บทที่ 63
คนที่อยู่ข้างหลังที่แท้แล้วเป็นใครกันแน่
เดิมทีตอนที่กู้ซีจิ่วเขียนอักษรแถวนี้ก็ไม่ได้คาดหวังให้มีอะไรตอบกลับมา เป็นเพียงแค่การกล่าวเตือน หรือบีบให้อีกฝ่ายแสดงตัวออกมาเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าขณะที่เธอเพิ่งจะแต้มขีดอักษรตัวสุดท้ายเสร็จ จู่ๆ ในอากาศก็ปรากฏเกล็ดนํ้าแข็งที่ค่อยๆ รวมตัวกันเป็นอักษรแถวหนึ่ง ‘ไม่ใช่คนไม่ใช่ผี ไม่ออกไป!’
อักษรเหล่านั้นโผล่ขึ้นมากลางอากาศ เรียงแถวอยู่เบื้องหน้ากู้ซีจิ่วราวกับผีพุ่งใต้ก็มิปาน ทำให้เธอสะดุ้งจนตัวโยน
เธอถอยกลับไปด้านหลังพลางจ้องมองอักษรแถวนั้น ลายอักษรนั้นงดงามนัก และมีพลังยิ่ง หลังจากอักษรที่งดงามนั้นผลิบานอยู่กลางอากาศแล้ว ยังหมุนวนรอบกายกู้ซีจิ่วช้าๆ อยู่รอบหนึ่งด้วย จากนั้นค่อยสลายหาย ไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ยามที่สลายไปก็เหลือความเย็นเหมือนเกล็ดหิมะเอาไว้ ทำให้อุณหภูมิรอบตัวกู้ซีจิ่วลดตํ่าลงหลายองศา
นี่มันวิชาอะไรกัน?!
ประหลาดเหลือเกิน! ทรงพลังเหลือเกิน!
หากว่าเป็นคนอื่นที่ต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์ประหลาดเช่นนี้ในสถานที่เปลี่ยวร้างถึงเพียงนี้ คาดว่าหากไม่ตกใจจนเผ่นแนบไม่เหลียวหลัง ก็คงหวาดกลัว จนตัวสั่น ถ้ากล้าหาญหน่อยก็คงจะชักอาวุธออกมาป้องกันตัว หรือไม่ก็วาดกระบี่ไปทั่ว กำจัดทุกสิ่งให้สิ้นซาก เพื่อบีบให้อีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้น ทว่ากู้ซีจิ่วนั้นเพียงกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วเขียนอักษรอีกแถวหนึ่งลงบนอากาศ ‘เช่นนั้นท่านต้องการสิ่งใด? ข้าและท่านไม่มีความแค้นต่อกัน ท่านคงไม่คิดสร้างความลำบากใจให้แก่ข้ากระมัง’
‘ไม่แน่’ ตัวอักษรจากเกล็ดนํ้าแข็งที่งดงามราวกับดอกกล้วยไม้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง และดูคล้ายจะเย็นเยียบกว่าเก่าด้วย
กูซีจิ่ ว นิ่ง งัน ‘ไม่แน่’ สองตัวนี้ของเขาเป็นการตอบโต้คำพูดของเธอที่ว่า ‘ไม่มีความแค้นต่อกัน’ หรือตอบโต้คำพูดที่ว่า ‘คงไม่คิดสร้างความลำบากใจให้เธอ?’ กันแน่
‘ความหมายของอักษรทั้งสองตัวที่ท่านส่งมาคืออะไร? ขออภัยที่ตัวข้าโง่เขลาเลยมิเข้าใจ!’ กู้ซีจิ่วเขียนต่อ
‘ยังไม่ได้คิด’
‘ข้าและท่านมีความแค้นต่อกันหรือ?’ เธอลองถามเพื่อหยั่งเชิง
ผ่านไปครู่หนึ่ง อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยอักษรที่แสนเย็นชาสองตัว ‘เหอะ เหอะ!’
ไม่น่าใช่มั้ง? ตอนนี้เธอปลอมตัวอยู่ รูปร่างหน้าตานี้ไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของเธอ หรือเธออาจไปหน้าเหมือนใครสักคนเข้า? เลยทำให้ศัตรูจำผิด?
เธอไม่ทราบแน่ชัดว่าที่แท้อีกฝ่ายมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใดกันแน่ ย่อมไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ความจริงเกี่ยวกับตนเอง จึงนิ่งไปเล็กน้อยแล้วลงมือเขียนต่อ ‘ใต้หล้านี้มีผู้ที่หน้าตาคล้ายคลึงกันมากมาย ท่านคงจำผิดคนเสียแล้ว!’
เธอเพิ่งจะมาถึงโลกนี้ได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น จำไม่เห็นได้เลยว่ามีศัตรูเพี้ยนๆ เช่นนี้อยู่ด้วย!
ในระหว่างนี้เธอก็ได้ลอบตรวจสอบหากลิ่นอายจากรอบข้างอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่รู้สึกถึงผู้ใดเลยเหมือนเดิม เช่นนั้นผู้ที่เขียนอักษรสนทนากับเธออยู่ตอนนี้คงจะเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือเป็นแน่!
ตัวอักษรที่คนผู้นี้สร้างขึ้นมานั้นมักจะโผล่มาอย่างฉับพลันและสลายหายไปอย่างฉับพลัน กู้ซีจิ่วครุ่นคิดอยู่ในใจตั้งนานสองนาน ก็คิดไม่ออกว่าบนโลกนี้จะมีใครที่ใช้วิชาแบบนี้ได้
วิชานี้ช่างโดดเด่นตระการตาเสียจริง!
‘ข้าไม่ใช่ศัตรูของท่าน ข้ากับท่านพบกันโดยบังเอิญ นี่เป็นครั้งแรกที่พบกัน’ กู้ซีจิ่วอธิบายเพิ่มไปอีกประโยค
‘ใช่หรือ?’ ยังคงเป็นอักษรสีฟ้าแสนจะเย็นชาที่ตามมาด้วยความเหน็บหนาวเข้าไปถึงกระดูก ราวกับมีบุรุษร้ายกาจที่สลักจากนํ้าแข็งกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเธอด้วย ท่าทีเฉื่อยชาก็มิปาน
กู้ซีจิ่วสืบค้นหาข้อมูลของผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในสมองเธอ แต่ก็ไม่พบว่ามีคนรู้จักคนไหนที่ใช้วิชาพิสดารเช่นนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงศัตรูเลย