ตอนที่ 1368 สงบห้าสิบปี
แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงใช้ไม้เทพกวาดล้างสังหารผู้แข็งแกร่งยุคก่อนเกือบร้อยในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม โลกอื่นของสามรกร้างพลันเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น
การสั่นสะเทือนนี้ไม่ได้ดังสนั่นกึกก้องไปกลางโลก แต่สะเทือนในใจผู้ฝึกฌาน!
การบุกเข้าโลกแท้จริงดาราสัจธรรมของผู้ฝึกฌานเกือบร้อยเป็นที่สังเกตของ ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากกว่าอยู่แล้ว ถึงอย่างไรการเตือนจากโลกแท้จริงดาราสัจธรรมทำให้แม้พวกเขาจะดูเหมือนไม่สนใจ แต่ความจริงห้าสิบปีนี้กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปล่วงเกินเลยจริงๆ
นอกจาก…ชายชราคนนั้นเมื่อหลายปีก่อน!
และตอนนี้ก็เป็นผู้แข็งแกร่งเกือบร้อย…ทว่าการตายของพวกเขา กลิ่นอายพลังของไม้เทพ ทุกอย่างนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนที่เฝ้าสังเกตพากันใจสั่นสะท้าน หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง
ในพวกเขามีไม่น้อยมาจากปีกที่สี่ กระทั่งยังเคยหลับใหลในไม้เทพ ซ้ำยังมีบางส่วนเห็นภาพซูหมิงเก็บไม้เทพไปในตอนนั้น
ตอนนี้เมื่อเชื่อมความทรงจำทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วพลันกลายเป็นภาพสมบูรณ์ ทำให้ในความคิดหลายคนลอยขึ้นมาเป็นร่างเงาที่เก็บไม้เทพไปในโลกปีกที่สี่ สร้างความตะลึงแก่ใจคน ประหนึ่งว่าไม่อาจเอาชนะได้!
“เป็นเขา!”
“คนนี้…คือคนน่ากลัวที่เก็บไม้เทพไปในตอนนั้น!”
“สมควรตาย ไม่อยากเชื่อว่าในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมจะมีตัวประหลาดคนนี้อยู่! เขาไปที่ใดไม่ว่า ดันอยู่ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม สมควรตายๆ เขามีใจเหี้ยมโหด จะล่วงเกินไม่ได้แม้แต่น้อย”
พริบตาเดียวในมหาโลกสามรกร้าง ในผู้ฝึกฌานที่ตกตะลึงกับการสังหาร ผู้แข็งแกร่งเกือบร้อยของซูหมิง มีคนจำนวนมากใจสั่นไหว มีสีหน้าหวาดกลัวและ ตึงเครียด
แต่ก็ยังมีผู้ฝึกฌานยุคก่อนไม่น้อยที่ไม่ได้เห็นภาพไม้เทพถูกเก็บไปกับตา หรือบางคนไม่ได้มาจากโลกปีกที่สี่ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจความน่ากลัวของซูหมิงมากนัก ตอนนี้แม้จะลังเล แต่ส่วนใหญ่มีสีหน้ามืดทะมึน
“ห้าสิบปี ให้โลกนี้สงบหน่อยก็ดี” ซูหมิงกล่าวขึ้นเรียบๆ ก่อนเดินไปยัง โลกแท้จริงดาราสัจธรรม กระเรียนขนร่วงตามอยู่ข้างหลังอวดศักดาตลอดทาง โดยเฉพาะคำพูดซูหมิง แม้จะราบเรียบ แต่ภายในแฝงไว้ด้วยความหนาวเยือกทำให้กระเรียนขนร่วงตื่นเต้นกว่าเดิม
ซูหมิงเดินออกจากโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเข้าไปในโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ พริบตาที่เข้าไปทั้งโลกแท้จริงสั่นสะเทือน เกิดระลอกคลื่นกระเพื่อม พลังที่ทำให้โลกหยุดนิ่งอบอวลไปรอบๆ
ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนในโลกนี้พากันสังกตเห็นแล้วก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่หน้ามืดทะมึนเหล่านั้น ตอนนี้หลังจากซูหมิงแผ่กระจายพลังโดย ไม่กักเอาไว้มากนักแล้ว พวกเขาพากันตัวสั่น
พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงแค่กลิ่นอายพลังของซูหมิง แต่ยังมี…กลิ่นอายพลังของไม้เทพที่ไม่น้อยคนในพวกเขาคุ้นเคย! และที่สำคัญคือพวกเขารู้สึกถึง…กลิ่นอายพลังที่ แกร่งที่สุด บ้าอำนาจสุดขีดของทั้งมหาโลกสามรกร้าง ทั้งโลกซางเซียง!
กลิ่นอายพลังนี้หยุดการโคจรของทั้งมหาโลกสามรกร้าง การแผ่กระจายของ พลังนี้ทำให้ฟ้าแปรเปลี่ยน ราวกับย้อมทุกอย่างให้เป็นสีดำ อบอวลอยู่กลางอากาศให้ทุกคนที่สัมผัสเหมือนอยู่ในเงามืด มองไม่เห็นแสงสว่าง
เงามืดนี้ไม่ใช่สีดำในคืนมืด แต่เป็นเงามืดของทุกอย่างในโลก แม้แต่ฟ้ายามค่ำคืนยังถอดสี
ประหนึ่งว่าจุดที่ดวงจิตซูหมิงอยู่ ฟ้าดิน ดวงดาว มวลอากาศ ไม่ไสหัวไปก็ต้องถูกเงามืดไม่มีสิ้นสุดย้อมสีทั้งหมด
ขณะที่ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนทั้งหมดในมหาโลกสามรกร้างใจสั่น ซูหมิงก้าวเข้าไปในโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ ตอนเหยียบเท้าลง ร่างเขากลายเป็นร้อยส่วน
ร้อยร่าง กลิ่นอายพลังเหมือนกัน พริบตาเดียวก็ไปปรากฏในที่ต่างกันร้อยแห่งในโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ มีบนดาว มีในมวลอากาส มีกลางฟ้า มีในถ้ำที่สร้างขึ้นจากของวิเศษ
ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน ยกมือขวาขึ้น ไม้เทพขยายใหญ่เป็นพันจั้ง ระหว่างที่กวาดผ่าน ไม่ว่าผู้ฝึกฌานยุคก่อนร้อยคนในร้อยแห่งจะร้องคำรามอย่างไร จะร้องโหยหวนหรือต่อต้านอย่างไร กระทั่งอ้อนวอน หรือบ้าคลั่งในความสิ้นหวังของชีวิตจึงใช้อภินิหารที่จะให้สองฝ่ายบาดเจ็บสาหัส…ไม่ว่าอย่างไรซูหมิงยังคงมีสีหน้าเฉยชาดังเดิม ไม้เทพลากผ่าน เกิดเสียงครึกโครมดังร้อยแห่งพร้อมกัน เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้ง โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ ดังกังวานออกไปราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ซูหมิงร้อยร่างหายไป กลับมารวมกันอีกครั้งกลายเป็น ร่างซูหมิง แต่ตอนนี้เองก้าวแรกที่เขาก้าวเดินเพิ่งเหยียบลง
ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบง่าย ซูหมิงมีสีหน้าปกติ แต่กระเรียนขนร่วงกลับตาค้างเหม่อมองทุกอย่าง ก่อนเอาหัวโขกกับพื้น
“กิจการพังแล้ว พังไม่เป็นท่าแล้ว พวกเขามีหินผลึกเท่าไรกัน หมดสิ้น หมดสิ้นแล้ว หินผลึกของข้า…”
ซูหมิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนยกมือขวาขึ้นพลิกมือลง พลันมีถุงเก็บวัตถุเกือบร้อยลอยออกมาจำนวนมาก ทำให้กระเรียนขนร่วงใจสั่น มันตรงเข้ามากอดเอาไว้ทั้งหมดด้วย สีหน้าตื่นเต้นเด่นชัด
ซูหมิงส่ายศีรษะพลางยกเท้าเดินก้าวที่สอง พริบตาที่เหยียบก้าวที่สองลง เขาออกจากโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ไปปรากฏในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก เดิมทีโลกนี้ มีดวงจิตของเขาที่นี่อยู่ ตอนนี้ทันทีที่เข้ามา ทั้งโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกสั่นสะเทือนราวกับภัยพิบัติมาถึง ซูหมิงแค่นเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง ในฟ้าของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกเกิดพายุขึ้น
พายุนี้ถาโถมไปรอบๆ ชั่ววูบเดียวก็ใหญ่ยักษ์ถึงขีดสุด กลางพายุปรากฏใบหน้าซูหมิง ใบหน้านี้ใหญ่ยักษ์ไร้ที่เปรียบ จุดที่ผ่านดวงดาวจะไม่มอดดับ ไม่ส่งผลต่อผู้ฝึกฌานทั่วไป แต่ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนเหล่านั้นกลับมีสีหน้าหวาดกลัวและเหลือเชื่อ
“นี่มัน..ภัยพิบัติรึ? เป็นไปไม่ได้ ยังเหลืออีกห้าสิบปีกว่าภัยพิบัติจะมาถึง ไม่มีทางมาถึงก่อนเวลาได้!”
“แต่พายุกับใบหน้านี้ นี่มันภัยพิบัติมาเยือนชัดๆ”
ขณะที่เหล่าผู้แข็งแกร่งยุคก่อนในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกหวาดกลัว ใบหน้าซูหมิงที่รวมจากพายุกวาดล้างไปทั้งโลกแท้จริงแล้ว จุดที่ผ่าน ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนทุกคนที่สูญสิ้นไป แต่มีเพียงร้อยคนที่วิญญาณสลายไป
คนที่ไม่ตายเหล่านั้นไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีศักยภาพเพียงพอ แต่ซูหมิงจะสังหาร แค่ร้อยคน แม้จะเป็นอย่างนี้ แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งยุคก่อนที่ยังมีชีวิตเหล่านั้นแล้ว การประสบความเป็นตายในครั้งนี้ทำให้ในใจพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและยำเกรงต่อซูหมิงอย่างยิ่ง
สายลมผ่านไป ตอนที่ใบหน้าซูหมิงหายไป ซูหมิงก้าวเข้ามาในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกและก็เพิ่งเหยียบเท้าลง จากนั้นโบกมือมีถุงเก็บวัตถุร้อยใบบินออกมา กระเรียนขนร่วงข้างๆ ร้องเสียงแหลมด้วยความตื่นเต้น มันกอบโกยเก็บเอาไว้ทั้งหมดด้วยท่าทีตื่นเต้น มีสีหน้าฮึกเหิมจนเหมือนจะหมดสติไป
“ส่วนโลกแท้จริงที่สี่…” ซูหมิงอยู่ในฟ้าของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ยามที่มองโลกแท้จริงที่สี่ เขายกมือขวาขึ้นคว้าอากาศ ไม้เทพโผล่ขึ้นมา หลังหลายเป็นขนาดหลายหมื่นจั้งแล้ว ซูหมิงก็ชี้ไปยังโลกแท้จริงที่สี่
เมื่อชี้ไป ไม้เทพนั้นทะลวงผ่านมวลอากาศไปปรากฏในโลกแท้จริงที่สี่ ขณะโบกมือยังเหมือนกับมีคนยักษ์กวัดแกว่งไม้เทพฟาดลงไปยังโลกแท้จริงที่สี่
ฟาดใส่อากาศ แต่พริบตาที่ฟาดลงกลับทำให้มวลอากาศแตกกระจาย เกิดแรงปะทะกระจายไปรอบๆ พร้อมเสียงดังสนั่นกึกก้อง ภายใต้การแผ่ขยายไม่หยุด จึงเหมือนกับว่าโลกแท้จริงที่สี่เกิดมหันตภัยขึ้น
เมื่อแรงปะทะสังหารผู้แข็งแกร่งยุคก่อนร้อยคนแล้วจึงหายไป แต่ว่าร่องรอยมวลอากาศแตกยังคงอยู่ราวกับเป็นประจักษ์พยาน ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนที่ยังมีชีวิตใน มหาโลกสามรกร้างพากันตัวสั่นพลางรู้สึกถึงอันตรายเป็นตายที่ไม่ได้ประสบมา นานมาก
พวกเขาในตอนนี้ไม่มีใครหลงใหลในความรู้สึกนี้อีกแล้ว แต่ถูกปลุกความกลัวตายขึ้นมาอีกครั้ง
นี่คือการเตือนของซูหมิง เป็นคำเตือนที่ไม่มากและไม่น้อยสำหรับเขา แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งยุคก่อนเหล่านี้แล้วกลับเป็นดั่งสายฟ้าสะเทือนสวรรค์ หลังสิ้นคำเตือน ซูหมิงออกจากโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกกลับโลกแท้จริงดาราสัจธรรม
เขาตรึกตรองอยู่ชั่วครู่แล้วยกมือขวาโบกไป ไม้เทพพลันปรากฏในโลกดาราสัจธรรม มันขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุดจนมีขนาดเท่ากับตอนอยู่โลกปีกที่สี่ ลอยอยู่กลางฟ้า โลกแท้จริงดาราสัจธรรม
ไม้เทพแผ่กระจายความน่าเกรงขามสูงสุด ทั้งยังมีกลิ่นอายมารเหลือล้น ราวกับว่าในนั้นมีวิญญาณผู้แข็งแกร่งยุคก่อนสี่ร้อยคนถูกผนึกและกำลังร้องโหยหวนไม่หยุด พลานุภาพมากพอจะสร้างความตกใจแก่ทุกชีวิต
“แบบนี้จะได้สงบห้าสิบปี” ซูหมิงมองไม้เทพนั้นแวบหนึ่งก่อนขยับไหวตัว ไม่ได้กลับสำนักยอดเขาลำดับเก้า แต่ตรงไปยังยอดไม้เทพที่ตั้งตระหง่าน นั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่บนนั้น
กระเรียนขนร่วงเปิดถุงเก็บวัตถุทีละใบอยู่ข้างๆ ด้วยความตื่นเต้น ค้นสมบัติล้ำค่าหินผลึกในนั้นไม่หยุด ดูเร่งรีบเอามาก
เป็นอย่างที่ซูหมิงว่าไว้ รอบๆ ไม้เทพมีวิญญาณผู้แข็งแกร่งยุคก่อนสี่ร้อยคนวนเวียนอยู่ เสียงคำรามของพวกเขาในตอนนี้สร้างความน่าเกรงขามอย่างยิ่งแก่เหล่า ผู้แข็งแกร่งยุคก่อนทั้งหมดในมหาโลกสามรกร้าง
เมื่อพวกเขาต่างเงียบกันแล้วก็ไม่กล้าเข้าใกล้โลกแท้จริงดาราสัจธรรมเลย กระทั่งการสังหารกับกลิ่นคาวเลือดยังหายไปไม่น้อย มิหนำซ้ำยังทำให้ผู้ฝึกฌานจากโลกอื่นหลั่งไหลเข้ามาในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมกันจำนวนมาก เหมือนกับที่นี่กลายเป็นแดนความสุขของมหาโลกสามรกร้างจริงๆ
คนรู้นามของซูหมิงมีไม่เยอะ แต่ผู้ฝึกฌานที่อพยพมาในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเหล่านั้นกลับเริ่มเรียกขานเขาในนามเดียวกัน
เจ้าปกครองไม้!
เพราะไม้เทพนั้น เพราะร่างเงาซูหมิงที่นั่งขัดสมาธิบนไม้เทพตลอดปี ดังนั้น คำเรียกขานนี้จึงกลายเป็นคำเรียกด้วยความเคารพต่อซูหมิงจากผู้ฝึกฌานที่นี่
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อผู้ฝึกฌานในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเยอะขึ้นเรื่อยๆ เวลา…ผ่านไปแล้วสี่สิบกว่าปี!
ห่างจากช่วงเวลาที่ภัยพิบัติจะมาเยือนไม่มากแล้ว ตอนนี้เหลือไม่ถึงห้าปี!