บทที่ 968 ตัวโง่งมเจ้ามาทำอะไรอีก?
เธอพาเล่อชิงซิ่งไปปล่อยไว้ยังจุดที่ห่างออกไปห้าลี้ ให้เขารออยู่ที่นี่
ร่ากายเปล่งแสงวาบ ใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง ยามที่ปรากฏตัวขึ้นอีกหนก็พาเยี่ยนเฉินมาด้วยแล้ว…
เยี่ยนเฉินกับเล่อชิงซิ่งรวมตัวกันแล้ว เมื่อกู้ซีจิ่วปล่อยเยี่ยนเฉินก็คิดจะจากไปอีกครั้ง เยี่ยนเฉินรั้งเธอไว้ทันที “ซีจิ่ว จะไปไหน?”
กู้ซีจิ่วตบไหล่เขาเบาๆ “ข้าจะไปดูเขาหน่อย ยามคับขันข้าสามารถพาเขาหนีได้ วางใจได้ หากเขาไม่มีอันตรายข้าจะไม่ปรากฏตัว พวกเจ้าไปรับพวกจิ้งจอกน้อยก่อนเถอะ คอยดูพวกนางอย่าให้ตกอยู่ในอันตรายอีก…”
พลันหมุนกายหายตัวไปอีกครั้ง
ยามที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เธอยืนอยู่บนไม้ใหญ่ข้างหล่มโคลนต้นหนึ่ง ไม้ใหญ่ต้นนั้นสูงราวแปดจั้ง แขนงกิ่งก้านใหญ่โต ต้นไม้นี้เป็นต้นไม้ที่เขียวชอุ่มทั้งปี ถึงแม้จะเป็นฤดูหนาวที่หนาวเหน็บยิ่ง แต่ใบไม้บนกิ่งก้านยืดยาวยังคงชอุ่มชุ่มชื่นเขียวขจีไปหมด กู้ซีจิ่วพรางตัวอยู่บนต้นไม้สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านได้พอดี
หล่มโคลนแห่งนี้ดูกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ในหล่มคือนํ้าโคลนดำเมื่อม มีฟองอากาศผุดปุดๆ ออกมาจากในหล่มบ้างเป็นครั้งคราว กลิ่นเหม็นรมคนนัก กู้ซีจิ่วพลันสะกิดใจขึ้นมา!
นํ้าโคลนในหล่มนี้ดูพิลึกอยู่บ้าง…
เธอทะยานลงไป หยิบกิ่งไม้ท่อนหนึ่งขึ้นมาแล้ว จุ่มลงไปในโคลนเล็กน้อย มองอย่างละเอียด ดวงตาทอแสงวาบ นี่ไม่ใช่โคลนเด็ดขาด เป็นนํ้ามันปิ โตรเลียม!
บ่อนํ้ามันกลางแจ้ง!
แน่นอนว่าในนํ้ามัน น่าจะมีอย่างอื่นอยู่ด้วย มิเช่นนั้นคงไม่มีแรงดูดมากถึงเพียงนี้
เมื่อครู่เธอโยนใบไม้ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือลงไป ใบไม้นั้นไม่ได้ลอยอยู่บนผิวนํ้ามัน แต่จมดิ่งลงไปทันที…
สถานที่แห่งนี้คือฌาปนสถานตามธรรมชาติของผีดิบโดยแท้!
ถึงแม้ผีดิบเหล่านี้จะดูเหมือนไม่กลัวโดนไฟเผา แต่ไฟที่พวกมันไม่กลัวคือไฟจากพลังวิญญาณ อย่างไรก็ตามถึงแม้ไฟจากพลังวิญญาณจะรุนแรง แต่ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นและสลายหายไปทันควัน ไม่คงอยู่นาน แต่ถ้าจุดไฟใส่นํ้ามันปิโตรเลียมของที่นี่ล่ะก็…
เธอไม่เชื่อหรอกว่าจะพวกไอ้ผีร้ายพวกนี้ไม่ตาย!
เสียงฝีเท้าสับสนวุ่นวายแว่วมาจากด้านหลัง ชัดเจนยิ่งนักว่าในที่สุดอิงเหยียนนั่วก็พาผีดิบพวกนั้นมาแล้ว…
เธอเห็นชายชุดของอิงเหยียนนั่วโบกสะบัดมาแต่ไกล เธอกระโจนเข้าไปจนเกิดเสียงดังฟุ่บ ร่อนลงข้างกายเขา วิ่งเคียงเขา
อิงเหยียนนั่วมุ่นหัวคิ้ว “ตัวโง่งม เจ้ามาทำอะไรอีก?”
“หล่มโคลนแห่งนั้นสามารถจุดไฟได้ หลังจากเจ้าพาผีดิบพวกนี้เข้าไปก็รีบออกมาเลยนะ ข้าจะใช้ไฟเผาพวกมัน” กู้ซีจิ่วกล่าวอย่างรวดเร็ว
อิงเหยียนนั่วเลิกคิ้วขึ้น “ผีดิบพวกนี้ไม่กลัวไฟเผาเลย…”
“ไฟชนิดนี้พวกมันสมควรต้องกลัว หล่มโคลนของที่นี่ไม่ใช่หล่มโคลนธรรมดา เป็นหล่มนํ้ามัน เมื่อจุดไฟขึ้นจะลุกไหม้ไปอย่างน้อยสามสี่วัน และมีอุณหภูมิสูงแน่นอน ต่อให้เป็นเหล็กกล้าก็สามารถเผาผลาญได้ ที่นี่คือฌาปนสถานตามธรรมชาติของพวกมัน!” กู้ซีจิ่วมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
อิงเหยียนนั่วทราบว่านางมีความคิดหลักแหลมมากมาย จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างแท้จริง “ได้!”
ทั้งสองหารือแผนรับมือย่างรวดเร็วยิ่ง แต่ยามที่ลงมือจริงกลับประสบปัญหายุ่งยาก
ตอนที่วิ่งจนใกล้จะถึงหล่มโคลนดูเหมือนผีดิบพวกนี้จะรับรู้อันตรายได้ตามสัญชาตญาณ พากันหยุดฝีเท้า อิงเหยียนนั่วที่หลอกล่ออยู่ด้านหน้าพวกมันในระยะหนึ่งจั้งก็ไม่อาจทำให้พวกมันหลงกลได้
และในยามนี้ มีเสียงคำรามแหบต่ำสองสามเสียงแว่วมาจากที่ไกลๆ…
เสียงนั้นน่าพิศวงยิ่ง ฟังดูค่อนข้างแหบห้าว ทว่าเดี๋ยวสูงเดี๋ยวตํ่า เมื่อกู้ซีจิ่วได้ยินก็รู้สึกเพียงว่าในหูมีเสียงดังหึ่งๆ แก้วหูคล้ายว่าจะถูกทะลุทะลวง
ส่วนผีดิบเหล่านั้นกลับเสมือนได้ยินเสียงเรียกอันใด เริ่มหันหลังกลับ เห็นว่ากำลังจะกระโจนทะยานไป…
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก
เวรเอ้ย เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์งั้นหรือ?!