Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 710

บทที่ 710 ตานี้เธอยังต้องหาทางเอาคืน!

เคราะห์ดีว่าถึงแม้เขาจะกักเธอไว้ ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบมิได้แตะต้องบาดแผลเธอเลย ถึงขั้นว่าไม่กระทบกระเทือนตรงนั้นเลย

บนดวงตากู้ซีจิ่วยังคงผูกแพรดำอยู่ เลยมองไม่เห็นว่าเขามีท่าทีอย่างไร รู้เพียงว่าเขาอยู่ใกล้เธอมากเหมือนเดิม และกำลังก้มมองเธออยู่

นี่เป็นท่าทางที่คลุมเครือยิ่งนัก กู้ซีจิ่วโมโหจนทึ่มทื่อแล้ว ในที่สุดก็ร้องด่าออกมา “ตี้ฝูอี เจ้าบ้าไปแล้ว!”

“กู้ซีจิ่ว อย่าท้าทายขีดจำกัดของข้า ข้ามีเป็นหมื่นวิธีที่สามารถแยกพวกเจ้าออกจากกันได้ รวมถึงการครอบครองเจ้าโดยตรงหรือไม่ก็สังหารเขาซะ!” นํ้าเสียงตี้ฝูอีเยียบเย็น ทว่าปลายนิ้วกลับปัดผ่านริมฝีปากเธอ “เจ้าก็รู้ว่าข้ากระทำการใดล้วนไม่มีขีดจำกัดล่างใดๆ ทั้งนั้น ดังนั้นถ้ายังไม่มีกำลังพอ จงอย่าใช้ถ้อยคำจำพวก ‘เจ้าเต็มใจ’ ‘เจ้ายินดี’ อะไรเหล่านี้ ตอนนี้เจ้ายังมีคุณสมบัติไม่พอ!”

ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอ และเป็นครั้งแรกที่เขาพูดจารุนแรงกับเธอขนาดนี้

กู้ซีจิ่วเงียบงันไร้วาจา เมื่อมือเป็นอิสระเธอก็เริ่มใช้แขนเสื้อเช็ดถูริมฝีปาก…

ภายในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ จวบจนกู้ซีจิ่วถูริมฝี ปากจนได้รสคาวโลหิตถึงหยุดมือลง หัวเราะหยันคราหนึ่ง “ตี้ฝูอี ไม่ช้าก็เร็วข้าจะมีคุณสมบัติพอ!”

“จะตั้งตารอ!” ตี้ฝูอีเอ่ยออกมาเพียงสี่คำ

ภายในห้องเงียบเชียบลงไปอีกครั้ง กู้ซีจิ่วสูดหายใจน้อยๆ ครู่หนึ่ง ยกมือขึ้นแกะแพรดำที่ผูกตาออก พบว่าภายในห้องเหลือตนเพียงลำพัง ไม่ทราบว่าตี้ฝูอีจากไปยามใด

เธอมองแพรดำในมือแพรดำเส้นนี้เมื่อครู่เธอแกะอย่างไรก็แกะไม่ออก ประหนึ่งงอกออกมาจากตาเธอก็มิปาน แถมหลังจากผูกไปแล้วก็มืดสนิท แม้แต่แสงสว่างสักเสี้ยวก็มองไม่เห็น บนแพรดำเส้นนี้ดูเหมือนจะแฝงกลิ่นหอมจางๆ บนร่างเขาไว้ ในใจกู้ซีจิ่วสับสนว้าวุ่น ปาแถบแพรเส้นนั้นลงบนพื้น

ในห้องเงียบมาก กำยานในกระถางใบหนึ่งตรงมุมห้องเผาไหม้อยู่เงียบๆ

เธอหลับตาลงเล็กน้อย ภายในห้องยังมีกลิ่นหอมบนร่างอบอวลอยู่จางๆ หลังจากความขุ่นเคืองผ่านพ้นไปจิตใจเธอก็ว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูก

ประตูถูกเปิดจนเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดอีกครั้ง กู้ซีจิ่วสะดุ้ง ลืมตาขึ้นมาก็เห็นหลานไว่หูค่อยๆ ย่องเข้ามา นางมองกู้ซีจิ่วด้วยนัยน์ตาใสกระจ่างคู่นั้น จากนั้นก็มองผ้าปูเตียงที่แทบจะชุ่มโชกไปด้วยเลือดใต้ร่างเธอ นางร้องสะอื้นออกมาคราหนึ่ง “ซีจิ่ว…”

ถลาเข้ามาเบื้องหน้าเธอ คิดจะเลิกผ้าห่มออกดูร่างเธอ…

กู้ซีจิ่ว เกรงว่าร่างกายท่อนบนของตนที่ยังเปิดเปลือยอยู่จะดูไม่งามนัก จึงรีบห้ามนางไว้ “อย่าขยับ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

แต่จิ้งจอกน้อยเคลื่อนไหวว่องไว อีกทั้งกู้ซีจิ่วในยามนี้ไม่มีเรี่ยวแรง สุดท้ายก็ถูกนางเลิกผ้าห่มออก…

ยังนับว่าโชคดี ร่างกายท่อนบนของเธอสวมอาภรณ์แล้ว เพียงแต่ด้านหน้าและด้านหลังล้วนถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล หลานไว่หูมองกองผ้าพันแผลนั้น หยาดนํ้าตาในดวงตาเอ่อคลอ “เจ้าเจ็บหรือเปล่า? ล้วนเป็นความผิดของข้า! เจ้ามาขวางกระบี่ให้ข้า…”

การร้องไห้ของจิ้งจอกน้อยมีอานุภาพทำลายล้างยิ่ง กู้ซีจิ่วก็ค่อนข้างหวั่นเกรงนํ้าตาของนางอยู่บ้าง “ไม่เป็นไร บาดแผลไม่หนักหนา เจ้าอย่าร้อง…รบกวนเจ้าช่วยเติมกำยานในกระถางใบนั้นอีกสักหน่อยเถิด ข้ารู้สึกว่ากลิ่นหอมนั้นดีต่ออาการบาดเจ็บของข้า”

หลานไว่หูกระวีกระวาดไปเติมกำยานทันที

กลิ่นกำยานอบอวลอยู่ในห้อง ในที่สุดก็กลบกลิ่นอายคนผู้นั้นได้จนสิ้น กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก เอ่ยถามหลานไว่หู “ที่นี่คือที่ไหน?”

“ที่นี่คือหน่วยการแพทย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ที่นี่มีไอวิญญาณเพียงพอ และสะอาดที่สุด เดิมทีมีเพียงบุคคลระดับผู้อาวุโสที่บาดเจ็บสาหัสถึงจะได้พักฟื้นอยู่ที่นี่ ครั้งนี้อาจารย์กู่อนุญาตให้เจ้าพักฟื้นอยู่ที่นี่หนึ่งเดือนเป็นกรณีพิเศษ” หลานไว่หูถามมาหนึ่งตอบไปสิบ

“แล้วอวิ๋นชิงหลัวเป็นยังไงบ้าง?” กู้ซีจิ่วยังพะวงถึงจุดนี้อยู่ ยามที่เธอเข้าขวางกระบี่ให้หลานไว่หูไม่ได้นึกเลยว่ากระบี่ที่อีกฝ่ายใช้จะมีพิษสงร้ายกาจถึงเพียงนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version