ตอนที่ 1256 เทพหมานทำลายภัยพิบัติ
นั่นคือมังกรทำลายล้างที่กำเนิดมาจากเผ่ามารดาในวิญญาณซูหมิง มันรวมไอหนาวสุดขั้วทำให้พลังของแสงแก่นยมโลกเพิ่มขึ้นหลายเท่า มันวนเวียนรอบตัวซูหมิงและกลายเป็นต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลกพร้อมกับส่งเสียงคำราม มังกรทำลายล้าง
เสียงครึกโครมดังสนั่นไม่หยุด อีกทั้งยังดังขึ้นเรื่อยๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจ มือใหญ่ที่รวมจากห้าสีก็ยากจะกำหมัดลงมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แสงดำที่ลอดมาจากใน ซอกนิ้วมือเยอะขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาเดียวเมื่อแสงดำระบำยออกมา แม้แต่มือใหญ่ยังเหมือนถูกคลุมด้วยแสงแก่นยมโลก ภายในปรากฏร่างเงามังกรทำลายล้างพุ่งออกมา
ทันใดนั้นแสงแก่นยมโลกก็ส่องแสงออกมาจากในซอกมือใหญ่ราวกับมี จิตวิญญาณ มันห่อหุ้มร่างซูหมิงจากมีรูปร่างเป็นไร้รูป จากของจริงกลายเป็นมายาที่หลอมกับแก่นยมโลก แสงที่สว่างมาจากในซอกนิ้วจำนวนมากรวมขึ้นใหม่กลางอากาศ กลายเป็นมังกรทำลายล้างดุร้ายตัวใหญ่
หลังมังกรปรากฏก็เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า เสียงดั่งฟ้าผ่า ราวกับแฝงไว้ด้วยพลานุภาพสวรรค์ โดยเฉพาะดวงตามันขยับประกายวาว มองมือใหญ่ที่รวมจากห้าสีแวบหนึ่ง
มือใหญ่นั้นคลายออกช้าๆ ก่อนยกฝ่ามือว่างเปล่าคว้าไปทางมังกรทำลายล้างอีกครั้ง ครั้งนี้ห้านิ้วมือกลายเป็นห้าใบหน้าที่ชัดเจนขึ้น
“พลังแห่งพลิกทะเลกระจายแสงแก่นยมโลก มังกรแห่งวิญญาณทำลายล้าง จงหนาวเยือก!” แสงหนาวเยือกในดวงตามังกรทำลายล้างร่างแปลงซูหมิงขยับวาววับ ขณะพึมพำร่างแสงแก่นยมโลกนอกตัวมังกรทำลายล้างส่องแสงยืดยาวออกไปอย่างเด่นชัด นี่คือรูปแบบแปรเปลี่ยนอภินิหารของเขาที่คิดขึ้นตอนที่อยู่คนเดียวเมื่อ นานมาแล้ว
อภินิหารของเขา เคลื่อนภูผาพลิกทะเลเปลี่ยนเทพหมาน สังหารเทพ คำสาปบรรพชนวิญญาณสามรกร้าง ในนี้เคลื่อนย้ายภูผาหลอมรวมกับกระบี่ตัดดวงจิตจะสามารถเหนี่ยวนำวิญญาณภูเขาสามร้อยล้านดวง ก่อให้เกิดวิชาที่ยิ่งใหญ่ นี่คือ วิชาสะเทือนวิญญาณภูเขาเคลื่อนย้ายภูผาตัดดวงจิต!
เดิมทีวิชาพลิกทะเลก็เป็นส่วนหนึ่งของแสงแก่นยมโลกอยู่แล้ว เมื่อหลอมรวมกับมังกรทำลายล้างในวิญญาณซูหมิง พลานุภาพของมันจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ว่ายังสู้กับเคลื่อนย้ายภูผาที่รวมวิญญาณภูเขาสามร้อยล้านดวงไม่ได้ เพราะวิชานี้ไม่มีสมบัติล้ำค่าอย่างกระบี่ตัดดวงจิต
แต่…มีแหวนสมบัติล้ำค่าอยู่ เลยทำให้ซูหมิงใช้มันในวิชาพลิกทะเลได้ ดังนั้นแล้ว จึงทำให้อภินิหารพลิกทะเลของเขาบรรลุถึงพลานุภาพที่น่าสะพรึง
ต่อมาคือเปลี่ยนเทพหมาน วิชานี้ซูหมิงไม่ต้องศึกษาอะไรอีก เดิมทีรูปแบบหนึ่งและสองของเปลี่ยนเทพหมานก็เป็นวิชาที่แกร่งยิ่งกว่าภายใต้สภาวะเปลี่ยนเทพหมาน อยู่แล้ว
ยามนี้เห็นมือใหญ่ห้าสีพุ่งเข้ามา แรงกดดันแก่กล้าเหมือนทำลายล้างทุกชีวิตได้แผ่มาจากมือใหญ่อย่างรุนแรง ชั่วพริบตาเดียวก็เข้ามาใกล้มังกรทำลายล้างร่างแปลง ซูหมิง ตอนที่คว้ามา มังกรทำลายล้างคำรามเสียงดังขึ้น มันม้วนพาแสงแก่นยมโลกรอบตัวราวกับทะเลพุ่งตรงไปหามือใหญ่
สองฝ่ายเข้าใกล้กันในพริบตา ทันทีที่ปะทะกัน ระหว่างที่มือใหญ่นั้นกำลังจะคว้ามังกรทำลายล้าง มังกรทำลายล้างพลันสะบัดตัว เอาหางหมุนวนเป็นวงกลมเหมือนอยากจะคลุมมือใหญ่นั้นเอาไว้ข้างใน ใช้ร่างกายเป็นเชือกหมายจะมัดมือใหญ่นั้น
อีกทั้งตอนนี้เมื่อหางยืดยาวไปอย่างไร้ขีดจำกัด ตอนที่หางชนกับหัวมังกรแล้วร่างกายเปลี่ยนเป็นวงกลมหนึ่งห่อหุ้มมือใหญ่เอาไว้ข้างในนั้น…
“วงแหวนมังกรทำลายล้างยมโลกเหมันต์สังหาร!” ชั่วขณะที่ซูหมิงพูดเสียงเบา มังกรทำลายล้างลักษณะวงกลมเกิดกลิ่นอายพลังสมบัติล้ำค่าขึ้น นั่นคือแหวนจาก โลกแท้จริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน เป็นสมบัติล้ำค่าระดับขั้นไม่อาจกล่าวที่ซูหมิงแย่งมา!
ทุกอย่างพูดเหมือนช้า แต่ความจริงเกิดขึ้นในพริบตา ตอนที่แหวนสมบัติปรากฏก็ขยายใหญ่เหมือนหลอมรวมกับร่างมังกรทำลายล้างของซูหมิง ไม่มีการแยกกัน จากนั้นร่างมังกรทำลายล้างพลันหดลงอย่างรวดเร็ว แหวนนั้นก็หดตามมาด้วย ชั่ววูบเดียวก็มัดห้านิ้วมือของมือใหญ่ห้าสีเอาไว้
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ซูหมิงใช้ร่างมังกรทำลายล้างรวมกับแหวนสมบัติล้ำค่า ไม่เพียงแต่มัดห้านิ้วมือไว้ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังคิดจะหดเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อลบมันด้วย
นี่คือการเปลี่ยนจากถูกกระทำเป็นฝ่ายกระทำ นี่คือซูหมิงเผยคมเขี้ยว เขาไม่ยอมถูกกระทำอย่างเดียวจากภัยพิบัติ แต่เขาจะลงมือ…ทำลายภัยพิบัติ!
มองไกลๆ ภาพนี้ซูหมิงกลายเป็นวงแหวน ห้านิ้วมือใหญ่ถูกสวมด้วยแหวนเอาไว้แน่น ซ้ำยังหดลงหมายจะมัดมือใหญ่จนแตกหัก!
เสียงครึกโครมดังก้อง ระหว่างที่มังกรทำลายล้างร่างแปลงซูหมิงกับแหวนสมบัติล้ำค่าหดลงมาอย่างรวดเร็วนั้น ห้านิ้วมือจากมือใหญ่สั่นสะท้าน โดยเฉพาะตรงจุดที่ถูกมัดยังเว้าลงไป แต่กลับมีแรงสะท้อนรุนแรงส่งมาไม่หยุด
นิ้วมือของมือใหญ่ห้าสีนั้นขยับแสงอย่างเร็วไว เกิดเป็นแสงมืดสลัว เห็นได้ชัดว่าการจู่โจมสวนกลับของซูหมิงครั้งนี้ ต่อให้เป็นภัยพิบัตินี้ก็ยังยากจะดิ้นหลุดได้ในระยะเวลาหนึ่ง
โครม!
นิ้วชี้ของห้านิ้วมือแตกกระจายเป็นนิ้วแรก หลังถูกมัดจนแตกแล้ว ใบหน้าสีแดงด้านบนบิดเบี้ยว ก่อนหายไปพร้อมด้วยเสียงถอนหายใจอย่างไม่ยินยอม
ต่อมาเป็นนิ้วก้อยตัวแทนของสีเยาว์วัย มันก็พังลงท่ามกลางเสียงดังสนั่นเช่นกัน…
ตอนที่นิ้วมือแรกพังลง ซูหมิงตื่นเต้นขึ้นมา แต่เมื่อนิ้วที่สองพังลง ดวงตา มังกรทำลายล้างร่างแปลงซูหมิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
แม้เขาจะมีความมั่นใจ แต่กลับไม่คิดว่าอภินิหารตนจะแกร่งถึงขั้นบีบให้ภัยพิบัติที่สองถอยไปได้ เจตนาเดิมของเขาคือจะให้มือใหญ่ดิ้นรนไปเรื่อยๆ จนอ่อนแรงลงเหมือนกับภัยพิบัติครั้งแรก ตอนที่มันอ่อนแอถึงขีดสุดแล้วเขาถึงจะโจมตีอย่างสุดกำลัง
แต่ตอนนี้ ห้านิ้วมือเหมือนกับทำลายตัวเอง
ตอนนี้เองนิ้วมือที่เป็นตัวแทนสีชมพูพังลงด้วยแหวนมังกรทำลายล้างของซูหมิง แล้วตามด้วยนิ้วโป้งของสีกระเรียนกับนิ้วกลางสีมังกร ทุกนิ้วระเบิดออก ทำให้แหวนของซูหมิงหดลงมาจนสุด
ช่วงที่มังกรทำลายล้างกับแหวนหดลงมาจนสุด กลางฝ่ามือที่เสียห้านิ้วมือไปและยังลอยอยู่เกิดมวลอากาศบิดเบี้ยวพร้อมกันตรงตำแหน่งห้านิ้วมือ เหมือนกับว่าที่ ห้านิ้วมือพังลงก่อนหน้านี้เป็นเพียงมายา หากไม่ใช่เพราะนิ้วมือที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ มัวหมองลงไม่น้อย ซูหมิงจะต้องคิดว่าแผนการตัดกำลังเมื่อครู่ล้มเหลวแน่ๆ
‘รับมือยากมากภัยพิบัติที่สอง…’ ซูหมิงถอนหายใจอยู่ภายใน ขณะเดียวกับที่ห้านิ้วมือปรากฏมาอีกครั้ง ห้านิ้วมือพลันหุบเข้ามาเป็นหมัด หมายจะคว้าซูหมิงเอาไว้ข้างใน
ชั่วขณะที่ซูหมิงลอบถอนหายใจ ร่างมังกรทำลายล้างรวมเข้าด้วยกัน ระหว่างที่เกิดแสงดำขยับวูบวาบยังปรากฏร่างกายเขาขึ้น เห็นห้านิ้วมือจากรอบตัวพุ่งเข้ามา เขาจึงมีสีหน้าเด็ดขาดและล้มเลิกกลอุบายเหล่านั้นที่เตรียมเอาไว้ในแผนการ เพราะเขาพบว่าแม้จะใช้กลอุบายเหล่านี้จนหมด แต่ก็ไม่มีทางเกิดผลแบบที่ เขาต้องการ
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจะใช้กลอุบายที่เตรียมไว้ต่อต้านกับภัยพิบัติที่สามกับ ภัยพิบัติที่สอง!
“เปลี่ยนเทพหมาน!” ชั่วพริบตาที่มือใหญ่นั้นปกคลุมรอบตัวซูหมิงหมายจะ คว้าตัวเขานั้น นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย เขายกมือขวาโบกไป ฉับพลันนั้นมีวิญญาณเผ่าหมานใหญ่ร้อยล้านกว่าดวงพุ่งออกมา ส่วนหนึ่งรวมที่มือขวาเขา ทำให้มือขวาขยายใหญ่อย่างไร้ขีดจำกัด และยังอัดแน่นไปด้วยการปะทุของพลังที่เหมือน ทำลายล้างฟ้าดินได้
เมื่อโบกแขนซ้ายไป แขนซ้ายก็ขยายใหญ่เหมือนกัน ภายใต้การอัดแน่นของวิญญาณเผ่าหมานใหญ่นับไม่ถ้วนทั้งในและนอกแขนสองข้างของซูหมิง ร่างกายเขาขยายใหญ่อย่างรุนแรง จากนั้นก็เป็นขาสองข้าง ทุกอย่างเสร็จสิ้นในพริบตา จากคนธรรมดากลายเป็นคนยักษ์ขนาดสิบกว่าจั้งเหมือนกับภูเขา
ร่างกายเขาอัดแน่นไปด้วยพลัง ดวงตาสองข้างฉายแววมั่นใจ ตัวเขาระเบิดพลังประหนึ่งสายรุ้งยาว พลังนี้คือพลังของเทพหมาน ร่างกายนี้ก็เป็นร่างที่แกร่งที่สุดของเผ่าหมาน อีกทั้งเขายังมีดวงจิตของหนึ่งโลกแท้จริง ดวงจิตนี้…เผยออกมาตรงดวงตาที่
สามตรงระหว่างคิ้ว ยามนี้ดวงตาที่สามเปิดออกเผยเป็นเส้นถี่เส้นหนึ่ง ซูหมิงในตอนนี้…
เขาคือเทพเจ้าของเผ่าหมานแห่งยุคโบราณ สู้กับฟ้า สู้กับดิน สู้กับทุกสารทิศ นั่นคือ การแสดงออกที่แกร่งที่สุดของดวงจิตบรรพชนวิญญาณ!
แทบเป็นขณะเดียวกับที่ซูหมิงใช้เปลี่ยนเทพหมาน ห้านิ้วมือนั้นเข้ามาใกล้ซูหมิงไม่ถึงสิบกว่าจั้งแล้ว มันปกคลุมโดยรอบ ปกปิดทุกทางของเขา ทำให้ไม่มีที่หลบ แต่เขาก็ไม่คิดจะหลบอยู่แล้ว แถมนัยน์ตายังฉายแววมุ่งมั่นในการต่อสู้ ชั่วพริบตาที่ นิ้วมือนั้นเข้ามา เขาตะโกนไป กระโดดลอยขึ้น สองมือยกขึ้นกดไปยังนิ้วชี้ของมือใหญ่
ตอนที่สองฝ่ายปะทะกันเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น นิ้วชี้ของมือใหญ่สั่นสะเทือน อย่างรุนแรงและไม่อาจกดลงมาได้ หลังถูกซูหมิงในสภาวะเปลี่ยนเทพหมานกดมือ ใส่แล้ว ซูหมิงตะโกนเสียงต่ำพร้อมกำหมัดขวาชกใส่นิ้วชี้นั้น นิ้วชี้สั่นไหวและดีดลอยขึ้นโดยกำปั้น ส่งผลให้แม้สี่นิ้วที่เหลือจะหุบลงมา แต่ซูหมิงก็ยังบินออกจากนิ้วชี้ได้
เขาไม่ได้ไปไกล แต่หลังบินออกมาแล้วหมุนตัวกลับ สองมือประสานด้วยกันแล้วกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยังมือใหญ่ที่กำหมัดนั้น
“ร้อยล้านปีของเผ่าหมานใหญ่ จิตวิญญาณเผ่าหมานนับไม่ถ้วน วันนี้แซ่ซู ข้ามผ่านภัยพิบัติ พวกเจ้า…จงยินยอมช่วยข้า!” รอบๆ สายรุ้งยาวจากซูหมิงปรากฏร่างเงามายามากมายขึ้นกลางอากาศ ร่างเงาเหล่านี้เลือนราง หากไม่มองดีๆ จะเห็นไม่ชัด กระทั่งถึงจะมองดีๆ ก็จะเกิดความรู้สึกเห็นภาพหลอน
บางทีอาจมีอยู่ บางทีอาจไม่มีอยู่ ร่างเงาเทพหมานของซูหมิงเข้าไปใกล้กำปั้นนั้น ทันทีที่ปะทะกัน เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นไปทั้งน้ำวนมรณะหยิน ส่งเสียงดังไปทุกโลกและยังออกไปข้างนอก
ชายชราวิญญาณสวรรค์มองภาพนี้ ภายในสีหน้าเกิดเป็นแสงสว่างจ้า
ท่ามกลางเสียงโครมคราม มือใหญ่ห้าสีบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง นิ้วชี้พังลงก่อน ต่อมาเป็นนิ้วก้อย นิ้วนาง นิ้วโป้งและนิ้วกลาง สุดท้ายเป็นฝ่ามือ ทั้งหมดพังลงภายใต้สภาวะเปลี่ยนเทพหมานของซูหมิงกับการเพิ่มขึ้นของพลังอย่างมาก
ภัยพิบัติที่สอง พังทลายลง!
ซูหมิงถอยไป ซ้ำยังกระอักเลือด ทว่ายังมีสีหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความมุ่งมั่นในการต่อสู้ พลังชีวิตในร่างกายเขาไหลเชี่ยว ดวงจิตหมุนวนอย่างเกรี้ยวโกรธ ราวน้ำทะเล เขารู้สึกถึงการทะลวงพลังอย่างรุนแรงขึ้นในใจอย่างชัดเจนอีกครั้ง
‘ข้ายกระดับวิญญาณครั้งที่สองได้แล้ว ตอนนี้หากทะลวงไปได้อีกครั้ง ก็จะยกระดับวิญญาณต่อเนื่องไปจนถึงขั้นสามได้!’