บทที่ 756 หลอกนางไม่ได้จริงๆ
เธอปฏิบัติตามที่ตี้ฝูอีบอก ใช้วิชาเล็กน้อยเพื่อเปิดมิติเก็บของนั้น ถึงได้พบว่าภายในห้วงมิติของเขากว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ ข้าวของหลากหลายละลานตา มีข้าวของมากมายจนเธอไม่มีทางระบุชื่อได้
เมื่อคืนยามที่เขาเปิดมิติเก็บของนี้ต่อหน้าเธอ กู้ซีจิ่วได้เห็นแค่ซอกมุมน้อยๆ ของภูเขานํ้าแข็งในช่องมิตินี้ ทว่าทั้งหมดทั้งมวลที่ได้เห็นยามนี้กลับ…
สามารถบรรยายได้แค่ประโยคเดียว…มากมายดั่งดวงดาวบนนภา
กู้ซีจิ่วมองแวบเดียวในสมองก็มีความรู้สึกอนิจจังยิ่งนักผุดขึ้นมา…คนผู้นี้มั่งมีโดยแท้!
มั่งมีเกินไปแล้ว!
ผู้คนมักใช้คำว่ารํ่ารวยดั่งอาณาจักรเปรียบเปรยถึงคนรวย แต่ข้าวของในมิติเก็บของของคนผู้นี้ไม่อาจใช้คำนั้นมาเปรียบเปรยได้แล้ว คงต้องกล่าวว่ารํ่ารวยดุจโลกา แถมวิธีจัดเก็บข้าวของในมิติของเขาก็พิเศษนัก ขอเพียงกดปุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องในบรรดาหลายปุ่ม ช่องใหญ่ช่องหนึ่งก็จะดีดตัวขึ้นมา…
ค่อนข้างคล้ายฮาร์ดไดร์ฟของคอมพิวเตอร์ยิ่งนัก…
ตี้ฝูสั่งให้กู้ซีจิ่วเปิดช่องลับอยู่หลายช่อง ในที่สุดก็พบรายการเสื้อผ้า ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งของตี้ฝูอี สุดท้ายก็ดึงเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาได้…
เมื่ออาภรณ์ชุดนั้นเข้าสู่มือกู้ซีจิ่วก็รู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก หลังจากปิดมิติเก็บของ เธอก็ก้มมองอาภรณ์ชุดนั้น ในที่สุดก็กระจ่างว่าเหตุใดถึงรู้สึกคุ้นเคย
นี่มิใช่อาภรณ์ไหมเงือกจันทร์ชุดนั้นหรอกหรือ?!
เป็นชุดนั้นที่กล่าวว่าจะมอบให้เป็นของขวัญวันปักปิ่นของเธอ ทว่าถูกเขาเผาทิ้งที่ริมสระ!
กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองเขาทันที “อาภรณ์ชุดนี้ถูกท่านเผาไปแล้วมิใช่หรือ?!”
สายตาเธอราวกับจะมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา ตี้ฝูอียื่นมือมาหยิบอาภรณ์ชุดนั้นไปจากมือเธอ จากนั้นจึงกล่าวอธิบาย “ข้าทำให้มันคืนสภาพเดิม ได้ทันเวลา”
กู้ซีจิ่วมิใช่ตัวโง่งม “ไร้สาระ! ตอนนั้นท่านไม่มีพลังวิญญาณ แล้วจะทำให้ของที่ถูกเผาคืนสภาพเดิมได้อย่างไร? ท่านเห็นข้าโง่หรือไง?!”
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ หลอกนางไม่ได้จริงๆ…
ภายใต้สายตากดดันของกู้ซีจิ่ว เขาทำได้เพียงบอกความจริง “อาภรณ์ชุดนี้ข้าได้มาอย่างลำบากลำบนนัก ย่อมไม่อาจเผาทิ้งได้ง่ายๆ ที่ถูกเผาคืออาภรณ์อีกชุดหนึ่ง…”
ที่เขาเผาอาภรณ์ในยามนั้นเป็นการตบตาเธอจริงๆ!
เพียงแต่ตอนนั้นท่ามือเขาว่องไวนัก แถมเธอยังไม่ได้จับตามองเขาตลอดเวลา ดังนั้น ‘แผนร้าย’ ของเขาถึงได้บรรลุผล
เมื่อนึกถึงท่าทางของตนที่เห็นอาภรณ์ชุดนี้ถูกเผาในยามนั้นขึ้นมา กู้ซีจิ่วก็สงบเยือกเย็นไม่อยู่แล้ว!
หรี่ตามองกระโปรงชุดนั้น “ข้ารู้สึกว่าอาภรณ์ชุดนี้สมควรถูกเผาจริงๆ!”
ตี้ฝูอีกระแอมคราหนึ่ง “ให้ข้าสวมใส่อย่างงดงามก่อนสักสองสามวัน จากนั้นหากเจ้าไม่ชอบก็เผาทิ้งอีกคราได้”
กล่าวไปพลางเริ่มถอดเสื้อผ้าบนร่างไปพลาง มือไม้เขาว่องไว รอจนกู้ซีจิ่วมีปฏิกิริยาตอบสนองอีกครั้ง ก็พบว่าเขาเริ่มถอดเสื้อผ้าชั้นในแล้ว…
กู้ซีจิ่วหน้าเขียวแล้ว!
รีบพุ่งไปตะครุบมือเขาไว้ทันที “ไม่อนุญาตให้ถอดต่อแล้ว!”
ตี้ฝูอีเงยหน้ามองนาง “ชุดด้านในนี้ก็สกปรกแล้ว จำเป็นต้องถอด”
จากนั้นพลันชะงักไปวูบหนึ่ง “เจ้าเกรงว่าข้าจะมองเรือนร่างเจ้าหรือ? ถ้างั้นเอาเช่นนี้ดีไหม เจ้าช่วยข้าเปลี่ยน ข้าหลับตาไว้ก็สิ้นเรื่องแล้ว”
จากนั้นก็ไม่ขยับเขยื้อนต่อจริงๆ หลับตากางแขนรอให้เธอมาช่วย
กู้ซีจิ่วยุ่งยากใจจริงๆ แถมเธอยังใช้ร่างของตี้ฝูอีอยู่ด้วย!
ถ้าเธอเข้าไปช่วยเขาสวมเสื้อผ้า หากมีคนนอกมาเห็นเข้า มิกลายเป็นท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเปลี่ยนชุดให้กู้ซีจิ่วเองกับมือหรอกหรือ?
นี่เป็นเรื่องที่ต้องเป็นสามีภรรยากันถึงจะทำได้ แต่เธอกลับถูกชะตาบีบคั้นให้ทำในยามนี้…
เธอมองตี้ฝูอีที่หลับตาประหนึ่งเนื้อปลาบนเขียงอีกครั้ง โทสะพวยพุ่งขึ้นมากว่าเดิม!
ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าผลจะเป็นเช่นนี้ คืนนั้นเธอก็คงไม่บุ่มบ่ามไปช่วยเหลือเขา!
ทำให้เธอต้องประสบเรื่องราวพิสดารเช่นนี้ และไม่มีผู้ใดเข้าใจ ยังดีที่ในห้องนี้มีแค่พวกเขาสองคน ดังนั้นเธอไปช่วยเขาสวมเสื้อผ้ายามนี้ก็ไม่เป็นไร
กู้ซีจิ่วตัดใจได้ทันที ทำได้เพียงหยิบอาภรณ์ชุดนั้นให้เขานั่งลงบนเตียงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา มือไม้เธอว่องไวมาก พยายามจะไม่แตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่าย ต้องทราบก่อนว่าถึงแม้เนื้อตัวนี้จะเป็นของเธอ แต่ยามนี้ผู้ที่สัมผัสรับรู้ได้กลับเป็นตี้ฝูอี…
แต่เรื่องราวช่างบังเอิญเหลือเกิน กู้ซีจิ่วเพิ่งจะสวมกางเกงตัวในผืนใหม่ให้ตี้ฝูอีได้ข้างหนึ่ง ยังมิทันได้ใส่อีกข้างเข้าไป หลานไว่หูก็พุ่งเข้ามาปานพายุ ลูกน้อย “ซีจิ่ว…”
สมองกู้ซีจิ่วระเบิดตูม รีบดึงผ้านวมบนเตียงมาคลุมหัวตี้ฝูอีไว้ทันที!
หลานไว่หูก็นึกไม่ถึงว่าจะได้พบเห็นฉากร้อนแรงเช่นนี้ ยืนอ้าปากหวอนิ่งงัน ปานถูกฟ้าผ่าอยู่ตรงปากประตูครู่หนึ่ง แล้วหันหลังวิ่งจากไปทันที “ข้า…ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น…”
เงาร่างเลือนหายไปดั่งควันสายหนึ่ง!
กู้ซีจิ่วตกตะลึง
เสร็จกัน!
ในสายตาของจิ้งจอกน้อยเกรงว่าจะคิดว่าเธอกับตี้ฝูอีกำลังเล่นพลิกผ้าห่มกันอยู่…
ต่อไปเกรงว่าถึงกระโดดลงแม่นํ้าหวงก็คงล้างไม่สะอาดแล้ว![1]
เธอย้อนเวลากลับไปได้ไหมนะ?
ตี้ฝูอีก็ฉุดตัวเองออกมาจากผ้าห่มแล้ว เขาค่อนข้างมีสติปัญญา ยามนี้จึงออกความเห็นว่า “ซีจิ่ว เรื่องนี้จัดการได้ง่าย เจ้าใช้ตัวตนของข้าไล่ตามหลานไว่หูไป บังคับให้นางสาบานว่าจะปิดปากไว้ก็สิ้นเรื่อง!”
กู้ซีจิ่วถลึงตาจ้องเขาอย่างโมโหแวบหนึ่ง “ไม่ต้องบังคับให้นางสาบานหรอก จิ้งจอกน้อยมิใช่คนพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อน!”
ตี้ฝูอีลุกขึ้นนั่ง มองเธออย่างไม่เข้าใจอยู่บ้าง “เห็นนั้นเจ้าแสดงท่าทีแบบนี้ทำไม? มองสิว่าเจ้าทำให้ ใบหน้าของข้ายุ่งเหยิงจนกลายเป็นอันใดไปแล้ว?”
กู้ซีจิ่วสูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เธอคิดไว้แล้วชัดๆ ว่าต่อไปจะเคียงคู่โบยบินกับหลงซือเย่ แถมยังเคยเปรยกับจิ้งจอกน้อยไว้รางๆ จิ้งจอกน้อยยัง กล่าวอย่างกระตือรือร้นอยู่เลยว่าเจ้าสำนักหลงยอดเยี่ยมมาก เป็นคนดีเหมาะจะออกเรือนด้วย…
ผลคือเพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองวัน ก็ทำให้จิ้งจอกน้อยเห็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกำลังสวมกางเกงให้ตัวเธอกู้ซีจิ่ว…
นี่…นี่จะทำให้จิ้งจอกน้อยคิดว่ากู้ซีจิ่วเป็นคนเหลาะแหละโลเลหรือเปล่า?!
——————————————————————
[1] กระโดดลงแม่นํ้าหวงก็คงล้างไม่สะอาด อุปมาถึง แก้ต่างอย่างไรก็ไม่พ้นมลทิน