บทที่ 96
ประดุจต้อนรับญาติสนิทที่สุดของตนอยู่…
นางมองดู ‘พี่ชาย’ คนนี้มอบของขวัญให้ผู้อื่น อย่างกระตือรือร้นด้วยความอิจฉา มีนางเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ของขวัญ เด็กน้อยได้เข้าใจแล้วว่าอะไรคือความ เจ็บปวด…
กู้เทียนเฉาบังเอิญหันไปเจอนางที่กำลังนํ้าตาคลอเบ้าอยู่พอดี บางทีอาจเป็นเพราะความน่าเวทนาของเด็กน้อย สุดท้ายแล้วจึงทำให้เขาอดที่จะสงสารไม่ได้ เขาคลำเจอลูกกวาดเม็ดหนึ่งบนร่าง เลยโยนไปตรงหน้าของเด็กน้อย ‘เอ้า ของขวัญสำหรับเจ้า’
ถึงแม้ลูกกวาดเม็ดหนึ่งจะเป็นแค่ของกระจอกงอกง่อย ทว่านับตั้งแต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้นี่คือของขวัญชิ้นแรกที่กู้ซีจิ่วได้รับ ดวงตาของเด็กน้อยจึงเปล่งประกายขึ้นมาโดยพลัน!
ท่าทางยามที่มองพี่ชายคนนี้เต็มไปด้วยความซาบซึ้งตื้นตันหัวใจ อาจเป็นเพราะท่าทางนี้เองที่ทำให้กู้เทียนเฉารู้สึกพอใจ นับตั้งแต่นั้นมา ในบรรดาของขวัญที่กู้เทียนเฉานำกลับมาทุกครั้ง ก็จะมีส่วนของกู้ซีจิ่วอยู่ด้วย
ถึงแม้ว่าของขวัญที่มอบให้นางจะเป็นของขวัญที่ไม่มีค่าที่สุดในบรรดาของขวัญทั้งหมด เป็นของที่แย่ที่สุด แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้กู้ซีจิ่วดีอกดีใจ
ดังนั้นทุกครั้งที่กู้เทียนเฉากลับมา นางจึงวิ่งออกไปต้อนรับประดุจต้อนรับญาติสนิทที่สุดของตนอยู่…
ในช่วงชีวิตที่แสนสั้นของกู้ซีจิ่วคนเก่าได้รับความอบอุ่นที่แท้จริงเพียงน้อยนิดเท่านั้น ดังนั้นเมื่อมีคนหยิบยื่นความอบอุ่นเล็กน้อยนี้ให้แก่นางเลยจดจำไว้ฝังใจ แล้วตอบแทนคนผู้นี้ด้วยความปรารถนาดีอย่างสุดหัวใจ คิดเพื่อคนผู้นี้
แต่ไม่ได้รู้เลยว่าสายตาที่คนผู้นั้นมองนางก็เหมือนมองหมาจรจัดตัวหนึ่งที่กำลังกระดิกหางประจบเอาใจ…
กู้ซีจิ่วคนเก่าจบชีวิตลงตอนอายุ 13 ปี นางอาจไม่เข้าใจ ‘ความปารถนาดี’ ที่กู้เทียนเฉามีต่อนาง ทว่าในใจของกู้ซีจิ่วคนปัจจุบันนั้นคล้ายจะรู้อยู่แจ่มแจ้งชัดเจน! จะให้เธอวิ่งห้อไปต้อนรับอีกเหมือนเจ้าของร่างเดิมหรือ? ฝันไปเถอะ!
กู้เทียนเฉาถูกห้อมล้อมต้อนรับกลับบ้านราวกับดาวล้อมเดือน เหล่าน้องสาวรอบๆ ต่างเจราพาทีกับเขา มารดาของเขาเหลิ่งเซียงอวี้เองก็ยุ่งง่วนเพื่อเขา เรียกให้คนทำนู่นทำนี่ไม่หยุด เกรงว่าเก้าอี้ที่เขานั่งจะนุ่มไม่พอ นํ้าชายังไม่อร่อยพอ
เหล่าอนุต่างก็มาครบหมดแล้ว แม้ความรู้สึกจะแตกต่างออกไป แต่ก็ยังแย้มยิ้มแสดงความห่วงหาให้เขา ประจบสอพลอไม่หยุด
ด้านกู้เซี่ยเทียนที่งานรัดตัวตลอดมา ได้ขอลาหยุดหนึ่งวันเพื่อการกลับมาของบุตรชาย ยามนี้กำลังนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ดื่มชาที่บุตรชายยกมาให้ มองดูบุตรชายบุตรสาวพร้อมหน้าพร้อมตาก็ให้เปรมปรีดิ์นัก
ในโถงใหญ่คึกคักกว่าปกติ กู้เทียนเฉาย่อมนำของขวัญมาด้วยอยู่แล้ว ของขวัญที่ เขานำมาในครั้งนี้มีมากมายนัก จึงให้เด็กรับใช้ที่ติดตามตนนำของขวัญไปแบ่งสันปันส่วนกันจนเรียบร้อยไปนานแล้ว ยามนี้จึงเหลือแต่ของที่ต้องมอบให้ด้วยมือตน
ของขวัญของกู้เซี่ยเทียนคือกระบี่ลํ้าค่าที่มีพลังวิญญาณเล่มหนึ่ง เล่ากันว่ามีสติปัญญาอยู่เล็กน้อย ช่วยเตือนภัยให้เจ้าของยามตกอยู่ในอันตรายได้
ของเหลิ่งเซียงอวี้คือตุ๊กตาหยกมันแพะ[2]แกะสลักหนึ่งคู่ เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง สลักอย่างประณีตงดงาม ลายเส้นเรียบลื่นอ่อนช้อย มีเค้าโครงคล้ายเหลิ่งเซียงอวี้และกู้เซี่ยเทียนอยู่ลางๆ
เห็นได้ชัดยิ่งนักว่าเป็นของที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ แฝงความหมายที่งดงาม เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ระหว่างสามีภรรยากู้เซี่ยเทียนและเหลิ่งเซียงอวี้ไม่พราก จากกันชั่วนิรันดร์
ของที่กู้เทียนฉิงได้คือปิ่นระย้าอัษฏมงคล[3]อันหนึ่ง ตัวปิ่นนั้นสร้างอย่างประณีตบรรจงเป็นอันมาก วัสดุที่ใช้ทำก็เป็นโลหะหายากชนิดหนึ่งของโลกใบนี้ที่นำมาขัดจนเงาวับ บนปิ่นยังฝังอัญมณีวิญญาณเอาไว้ด้วย หากปักไว้เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงขึ้น กู้เทียนฉิงชื่นชอบจนไม่ยอมวางรีบปักไว้บนเส้นผมทันที
ระย้าอัญมณีที่อยู่บนปิ่นแกว่งไกวไปมาตามจังหวะเยื้องย่างของนาง อัญมณีที่อยู่ด้านบนขับเน้นให้ดวงตาของนางมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ส่วนพี่สาวน้องสาวคนอื่นๆ นั้น ของขวัญที่ได้รับนั้นมีรูปแบบไม่ต่างกันมากนัก บ้างก็เป็นถุงหอมที่งดงาม บ้างก็เป็นหยกประดับที่แวววาว…
กู้เทียนเฉามีสายตายอดเยี่ยมมาก ของขวัญที่เลือกมาทั้งหมดล้วนเป็นของที่เด็กสาวๆ นิยมชมชอบ น้องสาวทุกคนล้วนส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจอย่างมีความสุข แม้แต่บรรดาอนุภรรยาก็ได้รับของขวัญด้วยเช่นกัน ของขวัญที่พวกนางได้รับก็งดงามไม่น้อย เป็นแบบเดียวกันหมด ยุติธรรมกับทุกคน ทำให้พวกนางได้แต่ดีใจ…
กู้เซี่ยเทียนถือกระบี่เล่นนั้นเล่นอยู่พักหนึ่ง จู่ๆ คล้ายจะ นึกอะไรขึ้นมาได้สายตากวาดมองไปทั่วห้องโถง “จิ่วเอ๋อร์ล่ะ? จิ่วเอ๋อร์ไม่มาหรือ?”
……………………….
[1]มหาลัยวิทยาลัยชิงหวา เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศจีนในสายตาชาวจีนมหาวิทยาลัยชิงหวานั้น เทียบกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้
[2]หยกมันแพะ เป็นหยกสีขาวขุ่นเหมือนไขมันของแพะ เนื้อละเอียดไร้รอยตำหนิ เกลี้ยงเกลาและวาวแสง
[3]อัษฏมงคล คือ สัญลักษณ์อันเป็นสิริมงคลยิ่ง 8 อย่างของพุทธศาสนานิกายวัชรยานในทิเบต อันได้แก่ สังข์ ดอกบัว ธรรมจักร ฉัตร เงื่อนอนันต์ภาคย์ ปลาทองคู่ และธงแห่งชัยชนะ