บทที่ 657 ข้าชอบอันนี้!
หลานไว่หูที่อยู่ข้างกายเขาสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ทั้งร่างดูราวกับฟองนํ้านุ่มนิ่ม น่ารักเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ รูปโฉมของทั้งสองคนดูสูงส่งหลุดพ้นจากโลกีย์โดยธรรมชาติ ดังนั้นต่อให้อยู่ในร้านเครื่องหยกที่มีคนอยู่มากมาย กู้ซีจิ่วก็ยังมองเห็นพวกเขาได้ในแวบเดียว
ในมือหลานไว่หูกำลังถือพู่หยกนัยน์ตาจิ้งจอกชิ้นหนึ่งไว้ ยื่นให้เยี่ยนเฉินดู “พี่เยี่ยนเฉิน พู่หยกนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เยี่ยนเฉินเหลือบมองแวบหนึ่ง ตอบไปส่งๆ ประโยคหนึ่ง “ก็ไม่เลว”
หลานไว่หูหรี่ตายิ้ม “งั้นข้าเอาอันนี้แหละ เถ้าแก่ห่อให้ด้วย”
เยี่ยนเฉินกำลังจะควักเงิน ทว่าหลานไว่หูกดมือเขาไว้ เอ่ยยิ้มๆ “นี่เป็นของที่ข้าซื้อ ท่านไม่ต้องออกเงินหรอก”
สีหน้าเยี่ยนเฉินวูบไหว แต่ก็ยินยอม
เถ้าแก่ห่อพู่หยกชิ้นนั้นแล้ว ส่งให้หลานไว่หู ไม่ลืมที่จะกล่าวเอาใจนางอีกสองประโยค “แม่นางน้อยตาแหลมจริงๆ มอบพู่หยกนี้ให้คุณชายข้างกายท่านแขวนจะต้องดูดีมากแน่นอน”
หลานไว่หูรับพู่หยกนั้นมาใส่เข้าไปในถุงเก็บของ ดวงตาแวววาวคู่นั้นเบิกกว้าง “ข้าไม่ได้จะมอบให้เขาสักหน่อย”
เถ้าแก่ผงะ
เยี่ยนเฉินไร้วาจา เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ถึงจะหาเสียงของตนกลับมาได้ “เช่นนั้นเจ้าคิดจะมอบมันให้ผู้ใด?”
“เชียนหลิงอวี่” หลานไว่หูตอบโดยไม่หยุดคิด
เยี่ยนเฉินเงียบงัน
กู้ซีจิ่วที่อยู่ในที่ลับตาและมองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างนี้ก็ตกใจจนแทบอ้าปากค้าง!
ไม่น่าใช่กระมัง?
จิ้งจอกน้อยชอบเชียนหลิงอวี่หรือ?
เธออยู่กับเด็กสองคนนี้ทุกวันทำไมถึงมองไม่ออกล่ะ?
สีหน้าเยี่ยนเฉินไม่สู้ดีแล้ว “ทำไม…ต้องมอบให้เขา?”
หากมิใช่เขาบำเพ็ญเพียรมาอย่างหนัก เกรงว่ายามนี้คงหน้าเปลี่ยนสีไปแล้ว
หลานไว่หูประสาททึบมาก นางดูไม่ออกว่าเยี่ยนเฉินผิดปกติ เพียงเอ่ยตอบเขาไปตามสัญชาตญาณ “เขาเป็นสหายของข้านี่นา
ตอนนี้เขาคงจะอยู่บนเขาอุดอู้มาก ไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ ข้าซื้อไปให้เขาสักอันน่าจะทำให้เขาดีใจ”
เยี่ยนเฉินไม่พูดอะไรอีก
ระหว่างที่พูดคุยนางก็ต้องตาปิ่นหยกด้ามหนึ่งที่อยู่ในตู้กระจกจึงหันไปถามเยี่ยนเฉิน “พี่เยี่ยนเฉิน ปิ่นนี้ดูเป็นอย่างไร?”
สีหน้าเยี่ยนเฉินแข็งทื่อมองดูแวบหนึ่ง “ก็ไม่เลว ครั้งนี้จะมอบให้ผู้ใดอีกเล่า? คงมิใช่ว่าจะมอบให้เชียนหลิงอวี่อีกกระมัง?!”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ อันนี้ข้าจะให้ซีจิ่ว สหายทั้งสองต้องได้ของขวัญกันถ้วนหน้า ไม่อาจละเลยคนใดคนหนึ่งได้ เถ้าแก่ ข้าเอาอันนี้ด้วย ห่อมาเลยๆ”
ด้วยเหตุนี้เถ้าแก่จึงมองเยี่ยนเฉินด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจยิ่งนักแวบหนึ่ง แล้วนำปิ่นนั้นไปห่อให้
เป็นเถ้าแก่ร้านเครื่องหยกย่อมคิดจะขายของให้ได้มากๆ แน่นอน เขาคิดจะเตือนสาวน้อยนางนี้เสียหน่อย ด้วยเหตุนี้เขาจึงลองถามหยั่งเชิงดู “แม่นาง ท่านไม่ซื้อให้คุณชายข้างกายท่านด้วยสักชิ้นหรือ? เขาหล่อเหลาถึงเพียงนี้ สวมอะไรก็ดูดีทั้งนั้น มาๆ ดูสิ พู่ห้อยเอวชิ้นนี้เป็นอย่างไรบ้าง? คุณภาพดี ความใสเพียงพอเหมาะสมกับคุณชายท่านนี้ยิ่งนัก”
หลานไว่หูมองเยี่ยนเฉินแวบหนึ่ง เยี่ยนเฉินมองนางนิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ดังนั้นหลานไว่หูจึงส่ายศีรษะ “เขาก็อยู่ที่นี่ เขาต้องตาสิ่งใดก็ซื้อหาเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ข้าซื้อให้เขาเลย อีกอย่างเขาก็มีเงินมากกว่าข้า เงินทองข้าร่อยหรอแล้ว”
นางเขย่าถุงเงินในมือ ฟังจากเสียงแล้ว เงินที่อยู่ข้างในเหลือไม่เท่าไหร่แล้วจริงๆ
“ข้าชอบอันนี้!” จู่ๆ เยี่ยนเฉินก็เอ่ยขึ้น
หลานไว่หูกะพริบตาปริบๆ “หือ? ท่านชอบเหรอ ท่านชอบก็ซื้อสิ”
“ข้าอยากให้เจ้าซื้อให้ข้า!”
หลานไว่หูตกตะลึงมองเขา จากนั้นก็มองถุงเงินตน “แต่ข้าไม่มีเงินแล้วนะ ข้าจำได้ว่าท่านมีเงินมากมาย…”
“ข้าจะให้เจ้ายืม!” เยี่ยนเฉินตัดบทนางอีกครั้ง