Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 662

บทที่ 662 อยากทำให้ท่านประหลาดใจ 2

“เย้ ไปกินข้าว ไปกินข้าว!” เจ้าหอยยักษ์ไชโยโห่ร้อง “คราวนี้ข้าจะกินให้หนำใจเลย!”

….

หอชุมนุมเวียนเป็นภัตตาคารที่ดีที่สุดของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ไม่เพียงแต่บรรยากาศดีเท่านั้น อาหารก็อร่อยมาก ปกติจะมีลูกค้าเนืองแน่นอยู่เสมอ วันนี้คนยิ่งแน่นขนัดกว่าเดิม

กู้ซีจิ่วอยู่ตรงปากประตู มองเห็นฝูงชนหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ในใจก็ทราบว่าไม่ดีแล้ว เธอนึกว่าผ่านช่วงเวลาอาหารไปแล้ว ตอนนี้คงมีคนไม่มากนัก นึกไม่ถึงว่าด้านนอกจะยังมีแขกต่อแถวอยู่ แถมแขกที่รออยู่ก็มิใช่น้อยๆ

กู้ซีจิ่วคาดว่าถ้าต่อแถวกว่าจะถึงคิวตนก็คงต้องรอไปอีกหนึ่งชั่วยาม…

เธอเอ่ยถามเจ้าหอยยักษ์ “พวกเราจะเปลี่ยนร้านหรือว่าตอนนี้จะรับป้ายลำดับไว้ก่อน แล้วอีกหนึ่งชั่วยามให้หลังค่อยมา?”

เจ้าหอยยักษ์ยึดมั่นถือมั่นต่ออาหารเลิศรสยิ่งนัก ต้องการจะกินที่นี่และยินยอมที่รอ

กู้ซีจิ่วถอนหายใจ แล้วเดินออกไปหาพนักงานต้อนรับของร้านที่อยู่ด้านนอกเพื่อรับป้ายลำดับ นึกไม่ถึงว่าพนักงานต้อนรับคนนั้นจะเพ่งพิศเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็มองเจ้าหอยยักษ์ที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในแขนเสื้อเธอ รวมถึงเพรียกวายุที่ติดตามอยู่ด้านหลัง กระซิบถามเธอ “ท่านใช่แม่นางกู้ซีจิ่วหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง คิ้วขมวดมุ่น “มีคนเอ่ยถึงข้ากับเจ้าหรือ ?”

เธอยอมรับฐานะโดยปริยาย

พนักงานต้อนรับคนนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที ท่าทางนบนอบยิ่งขึ้น ค้อมกายกล่าว “ขอเชิญด้านในเลยขอรับ มีคนคอยท่านอยู่แล้ว”

กู้ซีจิ่วงงงวย

“เป็นผู้กล้าท่านใดกัน?” เธอถามทันที

พนักงานต้อนรับผู้นั้นยิ้มน้อยๆ “ท่านขึ้น ไปก็จะทราบเองขอรับ แขกท่านนั้นรอท่านอยู่ที่ชั้นสอง กล่าวว่าอยากทําให้ท่านประหลาดใจ”

ใครกัน?

ตอนที่เธอปลอมตัวคนนอกจะดูไม่ออก คนที่ดูเธอออกล้วนเป็นคนที่คุ้นเคยกับเธอ ยกตัวอย่างเช่นบรรดาอาจารย์และสหายร่วมสำนักเหล่านั้น อย่างไรเสียเจ้าหอยยักษ์กับเพรียกวายุก็เป็นป้ายบอกยี่ห้อที่มีชีวิต

จู่ๆ เธอก็นึกถึงคนผู้หนึ่งขึ้นมา หรือว่าจะเป็นเจ้าเด็กแสบเชียนหลิงอวี่?

ข้อนี้มีความเป็นไปได้ที่สุด!

หลังจากเธอขจัดกู่ให้เขา เขาก็กล่าวอยู่ตลอดว่าถ้ามีเวลาจะเชิญเธอมาเลี้ยง เชิญมากินอาหารเลิศรสสักมื้อเป็นการตอบแทนเธอ

อาหารที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์แพงเกินไป แถมต้องใช้หินวิญญาณเพียงอย่างเดียว เชียนหลิงอวี่ใช้หินวิญญาณแบบเดือนชนเดือน เชิญเธอไปเลี้ยงไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงมีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าเขาจะถือโอกาสเชิญเธอมาที่นี่ในวันนี้

ไม่ว่าแบบไหนก็ตาม สามารถกินข้าวได้ทันทีล้วนเป็นเรื่องดีเสมอ ดังนั้นกู้ซีจิ่วเลยเดินเข้าไป

ชั้นล่างมีคนแน่นขนัด ทว่าชั้นบนกลับเงียบสงบ พนักงานต้อนรับพาเธอเดินมาถึงหน้าบันไดแล้วก็ไม่ก้าวต่ออีก เพียงยิ้มน้อยๆ ให้เธอขึ้นไปยังชั้นบน “แม่นางกู้ เชิญขอรับ!”

เจ้าเด็กแสบคนนั้นคงไม่เหมาชั้นสองทั้งชั้นไว้กระมัง?!

จ่ายเงินมือเติบ คล้ายจะเป็นสิ่งที่คุณชายฟุ่มเฟือยอย่างเขาทำจริงๆ

กู้ซีจิ่วก้าวขาขึ้นไปยังชั้นบน วินาทีที่เธอแหวกม่านออกก็ต้องตะลึงงัน!

พอเธอแหวกม่านออก โคมบนชั้นสองทั้งหมดก็ดับลง มืดมิดลงกะทันหันเช่นนี้ทำให้เธอมองอะไรไม่เห็นไปชั่วขณะ คิดจะชักกระบี่ออกมาป้องกัน ตัวตามสัญชาตญาณ นึกไม่ถึงว่ากลางห้องโถงจะมีไข่มุกราตรีเม็ดหนึ่งค่อยๆ เรืองแสงขึ้นมา ส่องโลกด้านนั้นให้สว่าง

หัวใจกู้ซีจิ่วเหมือนถูกอะไรทุบเข้าอย่างจัง!

เธอเห็นอะไรน่ะหรือ ?

เป็นเค้กวันเกิดขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง!

เค้กวันเกิดก้อนนั้นวางอยู่บนโต๊ะกลมตัวหนึ่ง มีเทียนสีแดงปักไว้รอบๆ เค้ก จำนวนยี่สิบสามเล่มพอดิบพอดี เปลวไฟไหวระริก มีเสียงพิณแว่วมาจากหลังโต๊ะ มีเสียงเพลงตามมาพร้อมเสียงพิณ เป็นบทเพลงที่พบเห็นกันดาษดื่นยิ่งนัก ทว่าเป็นบทเพลงที่เป็นไป

ไม่ ได้เด็ดขาดที่จะมาปรากฏในโลกนี้ “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู…”

เสียงเพลงทุ้มตํ่าดึงดูด รื่นหูดั่งเสียงเชลโล่

กู้ซีจิ่วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ฉากนี้ทั้งดูคุ้นเคยและดูแปลกตา ทำให้หัวใจที่สงบนิ่งมาตลอดของเธอเกิดคลื่นซัดโหมขึ้นมาอีกครั้ง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version