บทที่ 739 รสนิยมของเจ้าตกตํ่าลงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
กู้ซีจิ่วพบจุดอับลมแห่งหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ร่างกายก็แห้งสบายขึ้นมาทันที
เสื้อผ้าชุดนี้พอดีตัวมาก เนื้อผ้าก็เหมาะยิ่ง แถมยังกันหนาวด้วย เมื่อสวมบนร่างจะอบอุ่น
ฉากเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน กู้ซีจิ่วนึกถึงตอนที่เคยร่วงลงไปในนํ้ากับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้เมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนั้นเขาก็มอบเสื้อผ้าชุดหนึ่งให้เธอเปลี่ยนเหมือนกัน เพียงแต่ชุดที่เขามอบให้ในยามนั้นเป็นชุดบุรุษ ทั้งใหญ่ทั้งหลวม เธอต้องใช้มีดตัดออกถึงจะพอสวมได้
แต่คราวนี้เขากลับเตรียมชุดสตรีติดตัวไว้ด้วย ชุดสตรีชุดนี้มองปราดเดียวก็รู้ว่ามิใช่สิ่งที่ซื้อหาได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บหรือวัสดุก็ประณีตงดงามหาใดเทียม เขาเตรียมชุดนี้ไว้ให้ใครกัน?
น่าจะเตรียมไว้ให้อวิ๋นชิงหลัวกระมัง?
จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าทรวงอกตีบตันเล็กน้อย ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ถอดอาภรณ์ชุดนี้ออกมาอีกครั้ง ทันใดนั้นคล้ายว่าเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบเปิดมิติเก็บของในร่างหยกนภา ค่อยยังชั่ว ด้านในมีเสื้อผ้าอยู่ชุดหนึ่ง เป็นเสื้อผ้าที่หลงซือเย่ซื้อจากร้านอาภรณ์แห่งหนึ่งให้เธอในเทศกาลความรักคืนนั้น ตัดเย็บอย่างประณีต พอดีตัวกับเธอ เธอค่อนข้างชอบอยู่บ้าง เนื่องจากหลงซือเย่ซื้อให้เธอ ดังนั้นเธอเก็บมันไว้กับสมบัติและตัวยาล้ำค่าเหล่านั้น
ตอนนี้ช่องมิติของหยกนภาใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เมื่อเป็นเพียงลิ้นชักเล็กๆ อันหนึ่ง ยามนี้กลายเป็นตู้เก็บของเล็กๆ อันหนึ่งแล้ว
อุปกรณ์การแพทย์ ตัวยา ยาพิษ สมบัติเล็กๆ น้อยๆ ของกู้ซีจิ่วล้วนเก็บซ่อนไว้ในนี้ เธอมีข้าวของมากมาย ดังนั้นข้าวของที่ไม่ลสักสำคัญจะไม่เก็บไว้ในนี้ เสื้อผ้าทั่วไปล้วนเก็บไว้ในถุงเก็บของธรรมดาๆ หนนี้รีบร้อนออกมาจึงไม่ได้พกติดตัวมาด้วย
โชคดีที่ตอนนั้นเก็บเสื้อผ้าชุดนี้ไว้ในมิติเก็บของ มิเช่นนั้นวันนี้คงทำได้เพียงสวมใส่เสื้อผ้าชุดนี้ที่ตี้ฝูอีมอบให้ เช่นหัวใจจะอึดอัดคับข้องมากเพียงใดกัน?
เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงเดินกลับมา
ตี้ฝูอีก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ยามนี้กำลังนั่งพิงโขดหินก้อนหนึ่งอยู่หน้ากองไฟ เมื่อเห็นนางกลับมาจึงเพ่งพิศแวบหนึ่ง “เหตุใดถึงไม่เปลี่ยนเป็นชุดที่ข้ามอบให้เจ้า?”
กู้ซีจิ่วยื่นชุดนั้นคืนให้เขา “ไม่พอดีตัว โชคดีที่ข้าก็มีของตัวเองอยู่ชุดหนึ่ง”
ไม่พอดีตัว?
สายตาของตี้ฝูอีวอนรอบกายนางรอบหนึ่ง เขาเคยโอบกอดนาง ทราบถึงสัดส่วนของนาง อาภรณ์ชุดนี้ตัดเย็บให้เข้ากับร่างนางชัดๆ จะไม่พอดีตัวได้อย่างไร?
นี่เป็นเพราะนางไม่อยากได้สิ่งของที่มาจากเขาหรือ?
เขามองชุดนี้ที่นางสวมอีกครั้ง มิใช่ลักษณะแบบที่นางชอบสวมใส่ประจำ เสื้อผ้าที่นางชอบสวมใส่จะเป็นแบบเรียบง่ายคล่องตัว และชุดนี้ถึงแม้จะพลิ้วไหวดั่งนางเซียน แต่รูปแบบค่อนข้างรุงรัง สำหรับนางแล้ว แขนเสื้อค่อนข้างกว้างไปหน่อย สีสันของสายคาดเอวก็ไม่เข้ากับตัวชุดยิ่งนัก…
ตี้ฝูอีเป็นบุคคลปราดเปรื่องผู้หนึ่ง ไม่ว่าเรื่องราวใดขบคิดเพียงเล็กน้อยก็สามารถคาดเดาได้ถึงแปดเก้าส่วน หัวใจไม่เป็นสุข รีบเปิดใช้ทักษะปากร้ายทันที เขาใช้สายตาที่ช่ำชองวิเคราะห์จุดบกพร่องของอาภรณ์ชุดนี้ทันที “กระโปรงชุดนี้ช่างน่าเกลียด! สีสันจืดชืดเกินไป ทรงกระโปรงกว้างเกินไป สีสันของสายคาดเอวก็จืดจาง ทำให้เอวเจ้าดูหนา แขนเสื้อก็กว้างยิ่งนัก บนล่างไม่สอดรับกัน…”
กู้ซีจิ่วตกตะลึง เมื่อถูกคนผู้นี้วิจารณ์ เหตุใดเธอถึงรู้สึกว่าอาภรณ์ชุดนี้สมควรโยนลงถังขยะไปเสีย?!
ตี้ฝูอีเอ่ยสรุปว่า “อาภรณ์ชุดนี้ของเจ้า แม้กระทั่งจะมอบให้สาวใช้ของข้าก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอด้วยซํ้า! รสนิยมของเจ้าตกต่ำลงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
สีหน้ากู้ซีจิ่วอึมครึมแล้ว!
การอยู่ร่วมกับผู้ที่รักความสมบูรณ์แบบช่างน่ากลัวจริงๆ เขาวิจารณ์ข้อบกพร่องจนเธอสงสัยในชีวิตได้!
เธอยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “ข้าก็มีรสนิยมเช่นนี้แหละ ถ้าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทนดูไม่ได้ก็ไม่ต้องดู! ข้าชมชอบอาภรณ์เช่นนี้ ชอบอย่างยิ่ง!”
ซํ้าเธอยังหมุนพลิ้วไปพลิ้วมาอยู่ที่เดิมรอบหนึ่ง “นี่คืออาภรณ์ที่ข้าชอบที่สุด! เป็นหนึ่งไม่มีสอง”