Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 97

บทที่ 97

นังอัปลักษณ์ช่างก่อเรื่องเสียจริง

บุตรสาวคนอื่นๆ ล้วนอยู่ในห้องโถงหมดแล้ว ขาดเพียงกู้ซีจิ่วเท่านั้น

กู้เซี่ยเทียนย่นหัวคิ้ว มองไปทางเหลิ่งเซียงอวี้ “เจ้าไม่ได้ส่งคนไปแจ้งจิ่วเอ๋อร์หรือ?”

เหลิ่งเซียงอวี้ได้แต่ชิงชังอยู่ในใจ ครั้งก่อนๆ ที่บุตรชายกลับมา ล้วนเป็นนังเด็กอัปลักษณ์นั้นที่มาด้วยตัวเอง ครั้งนี้ไม่รู้ว่าทำเป็นวางท่าด้วยเหตุใด…

นางรีบฉีกยิ้ม สั่งคนให้ไปเชิญกู้ซีจิ่วพลางแย้มยิ้มแล้วอธิบายไปด้วย “จิ่วเอ๋อร์กับเทียนเฉาของเราสนิทสนมกันจะตาย ทุกครั้งที่เทียนเฉากลับมา จิ่วเอ๋อร์ก็จะวิ่งออกมาต้อนรับประจำ วนเวียนอยู่รอบตัวพี่ชาย หนนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มา…น้องเองก็ยุ่งๆ เลยลืมนางไป…”

กู้เซี่ยเทียนจึงพยักหน้าน้อยๆ มองไปทางบุตรชาย “เทียนเฉา เจ้าได้เตรียมของขวัญไว้ให้จิ่วเอ๋อร์หรือไม่?”

กู้เทียนเฉาไม่คิดเลยว่าหนนี้บิดาจะถามเรื่องนี้ออกมาด้วยตัวเองจึงอึ้งไปเล็กน้อย ยิ้มแย้มแล้วเอ่ยตอบ “เตรียมไว้แล้วขอรับ รอน้องจิ่วเอ๋อร์มาถึง ลูกจะมอบให้นางเองกับมือ”

กู้เซี่ยเทียนถึงได้พอใจ

แม้ใบหน้ากู้เทียนเฉาจะยังปกติอยู่ ทว่าในใจกลับรู้สึกแปลกๆ

แต่ไหนแต่ไรมาท่านพ่อไม่เคยใส่ใจนังเด็กอัปลักษณ์คนนั้นเลย แล้วครั้งนี้เป็นอะไรไป? เกิดไยดีคนน่าเกลียดผู้นั้นขึ้นมาแล้วหรือ?

บ่าวรับใช้ที่ไปเชิญกู้ซีจิ่วกลับมาอย่างรวดเร็ว พลางกล่าวรายงานทันที “ฮูหยิน ท่านแม่ทัพ คุณหนูหก บอกว่าไม่ค่อยสบายก็เลยไม่มาเจ้าค่ะ”

กู้เซี่ยเทียนขมวดคิ้ว “ไม่สบายหรือ? ไม่สบายตรงไหน?”

เขาลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปด้านนอก เดินไปด้วยพลางสั่งให้คนไปเชิญหมอมาด้วย…

เขาสาวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาก็พ้นจากประตูห้องโถง ทิ้งผู้คนเต็มห้องโถงที่มองหน้ากันอย่างฉงนสนเท่ห์ไว้ตรงนั้น

กู้เทียนอีอดกลั้นไว้ไม่ไหว หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “นังอัปลักษณ์ช่างก่อเรื่องเสียจริง หนนี้ไม่รู้ว่าจะเล่นเล่ห์อันใดอีก หรือนางถือว่าตนเป็นคุณหนูใหญ่ทายาทสายตรงไปแล้วจริงๆ?”

กู้เทียนเฉาหวั่นวูบในใจ “เทียนอี นี่มันอะไรกัน? ข้าไม่อยู่ที่นี่แค่ปีเดียวเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

กู้เทียนอีเป็นคนปากไวคนหนึ่ง จึงบอกเล่า ‘วีรกรรมชั่วร้าย’ ต่างๆ นานาของกู้ซีจิ่วในช่วงที่ผ่านมา พลางใส่สีตีไข่เพิ่มไปด้วยเพื่อความเข้มข้น น้องสาวคนอื่นๆ ก็ร่วมประสมโรงด้วยอีกหลายประโยค

กู้เทียนเฉาฟังอยู่เงียบๆ จนจบ เหลือบมองหน้าน้องสาวร่วมอุทรอย่างกู้เทียนฉิง กู้เทียนฉิงหลุบตาลงเล็กน้อย ท่าทางดูเศร้าหมองอยู่บ้าง

จากนั้นก็มองมารดาบังเกิดเกล้าของตนใบหน้าที่ได้รับการบำรุงรักษาไว้อย่างดีของเหลิ่งเซียงอวี้นั้นซีดขาวเล็กน้อย ในดวงตามีแววของความขุ่นข้องและความอับจนที่ซ่อนเร้นไว้ไม่ทัน…

หัวใจของเขาจมดิ่ง พลันลุกยืนขึ้น “ข้าเองก็ไม่ได้พบน้องจิ่วเอ๋อร์มานานแล้ว ในเมื่อนางไม่สบาย เช่นนั้นข้าก็จะไปเยี่ยมนาง”

เขาจะไปดูสักหน่อยว่านังเด็กอัปลักษณ์คนนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมคนไม่เอาไหนถึงพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้อย่างปุบปับ?

คุณหนูใหญ่ทายาทสายตรงงั้นหรือ?

เหอะ! ตอนนี้มีแค่เขาเท่านั้นที่นับเป็นทายาทสายตรงเพียงผู้เดียว! เขาเป็นบุตรชายของฮูหยินเอก กู้เทียนฉิง น้องสาวของเขาก็คือบุตรสาวฮูหยินเอก กู้ซีจิ่วตัวอัปลักษณ์นั้นไม่คู่ควร!

พอเขาเดินจากไป คนอื่นๆ ย่อมอยากไปชมดูเรื่องครื้นเครง จึงเดินตามไปด้วย

ตอนที่กู้เทียนเฉาและคนอื่นๆ เร่งเดินจนมาถึงเรือนของกู้ซีจิ่วนั้น ก็เห็นกู้ซีจิ่วที่อ้างว่าไม่สบายกำลังนั่งโล้ชิงช้าอยู่ในสวน ส่วนกู้เซี่ยเทียนที่เร่งรีบมาก่อนก็ยืนอยู่ข้างราวชิงช้า ช่วยผลักให้เป็นครั้งคราว ถ้าโล้สูงเกินไปเขาก็จะคอยเตือนอย่างเป็นกังวล “ช้าลงหน่อย อย่าโล้สูงเกินไป เจ้าปวดหัวอยู่ด้วยระวังจะตกลงมา”

เป็นภาพฉากพ่อลูกสุขสันต์ที่แสนสมบูรณ์แบบ!

สีหน้าของกู้เทียนฉิงแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย นิ้วมือที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่น ขนาดนางที่ได้รับความเอ็นดูจากท่านพ่อขนาดนั้น ท่านพ่อยังไม่เคยมาช่วยผลักตอนโล้ ชิงช้าเลยสักครั้ง

เพราะท่านแม่ทัพผู้องอาจไม่สนใจของเล่นของเด็กเล็กๆ การช่วยผลักชิงช้าให้บุตรสาวนับเป็นเรื่องขายหน้าแล้ว เหตุใดยามนี้ถึงไม่กลัวว่าจะขายหน้าเล่า?

นางรู้สึกไม่พอใจ น้องสาวคนอื่นๆ อีกหลายคนก็ยิ่งไม่พอใจ สีหน้าของแต่ละคนล้วนไม่ค่อยดีนัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version