Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 652

บทที่ 652 เจ้าโผล่มาจากไหนกัน?

ยามปกติกู้ซีจิ่วก็มานั่งเล่นที่นี่อยู่บ่อยครั้ง นั่งรับลม เรียบเรียงความคิด วางแผนสำหรับอนาคต

ครั้งนี้ก็เธอก็เหมือนเช่นเคย ความกลัดกลุ้มของเธอไม่สืบเนื่องยาวนานนัก นั่งอยู่เช่นนี้ สักพัก ก็ถูกลมภูเขาพัดพา ให้กระจัดกระจายไปนานแล้ว

เธอเริ่มครุ่นคิดเรื่องการประลองในอีกสามวันให้หลัง วางแผนการอยู่ในใจ

กู่ฉานโม่กล่าวว่า ขอเพียงกลุ่มของเธอเอาชนะได้อีกตา พวกเธอทั้งสามก็สามารถเข้าชั้นเรียนเมฆาม่วงห้องหนึ่งอย่างเป็นทางการได้

ห้องหนึ่งเป็นห้องพิเศษ หากเข้าที่นี่ได้ ประการแรกคือจะได้รับทรัพยากรที่ดีกว่า ประการที่สองคือเป็นโอกาสที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง

และข้อที่สำคัญที่สุดก็คือ เพื่อนทั้งสองคนในกลุ่มเธออยากเข้าชั้นเรียนนี้เป็นพิเศษ…

บังเอิญเหลือเกิน หัวหน้ากลุ่มที่ต้องสู้ด้วยในวันนั้นคืออวิ๋นชิงหลัว…

และสหายร่วมกลุ่มทั้งสองของนางก็เป็นยอดอัจฉริยะเช่นกัน พลังวิญญาณธาตุหลักล้วนบรรลุขั้นหกตอนกลางแล้ว รับมือได้ไม่ง่ายนัก

ยิ่งไปกว่านั้นคือปกติแล้วสามคนนี้จะไม่ค่อยประมือกับผู้อื่น ถึงขั้นที่กู้ซีจิ่ว ไม่เคยเห็นลูกไม้ยามที่พวกเขาจับกลุ่มประลองเลย แต่อีกฝ่ายกลับเคยเห็นฝีไม้ลายมือของกลุ่มกู้ซีจิ่วนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว…

รู้เขารู้เราถึงจะรบร้อยครั้งไม่พ่าย ตอนนี้อีกฝ่ายรู้ตื้นลึกหนาบางของพวกเธอแล้ว แต่เธอกลับเข้าใจอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย ศึกครั้งนี้ไม่ง่ายแล้ว!

“กู้ซีจิ่ว…” จู่ๆ ก็มีเสียงแผ่วหวิวแว่วมาจากด้านหลัง

กู้ซีจิ่วที่กำลังเหม่อลอยอยู่ ถูกเขาเรียกกะทันหัน จึงสะดุ้งโหยง หันไปมองตามสัญชาตญาณ เห็นเยี่ยนเฉินยืนอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังเธอ ท่าทางค่อนข้างกังวลเล็กน้อย

น้อยนักที่จะได้เห็นสีหน้ากังวลบนหน้าของคนผู้นี้ กู้ซีจิ่วรู้สึกประหลาดใจ พลันเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าโผล่มาจากไหนกัน?”

ดวงตาคู่นั้นของเยี่ยนเฉินจ้องมองเธอ “ก่อนเจ้าเข้ามา”

เขากล่าวพลางเดินเข้ามาด้วย

กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เข้าใจว่าเขากังวลอะไร อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เจ้าคงไม่นึกว่าข้าคิดจะกระโดดหน้าผากระมัง? ด้วยวรยุทธ์ของข้าจากความสูงระดับนี้กระโดดลงไปก็ไม่ถึงตายหรอก”

หน้าผานี้ลึกกว่าสองร้อยเมตร หากกระโดดลงไปตรงๆ กู้ซีจิ่วย่อมไม่รอด

แต่วิชาตัวเบาของเธอก็มิใช่ธรรมดา ต่อให้พลัดตกลงไป เธอก็สามารถเหยียบกิ่งไม้เลื้อยเหินทะยานขึ้นมาได้…

เยี่ยนเฉินมองเธอครู่หนึ่ง คงจะมองความไม่แยแสบนใบหน้าเธอออก จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เดินเข้ามานั่งข้างกายเธอ มองลงไปเบื้องล่างแวบหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ถึงแม้ผานี้จะมิใช่ผาที่ลึกที่สุด แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้านล่างคืออะไร? เป็นนํ้าพุร้อนสายหนึ่ง ซํ้ายังเป็นนํ้าพุร้อนที่ร้อนพอจะต้มคนให้สุกได้ด้วย”

กู้ซีจิ่วตะลึง เธอกะแอมไอคราหนึ่ง “ข้าคิดว่าด้วยความสามารถระดับข้า ไม่มีทางกลิ้งตกลงไปแน่นอน”

เธอก็ทราบเช่นกันว่านํ้าพุร้อนด้านล่างสามารถต้มคนให้ตายได้ เมื่อก่อนก็เคยไปสำรวจมาแล้ว

เยี่ยนเฉินก็ทราบแล้วว่าเป็นตนที่ตื่นตูมไปเอง เขากระดากเล็กน้อย พลันเบี่ยงหัวข้อสนทนา “ดึกดื่นค่อนคืนเจ้าไม่หลับไม่นอนวิ่งมาทำอะไรที่นี่? จิ้งจอกน้อยหาเจ้าไม่เจอเลยร้องห่มร้องไห้ไปเคาะประตูห้องข้า…”

กู้ซีจิ่วเหงื่อตก ถามอย่างอดไม่ได้ “ยามนางเคาะประตูเจ้า ได้ทำให้คนอื่นตกใจหรือไม่?”

พรุ่งนี้คงไม่มีข่าวลือว่าตัวเธอกู้ซีจิ่วคิดไม่ตกจนคิดฆ่าตัวตายออกมากระมัง?!

เยี่ยนเฉินย่อมทราบว่าเธอกังวลอะไร ส่ายศีรษะพลางให้คำตอบ “ไม่มี ปกติแล้วยามที่นางคิดอะไรไม่ออกหรือหวาดกลัว

ปฏิกิริยาแรกก็คือมาหาข้า หากข้าก็ไม่อยู่เช่นกัน นางถึงจะไปหาคนอื่น ข้าเดาว่าด้วยนิสัยหน้าหนาของเจ้าไม่เหมือนคนที่จะคิดสั้น

ดังนั้นจึงบอกนางไปว่าเจ้าน่าจะไปหาที่สงบๆ สักแห่งศึกษาค้นคว้ากลยุทธ์ รับปากนางว่าจะรีบมาตามหาเจ้า นางถึงได้วางใจ”

กู้ซีจิ่วสวนกลับทันที ”…เจ้าน่ะสิหน้าหนา! บ้านเจ้านั่นแหละหน้าหนากันทั้งตระกูล!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version