหน้ากากกันหมด แถมยังปรับเปลี่ยนรูปร่างด้วย ทำให้ข้าดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร มิเช่นนั้น
หากข้าเห็นคนที่ไม่ต้องตามาซื้อยาของข้า ข้าจะได้ขูดรีดซะ! คิดราคาเพิ่มเป็นเท่าตัว สหรับคนที่ไม่เข้าตาเป็นพิเศษก็จะเพิ่มเป็นสิบเท่า!”
เชียนหลิงอวี่อดไม่ได้ที่จะกลอกตารอบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “โชคดีที่ดูไม่ออก เจ้าถึงได้ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม!”
“ใช่แล้ว ซีจิ่ว ด้วยมิตรภาพของเจ้าและข้า หากในตลาดผีเจ้ามองออกว่าเป็นข้า จะลดราคาให้ข้าหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วตอบหน้าตาย “ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม”
เชียนหลิงอวี่พูดไม่ออก
เขามองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่งอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ ภายใต้สายลมยามราตรีที่พัดโชย เส้นผมสีดำของกู้ซีจิ่วและชุดคลุมยาวบนร่างนางปลิวไสว ดวงตาสดใสคู่นั้นหยีโค้งดุจจันทร์เสี้ยว เจิดจ้าเปี่ยมพลัง ใสกระจ่างดั่งวารี
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น…
“ซีจิ่ว…” เขาเรียกนางคราหนึ่ง
กู้ซีจิ่วได้ยินจึงหันกลับมา เลิกคิ้วขึ้นพลางตอบรับ “หือ?”
เมื่อถูกสายตาของนางจับจ้อง จู่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
คอแห้งผากไปชั่วขณะ…
กู้ซีจิ่วเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ ก็ฉงนเล็กน้อย “เจ้าเป็นอะไรไป?”
เพ่งพิศเขาอีกครั้ง “ไม่สบายรึ? เป็นไข้หรือเปล่า?”
แล้วเอื้อมมือไปคิดจะแตะหน้าผากเขาดู ทว่าเชียนหลิงอวี่กลับ ถอยหลังไปประหนึ่งถูกไฟลวก “อย่านะ! ชายหญิงมิพึงชิดใกล้!”
กู้ซีจิ่วชักมือกลับ เลิกคิ้วมองสีหน้าที่ยอมตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของเขา ไม่ค่อยเข้าใจว่าจู่ๆ เขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมา “หะ?”
“ข้า…ข้าจะกลับไปฝึกฝนแล้ว! ลาก่อน!” เชียนหลิงอวี่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ราวกับด้านหลัง มีภูตผีไล่กวดอยู่ก็มิปาน
กู้ซีจิ่วส่ายหัวไปมา เดินเข้าไปในเรือนของตน
เงาร่างเธอเพิ่งจะหายลับเข้าไปในเรือน เงาร่างสายหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปก็หยุดฝีเท้าลง
คนผู้นี้วรยุทธ์ไม่เลว สะกดรอยตามมาอย่างเงียบเชียบ ไร้สุ้มเสียง ไม่ส่งเสียงดังเลยสักนิด เขายืนอยู่ตรงนั้นมองดูเงาร่างพวกกู้ซีจิ่วทั้งสองแยกย้ายกันหายไป กำถุงเก็บของตนแน่นตามสัญชาตญาณ เขารู้สึกโชคดีเพียงเรื่องเดียว โชคดีที่วิชาแปลงโฉมของตนไม่เลว ที่ตลาดผีจึงไม่ถูกเด็กสาวนางนี้มองออก มิเช่นนั้นโอสถเตานี้คงไม่ได้มาในราคานี้เด็ดขาด!
นึกไม่ถึงว่าเด็กสาวผู้นี้จะมีความสามารถเช่นนี้เป็นยอดฝีมือด้านการหลอมโอสถคนหนึ่ง!
คิดว่าวิชาแพทย์ก็คงยอดเยี่ยม ที่เอาชนะกู่ซีซีได้ครานั้นก็มิใช่เพราะโชคช่วยเช่นกัน…