บทที่ 569 นางคือพญาหงส์
“หุบปาก!”
เชียนหลิงอวี่ไม่กล้าพูดแล้ว กลิ่นอายของกู้ซีจิ่วในยามนี้แข็งแกร่งยิ่ง ทำให้เขาไม่กล้าก่อเรื่องอีก
กู้ซีจิ่วตรวจดูลิ้นและหลังหูเขาต่อ ถึงขั้นสัมผัส ท้ายทอยเขาด้วย
สัมผัสจนเชียนหลิงอวี่ขนลุกซู่
สาวน้อยผู้นี้คงมิใช่ว่าเห็นเขารูปงาม จึงฉวยโอกาสใช้ความปราดเปรื่องมาเอาเปรียบเขากระมัง?
ช่างเถอะ ต่อให้นางเอาเปรียบเขา เขาก็ไม่รู้สึกต่อต้านเช่นกัน
ภายในใจถึงขนาดที่รู้สึกว่านางเอาเปรียบเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ดังนั้นเขาเลยไม่อ้าปากเอื้อนเอ่ยวาจาอีก เพียงใบหน้าหล่อเหลากลับเห่อร้อนขึ้นเรื่อยๆ…
กู้ซีจิ่วไม่สนใจสีหน้าของเขา เมื่อเธอตรวจสอบจุดที่ควรจะตรวจเสร็จ คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย
ไม่ว่าจะเป็นชีพจรหรืออาการอื่นๆ ในร่างเชียนหลิงอวี่ล้วนดูเหมือนเป็นอาการตกค้างจากการถูกธาตุไฟเข้าแทรก ในร่างเขามีชีพจรเล็กๆ เส้นหนึ่งที่ ติดขัดอยู่จริงๆ และถึงแม้ชีพจรเส้นนี้จะเล็กยิ่งแต่กลับเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกฝนบ่มเพาะ ก็เหมือนกับเส้นประสาทตาของมนุษย์ เล็กจนมองแทบไม่เห็น แต่ถ้าได้รับความเสียหายดวงตาก็มองไม่เห็น…
ชีพจรเส้นนี้สำคัญมาก แต่หลังจากมันได้รับความเสียหายกลับฟื้นฟูได้ยากยิ่งนัก…
ที่สำคัญกว่านั้นคือ เธอรู้สึกว่าอาการชีพจรของเชียนหลิงอวี่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับอาการขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัว ใน
ยามนั้นแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันไปเสียทั้งหมด
อาการขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัวในยามนั้นคือถูกพิษกู่ หรือบนร่างของเชียนหลิงอวี่ก็โดนวางกู่อะไรด้วยเหมือนกัน?
แต่เธอตรวจอยู่นานสองนาน ก็ไม่พบอาการว่าถูกพิษกู่ เห็นได้ชัดเจนมากว่าอาการของเชียนหลิงอวี่รับมือได้ยากว่าอาการของ
องค์รัชทายาทหรงเจียหลัว…
เพียงแต่ ก็มิใช่ว่าจะอับจนหนทางไปเสียทั้งหมด…
“เป็นยังไงบ้าง? หมดทางช่วยเหลือแล้วเหมือนกันใช่ไหม?” เชียนหลิงอวี่เห็นนางใคร่ครวญอยู่เงียบๆ อดไม่ไหวจึงเอ่ยถาม ชะงักไปเล็กน้อยแล้ว กล่าวเสริมอีกประโยค ท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ “เจ้าวางใจเถิด เดิมทีข้าก็ไม่ตั้งความหวังอะไรไว้อยู่แล้ว เจ้า ตอบตามจริงมาก็พอ ข้าไม่ถือหรอก”
กู้ซีจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง นิ่งไปเล็กน้อยค่อยกล่าว “อาการป่วยของเจ้า ค่อนข้างยุ่งยากจริงๆ แต่ก็มิใช่ว่าหมดหนทางช่วยเหลือแล้ว เพียงแต่ข้าก็มีความมั่นใจเพียงครึ่งเดียวที่จะรักษาให้หายขาดได้ ไม่กล้ารับประกัน”
“อะไรนะ?!” ดวงตาของเชียนหลิงอวี่ลุกวาวทันที!
น้ำเสียงก็สั่นพร่าแล้ว “เจ้า…เจ้าบอกว่ามีวิธีหรือ?”
“แค่ครึ่งเดียว”
ครึ่งเดียวก็เพียงพอแล้ว!
เดิมทีเขาสิ้นหวังไปแล้วด้วยซ้ำ ยามนี้เขาลืมเลือนข้อห้ามระหว่างชายหญิงไปแล้ว กุมมือกู้ซีจิ่วไว้ทันที “จ…เจ้า ไม่ได้หลอกข้า ใช่ไหม? ต้องการใหข้าทำอะไรบ้าง? ต้องการวัตถุดิบอะไรเจ้าว่ามา…”
กู้ซีจิ่วชักมือตัวเองกลับ ตบบ่าเขาเบาๆ “อย่ารีบร้อน ให้เวลาข้าเตรียมการแปดวัน เจ้าแค่ต้องฝึกฝนทุกวัน อ่อ ยามที่ฝึกฝนจับ
สัมผัสบนร่างกายตนให้ดีๆ…”
เธอบอกเกี่ยวกับวิธีการและเรื่องที่ควรใส่ใจในยามที่ฝึกฝน
เชียนหลิงอวี่ย่อมรีบร้อนตกปากรับคำ ใจเขาร้อนดั่งไฟเอ่ยออกมาว่า “เจ้าจะเตรียมการอย่างไร? ข้าสามารถช่วยเจ้าเตรียมการได้ เช่นนี้จะได้ไวขึ้นอีกหน่อย”
มุมปากของกู้ซีจิ่วหยักขึ้นนิดๆ “ไม่จำเป็น เจ้าแค่ฝึกฝนตามวิธีที่ข้าบอกก็พอแล้ว แน่นอน ทุกวันหลังจากฝึกฝนเสร็จเจ้าต้องบันทึกเหตุการณ์ในยามนั้นอย่างละเอียดแล้วนามามอบให้ข้า เรื่องอื่นก็ไปทำตามที่ข้าบอก”
เชียนหลิงอวี่พยักหน้ารัวๆ “ได้!”
ดวงตากู้ซีจิ่วสาดแสงแวบหนึ่ง อีกแปดวันให้หลัง ไม่แน่ว่าเธออาจสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์
….
คฤหาสน์หลังนี้ที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์สร้างให้กู้ซีจิ่วประหลาดมาก อนุญาตให้เพียงกู้ซีจิ่วและสัตว์เลี้ยงทั้งสามของเธอเข้าออกได้อย่างอิสระ หากผู้อื่นต้องการเข้ามาก็จะต้องทำลายเขตแดนที่อยู่ด้านนอกนั้นเสียก่อน…
เขตแดนที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ติดตั้งผู้ใดจะกล้าทลายให้พังได้โดยไม่ได้รับความเสียหายเล่า?
ดังนั้นผู้อื่นจึงไม่มีทางเข้ามาได้ ซึ่งตอนแรกกู้ซีจิ่วเองก็ไม่ทราบ