Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 879

บทที่ 879 เด็กน้อยที่แท้เจ้าก็กลัวฟ้าผ่า

หงส์ครามคือนกวิเศษของทวีปนี้ แทบจะเทียบได้กับพญาหงส์ในตำนาน หงส์ครามสยายปีกชั่วพริบตาเดียวก็เดินทางได้พันลี้ หายากเช่นเดียวกับลู่อู๋

ตำนานเล่าขานว่าหงส์ครามนี้ก็เป็นวิหคมงคลชนิดหนึ่ง เฉกเช่นกิเลน ไม่ว่าปรากฏตัวที่ใดล้วนสามารถดึงดูดให้ประชาชนแห่แหนมากราบไหว้บูชาได้ ซํ้ายังถูกอาลักษณ์บันทึกลงในประวัติศาสตร์ว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงคุณธรรมของจักรพรรดิที่แว่วไปถึงสรวงสวรรค์ แม้กระทั่งหงส์ครามก็มาเยือน แสดงถึงความร่มเย็นเป็นสุข

ขนาดนกวิเศษเช่นนี้ก็ยังถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้เอามาทำเนื้อย่าง!

ถูกย่างไปแล้ว!

เขาไม่กริ่งเกรงทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์หรือไง?!

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ช่างเป็นปรมาจารย์ใหญ่ด้านการล้างผลาญโดยแท้…

ตี้ฝูอีมองปากเล็กๆ ที่อ้าหวอของนาง ถอนหายใจเบาๆ “ข้ายอมเสี่ยงโดนทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เพื่อย่างนกตัวนี้ให้เจ้าเลยนะ กินให้มากหน่อยเถิด อย่าให้เสียความตั้งใจของข้า”

แล้ววางนํ้าเต้าสุราของตนใส่ในมือนาง “เอ้า ดื่มสุราแก้ตกใจเสีย”

กู้ซีจิ่วมองนํ้าเต้าสุราในมือ จากนั้นก็มองปีกนกในมือที่กินไปแล้วกว่าครึ่ง เธอกินหงส์ครามลงไปแล้ว ไม่รู้ว่าฟ้าจะผ่าเธอหรือเปล่า…

ความคิดเธอเพิ่งแล่นมาถึงตรงนี้ กลางนภาพลันเกิดฟ้าแลบแปลบปลาบ ตามด้วยเสียงฟ้าร้องครืนๆ

กู้ซีจิ่วหดกายตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่น่า?!

ชักนำสายฟ้ามาจริงเหรอ?!

เธอแหงนหน้ามองทันที บนฟากฟ้าไม่รู้ว่ามวลเมฆปกคลุมหนาแน่นตั้งแต่ตอนไหน บดบังแสงเดือนดาว มีสายฟ้าแลบแปลบปลาบทะลุชั้นเมฆ…

‘เปรี้ยง!’ สายฟ้าเส้นหนึ่งผ่าลงมา!

กู้ซีจิ่วกระโจนพรวดขึ้นมา เบิกตามองลูกสายฟ้าเส้นหนึ่งผ่าลงบนศิลาเขียวข้างกายตี้ฝูอี ผ่าจนศิลาก้อนนั้นแหลกเป็นผุยผงทันที จากนั้นกลางนภาก็มีสายฟ้าอีกเส้นหนึ่งผ่าลงมา เป้าหมายคือศีรษะของตี้ฝูอี!

กู้ซีจิ่วสะดุ้งโหยง ปฏิกิริยาตอบสนองแทบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ พุ่งเข้าไปกอดเขาไว้แล้วทำการเคลื่อนย้ายทันที หลบหนีออกไปหลายร้อยเมตร สายฟ้าเส้นนั้นผ่าลงบนกองไฟที่ลุกโชติช่วง สะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว แทบจะส่องสะท้อนทั้งผืนฟ้าให้แดงฉาน!

เสียงฟ้าร้องที่คล้ายจะทะลวงปฐพีนั้นทำเอาหูกู้ซีจิ่วชาหนึบ เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยามนี้การหลบเลี่ยงสายฟ้าย่อมเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จึงกอดเอวเขาไว้แล้วใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง…

ไม่ว่าจะไปที่ใดกู้ซีจิ่วล้วนชอบศึกษาภูมิประเทศ ชอบสร้างอาณาเขต และด้วยเหตุนี้ทุกสถานที่ที่เธอเคยสัญจรผ่าน สภาพแวดล้อมรอบข้างเธอล้วนตรวจสอบได้ถ้วนถี่ อย่าว่าแต่ใต้ผานี้มีต้นไม้กี่ต้นเลย แม้กระทั่งรังงูมีอยู่กี่รังเธอทราบอย่างชัดเจน แน่นอน โพรงถํ้าแห่งหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้หน้าผาแห่งนี้ถูกวัชพืชขึ้นปกคลุมก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาเธอไปได้ ดังนั้นตัวเลือกแรกในการหลบสายฟ้าของเธอก็คือถํ้าแห่งนั้น เธอเคลื่อนย้ายเข้าไปในถํ้าโดยตรง

ถํ้าแห่งนี้ลึกยิ่งนัก กู้ซีจิ่วเกรงว่าสายฟ้านั้นจะตามเข้ามาผ่าคน หลังจากเข้ามาในถํ้า จึงย้ายไปยังจุดที่ลึกที่สุด เมื่อย้ายเข้าไปลึกกว่ายี่สิบเมตรแล้ว ก็หยุดอยู่ที่ท้ายถํ้า

กู้ซีจิ่วอกสั่นขวัญแขวน หลังจากหยุดแล้วก็มองออกไปด้านนอกตามสัญชาตญาณ เธออยู่ลึกถึงเพียงนี้ สายฟ้านั้นน่าจะตามเข้ามาไม่ได้แล้วกระมัง?

นอกเสียจากสายฟ้านี้จะติดตั้งอุปกรณ์จับตำแหน่งไว้ มิเช่นนั้นก็น่าจะตามเข้ามาไม่ได้

ความคิดของเธอถูกต้อง สายฟ้านั้นไม่ได้ตามเข้ามาจริงๆ

เพียงส่งเสียงดังครืนๆ อยู่นอกถํ้ารอบแล้วรอบเล่า

กู้ซีจิ่วเงี่ยหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าสายฟ้านั้นจะไม่ตามเข้ามาอีก ถึงถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก

“เด็กน้อย ที่แท้เจ้าก็กลัวฟ้าผ่า” ตี้ฝูอีเอ่ยขึ้นริมหูเธอ

กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่อทันที ค่อยพบว่าตัวเองยังกอดเขาไว้ปานเด็กน้อยกอดตุ๊กตาผ้าตัวใหญ่…

เธอรีบคลายมือออกแล้วถอยหลังทันที ในส่วนลึกของถํ้านี้ไม่กว้างขวาง อีกทั้งเธอรีบร้อนถอย แผ่นหลังหวิดจะกระแทกเข้ากับผนังถํ้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version