บทที่ 95
วิธีที่หาเงินได้เร็วที่สุด
การขายสมุนไพรคือวิธีหาเงินได้เร็วที่สุด!
กู้ซีจิ่วตัดสินใจ แล้วว่าจะทำอาชีพเก็บสมุนไพรจนกลาย เป็นคหบดีผู้มั่งคั่ง
หลังจากตัดสินใจเรื่องลู่ทางได้แล้ว กู้ซีจิ่วจึงเริ่มเตรียมการสำหรับเรื่องนี้ แอบเตรียมเครื่องมือทั้งหมดที่ต้องใช้ ยามไปเก็บสมุนไพรอย่างลับๆ อาทิเช่นมีดเงิน ไม้คฑาทอง ถุงมือป้องกันพิษ และยาลูกกลอนขจัดไอพิษ…
เย็นวันนี้ ดวงตะวันเพิ่งจะลับเหลี่ยมเขา
กู้ซีจิ่วกำลังเอนหลังอยู่บนตั่งมองหยกนภาที่นำเสนอตำราโอสถให้เธออยู่ มีเสียงประทัดมงคลแว่วเข้ามาจากด้านนอก เสียงดังครึกโครมอย่างยิ่ง
กู้ซีจิ่วจึงเรียกสาวใช้มาสอบถาม ถึงได้ทราบว่าวันนี้คุณชายรองของตระกูลกู้กลับมาแล้ว เสียงประทัดมงคลที่ด้านนอกนั้นเตรียมไว้สำหรับต้อนรับเขา สาวใช้คนนั้นยังถามกู้ซีจิ่วด้วยว่าอยากไปร่วมชมความครื้นเครงนี้ด้วยหรือไหม
กู้ซีจิ่วยิ้มอย่างเฉื่อยชา “ความครื้นเครงนี้มีอะไรน่าชมกัน?”
แล้วหันหลังกลับเข้าห้องไป
สาวใช้ทั้งหลายมองหน้ากัน เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ภายในใจได้รับการยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่า คุณหกผู้นี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วจริงๆ แต่ก่อนขอพียงคุณชายรองกลับมา คุณหนูหกจะต้องวิ่งไปต้อนรับอย่างรวดเร็ว…
ต้องขอบคุณความทรงจำทั้งหมดที่เหลืออยู่ของเจ้าของร่างเดิม กู้ซีจิ่วเลยยังจำคุณชายรองตระกูลกู้คนนี้ได้
คุณชายรองมีนามว่ากู้เทียนเฉา กำเนิดจากเหลิ่งเซียงอวี้ เป็นพี่ชายแม่เดียวกันกับกู้เทียนฉิง และเป็นบุตรชายคนเดียวของจวนแม่ทัพในปัจจุบัน เป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียว
ส่วนคุณชายใหญ่ตระกูลกู้มีนามว่ากู้เทียนนั่ว กำเนิดจากหลัวซิงหลาน เป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับกู้ซีจิ่ว แต่น่าเสียดายที่หลังจากหลัวซิงหลานกระโดดหน้าผา เด็กคนนั้นรับความสะเทือนใจไม่ไหวเลยหนีออกจากบ้านไป เข้าไปในป่าทมิฬที่โหดร้ายและอันตรายที่สุดและไม่ได้กลับมาอีกเลย คงจะถูกสัตว์ป่าพวกนั้นจับกินไปแล้ว แม้แต่กระดูกสักท่อนก็เก็บกลับมาที่จวนแม่ทัพไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ กู้เทียนเฉาที่กำเนิดจากเหลิ่งเซียงอวี้จึงกลายเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียว
กู้เทียนเฉามีพรสวรรค์ด้านพลังวิญญาณ และด้วยฐานะนี้ จวนแม่ทัพจึงให้ความสำคัญยิ่งนัก ได้รับความรักใคร่ เอาอกเอาใจเป็นพิเศษมาตั้งแต่เล็กจนโต
แม่ทัพกู้ไม่เพียงแต่ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้เขาโดยไม่มีเสียดายเท่านั้น ตอนที่เขาอายุครบ 12 ปีก็ส่งเขาไปศึกษาเล่าเรียนที่สำนักเก้าดารา กลายเป็นศิษย์สายใน ของสำนักเก้าดารา
สำนักเก้าดาราไม่ได้เข้ากันได้ง่ายๆ จะต้องเป็นผู้ที่รากฐานวิญญาณบรรลุระดับสี่ขึ้นไปตั้งแต่กำเนิดถึงจะมีสิทธิ์ทั้งยังมีการทดสอบวัดผลอื่นๆ เช่น จิตใจ สติ ปัญญาและพละกำลังเป็นต้น ต้องเป็นหัวกะทิชั้นยอดถึงจะผ่านได้ การเข้าสู่สำนักเก้าดารานั้นยากกว่าการสอบเข้าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชิงหวา[1]ในยุคปัจจุบันเสียอีก ดังนั้นยามที่กู้เทียนเฉาถูกรับเลือกให้เข้าสำนักเก้าดารา จวนแม่ทัพจึงจัดเลี้ยงเฉลิมฉลองเรื่องนี้อย่างยิ่งใหญ่ติดต่อกันสามวันสามคืน
ลูกศึษย์สำนักเก้าดาราสามารถกลับไปเยี่ยมครอบครัวได้ปีละครั้ง ทุกครั้งที่กู้เทียนเฉากลับมา คนในจวนแม่ทัพก็จะเฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริก
หลังจากที่กู้เทียนนั่วพี่ชายร่วมมารดาของกู้ซีจิ่วเสียไป กู้เทียนเฉาจึงกลายเป็นทายาทสืบสกุลเพียงคนเดียวของจวนแม่ทัพ มีอำนาจที่สุดในจวน นิสัยของเขาสืบทอดมาจากเหลิ่งเซียงอวี้ เป็นนํ้านิ่งไหลลึก คบค้าสมาคมกับผู้อื่นได้เหมือนนํ้ากลิ้งบนใบบอน ทั้งยังค่อนข้างโปรดปรานเอ็นดูน้องสาวทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
แน่นอนว่า ในบรรดาน้องสาวที่เขาโปรดปรานเอ็นดูไม่ได้รวมกู้ซีจิ่วไว้ด้วย
สมัยก่อนตอนที่เขายังไม่ได้ไปสำนักเก้าดารา ก็มักจะรวมหัวกับน้องสาวคนอื่นๆ กลิ้นแกล้ง ‘สาวน้อยอัปลักษณ์’ คนนี้เสมอ เพราะคิดว่าการมี ‘น้องสาว อัปลักษณ์และไร้ค่า’ เป็นเรื่องน่าอับอาย เคยแม้กระทั่งแอบผลักกู้ซีจิ่วตกสระนํ้าในวันที่อากาศหนาวเย็นยิ่งนัก ทำให้เด็กสาวคนนี้หวิดจะแข็งตายหรือไม่ก็จมนํ้าตาย…
หลังจากเขาไปสำนักเก้าดาราแล้ว ยามที่กลับมาเยี่ยมบ้านครั้งแรกได้นำของขวัญจำนวนมากมาด้วย ทุกคนในบ้านล้วนได้รับของขวัญแม้กระทั่งคนเลี้ยงม้าที่ดูแลม้าให้เขาในตอนนั้นก็ยังได้รับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ด้วย มีกู้ซีจิ่วเพียงคนเดียวที่ไม่ได้…
กู้ซีจิ่วในยามนั้นเป็นเพียงเด็กน้อยอายุหกเจ็ดปี ถูกรังแกจนน้อยเนื้อตํ่าใจอย่างยิ่ง ได้แต่หดตัวอยู่ในซอกมุมหนึ่ง มองดูบรรดาพี่สาวน้องสาวเหล่านั้นรายล้อมอยู่รอบตัวกู้เทียนเฉาพลางส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างคึกคัก ไม่มีใครสนใจนางเลย ราวกับนางไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดในครอบครัวสักนิด…