Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 779

บทที่ 779 ท่านทำทุกอย่างได้ตามปรารถนาจริงๆ น่ะหรือ

สีหน้าตี้ฝูอีดำดิ่งลง กล่าวโดยท่าทียิ้มมิเชิงยิ้ม “ทารุณ? ที่แท้ในสายตาเจ้า เจ้านายคือผู้ที่จำเป็นต้องย่างของกินให้เจ้าหรือ? จำเป็นต้องปรนนิบัติ เจ้าหรือ?”

ถึงแม้เขาจะใช้น้ำเสียงของกู้ซีจิ่ว แต่สำเนียงการพูดเป็นสำเนียงการพูดแบบตี้ฝูอี ทำให้เจ้าหอยยักษ์หวาดหวั่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

ดังนั้นมันจึงหดตัว บ่นพึมพำประโยคหนึ่งว่า “เมื่อก่อนเจ้านายล้วนย่างของกินให้พวกเรามากมาย…”

ตี้ฝูอีกอดอกพลางเอ่ย “แล้วพวกเจ้าเล่า? เคยนำอะไรมาให้ผู้เป็นนายหรือไม่?”

เจ้าหอยเงียบงัน มันไม่กล้าพูดต่อแล้ว เนื่องจากทุกครั้งที่พวกมันสามตัวกลับมาล้วนมาแบบมือเปล่า บางครั้งก็ล่าสัตว์มาให้เจ้านายย่างให้…

ตี้ฝูอีเหลือบมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า ดูเถิดว่านางเลี้ยงสัตว์เลี้ยงวิญญาณที่เดิมทีควรพิทักษ์คุ้มครองนางเป็นแขนเป็นขาของนางจนกลายเป็นตัวอันใดไปแล้ว?

ตัวตะกละสามตัว!

ซํ้ายังไม่รู้จักบุญคุณอีกด้วย!

ตี้ฝูอีมองท่าทางของพวกมันสามตัวอีกครั้ง ระยะเวลาสามเดือนสำหรับสัตว์เลี้ยงวิญญาณแล้ว กล่าวได้ว่าชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ทั้งสามตัวแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ตัวเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็คือลู่อู๋ มันโตขึ้น หางยาวขึ้นนิดหน่อย…

ตี้ฝูอีคันไม้คันมืออยู่บ้าง อันที่จริงเขาก็เลี้ยงสัตว์วิญญาณเช่นกัน แน่นอนว่าสัตว์วิญญาณที่เขาเลี้ยงล้วนเป็นชั้นยอดทุกตัว ล้วนเป็นสัตว์ร้ายขั้นแปด…

สัตว์เหล่านี้เมื่ออยู่มือเขาก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ทุกตัวรักสันโดษอย่างยิ่ง และพิทักษ์ในยามคับขันได้ยอดเยี่ยมยิ่ง ไหนเลยจะเหมือนเจ้าสามตัว ตรงหน้านี้ ดูเหมือนแมวบ้านสามตัว…

เจ้าหอยยักษ์ถูกเขามองด้วยสายตารังเกียจก็เกิดแรงฮึดขึ้นมา ยืดอกกล่าวทันที “พวกเรามีประโยชน์นะ! พวกเราสามารถเก็บสมุนไพรมาให้เจ้านายได้!”

พวกมันวิ่งพล่านอยู่ในหุบเขาตลอด ย่อมพบเห็นสมุนไพรอยู่บ่อยๆ เพียงแต่รู้สึกว่าสมุนไพรเป็นอาหารไม่ได้อีกทั้งไม่น่าสนุก ส่วนใหญ่พวกมันจึง มองเมินไปเสีย…

“โอ้ เช่นนั้นสมุนไพรของพวกเจ้าอยู่ไหนล่ะ?” ตี้ฝูอีถามพวกมันอย่างผ่อนคลาย

พวกเจ้าหอยยักษ์สามตัว สบตากันแวบหนึ่ง เจ้าหอยยักษ์พลันหนีบหางลู่อู๋น้อย “ไป พวกเราไปเก็บสมุน ไพรกัน! อย่าให้ผู้อื่นดูแคลนได้!”

ลู่อู๋น้อยพาเจ้าหอยยักษ์กระโดดขึ้นหลังเพรียกวายุ ด้วยเหตุนี้สัตว์ทั้งสามตัวจึงจากไปดั่งควันสายหนึ่ง

ในไม่ช้าภายในเรือนก็เหลือเพียงกู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีสองคน เงียบสงัดขึ้นมาชั่วขณะ

กู้ซีจิ่ว ไม่คิดจะจดๆ จ้องๆ กับเขาอยู่ที่นี่ จึงถามซํ้าอีกรอบหนึ่ง “เมื่อไหร่พวกเราจะสลับร่างคืนได้? ข้าไม่อยากเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้ว”

ตี้ฝูอีกอดเข่ามองเธอ “เจ้าไม่ยินดีจะเป็นข้าสินะ? ตำแหน่งของข้าไม่ทราบว่ามีผู้คนมากน้อยเพียงใดที่ต้องการแย่งชิง…”

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว “ข้าแค่อยากเป็นตัวข้าเอง!”

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “ซีจิ่ว เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าวันหน้าจะได้แทนที่ของข้า?”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้น “แทนที่ท่านทำอันใด?”

ตี้ฝูอียิ้ม “เจ้าดูสิ ตำแหน่งของข้าสูงส่งกว่าจักพรรดิเสียอีก ขนาดตำแหน่งจักรพรรดิผู้คนยังแย่งชิงกันหัวร้างข้างแตก แล้วตำแหน่งนี้ของข้าจะไม่ดึงดูดคนยิ่งกว่าหรือ?”

กู้ซีจิ่วเงียบงัน ตี้ฝูอีกล่าวต่อไป “ถ้าเจ้านั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ของข้า เจ้าจะทำทุกอย่างได้ตามปรารถนา สามารถบัญชาคนทั้งโลกได้ จะไม่มีผู้ใดกล้า ดูแคลนเจ้าอีก ไม่มีผู้ใดกล้าชักสีหน้าใส่เจ้าอีกต่อไป…”

กู้ซีจิ่วมองดูเขา “ท่านทำทุกอย่างได้ตามปรารถนาจริงๆ น่ะหรือ?”

ตี้ฝูอียิ้มน้อยๆ “เจ้าไม่เห็นข้าทำทุกอย่างได้ตามปรารถนาหรือ?”

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “เรื่องที่ท่านทำบางครั้งก็น่าชังมากจริงๆ แต่ก็กล่าวไม่ได้ว่าทำทุกอย่างได้ตามปรารถนากระมัง? มิใช่ว่าท่านยังต้องอบรบสานุศิษย์สวรรค์หรอกหรือ? มิใช่ว่าท่านยังต้องจัดการเรื่องราวอย่างยุติธรรมหรอกหรือ? ตำแหน่งนี้ของท่าน ไม่ทราบว่ามีผู้คนมากน้อยเพียงใดที่จับจ้องท่านอยู่ หากว่าท่านทำตามอำเภอใจได้จริงจะมีบารมีสูงส่งเช่นนี้ได้อย่างไร? จะทำให้คนทั้งแผ่นดินเคารพท่านได้อย่างไร?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version