ตอนที่ 1375 ภัยพิบัติสามรกร้าง 7
ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงมีสีหน้าย่ำแย่ยิ่ง เหมือนอย่างที่ซูเซวียนอีว่าไว้ ความหมายลึกล้ำที่สุดของการยึดร่างคือไม่อาจยึดร่างตัวเอง นี่คือกฎ และเป็นข้อห้าม!
เพราะหากยึดร่างตัวเอง เช่นนั้นในร่างกายจะแยกออกเป็นตัวเองอีกส่วน นั่นคือการแยกอย่างไร้รูป นั่นหมายความว่า…ไม่ว่าส่วนใดจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอก็ไม่มีทางกินอีกฝ่ายได้ ทำได้เพียง…คงอยู่ร่วมกัน
จุดนี้ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงรู้แก่ใจดี แต่ด้วยแผนการของซูเซวียนอีทำให้ผู้เฒ่าเมี่ยเซิง ยึดร่างเหลยเฉิน ส่วนเหลยเฉินมีเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิต เพราะมีต้นกำเนิดเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตร่วมกัน นี่ก็เท่ากับว่า…เขากำลังยึดร่างตัวเอง
หลังจากเห็นกลิ่นอายพลังเหลยเฉินหลอมรวมกับจิตเต๋าตนแล้วก็กลับมาในร่างตน ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงรู้สึกถึงการคงอยู่ของเหลยเฉิน รู้สึกว่าในจิตสำนึกตนเต็มไปด้วยจิตสำนึกเหลยเฉินที่แค้นต่อตนและยังไม่อาจลบหายไปได้
‘ไม่เลวซูเซวียนอี!’ ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงดวงตาวาววับ เขายกมือขวาขึ้นชี้ไปยังฝ่ามือ ร่างแปลงซูเซวียนอี เกิดเสียงโครมดังขึ้น ฝ่ามือนั้นระเบิดออกเผยเป็นร่างซูเซวียนอี ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงชี้ไปอีกครั้ง ถุงเก็บวัตถุของซูเซวียนอีแตกออก เตาหลอมลำดับห้าในนั้นปรากฏขึ้น
บีบอีกครั้ง เตาหลอมลำดับห้าระเบิดออก แม้แต่ร่างสตรีในนั้นยังกลายเป็นเถ้าธุลีหายไปพร้อมกับซูเซวียนอี
จิตสำนึกเหลยเฉินในตัวผู้เฒ่าเมี่ยเซิงสั่นไหว ความแค้นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
“อยู่ในร่างกายข้าก็ดี แบบนี้…เจ้าจะได้เห็นข้าทำลายทุกอย่าง รอข้าหาวิธีแยกเจ้าออกได้ก่อน ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองความสิ้นหวัง ตอนนี้เจ้าจะได้เห็นก่อนว่าข้าจะผนึกซูหมิงเป็นของเซ่นไหว้อย่างไร!” ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงยิ้มเยาะ พลันยกมือขวาโบกชี้ไปยังมวลอากาศ
เมื่อชี้ไป กลางจักรวาลกว้างใหญ่นอกผีเสื้อซางเซียง ชายหนุ่มชุดคลุมดำบน เข็มทิศที่กำลังสูบพลังชีวิตซางเซียงไม่หยุดพลันเงยหน้าขึ้น
“ของเซ่นไหว้…” ชายหนุ่มชุดคลุมดำพึมพำ ดวงตาเย็นชาเป็นประกายขึ้นมา เพียงแต่ประกายนี้มัวหมองมาก ราวกับจะมอดดับได้ และมีเพียงตอนนี้เท่านั้นที่เขาดูเหมือนสิ่งมีชีวิต
ขณะพึมพำ ชายหนุ่มชุดคลุมดำยกมือขวาขึ้นชี้ไปยังผีเสื้อข้างล่าง พลันเกิดพายุขึ้น กลายเป็นหมอกดำสายหนึ่งพุ่งลงไปยังผีเสื้อซางเซียงข้างล่าง ราวกับว่าจะไปเก็บของเซ่นไหว้ตามการชี้นำของผู้เฒ่าเมี่ยเซิง
เวลานี้ซูหมิงมองคนยอดเขาลำดับเก้ากลางน้ำวน เขายกมือขวาขึ้นแล้ว แต่ว่า…ตรงขอบน้ำวนที่เขาไม่อาจสัมผัสได้ชั่วนิรันดร์ยังเหมือนชะตาลิขิตไว้ว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในบางช่วงเวลา
ฝ่ามือสีดำจากกลิ่นอายความแค้นที่ซูเซวียนอีสูบมาทั้งยังรวมดวงจิตผู้เฒ่าเมี่ยเซิง ตอนนี้ข้ามผ่านน้ำวนของแม่น้ำลืมเดินทางมาปรากฏอยู่ตรงหน้าซูหมิง กลายเป็น กลิ่นอายความแค้นและคำสาปไม่มีสิ้นสุด ยามนี้…ปกคลุมซูหมิง
กลายเป็นผนึก!
ผนึกผู้ฝึกฌานที่แกร่งที่สุดในยุคนี้ ผนึกเขาเป็นของเซ่นไหว้ รอเสวียนจั้งมาเยือน
ภายในผนึกนั้น กลิ่นอายความแค้นกลายเป็นใบหน้าคนนับไม่ถ้วน ใบหน้าเหล่านี้มีความเหี้ยมโหด มีความบ้าคลั่ง และยังมีจิตสำนึกที่อยากให้ซูหมิงตายไปทันที มันเปลี่ยนโลกของซูหมิงเป็นสีดำ ผนึกเขาอยู่กลางหมอกดำเข้มข้น
“ซูหมิง เจ้าจงตาย!”
“เจ้าสังหารคนในเผ่าข้าทั้งหมด เจ้าต้องตาย เจ้าต้องตาย!”
“ฮ่าๆ เจ้าช่วยญาติพี่น้องของเจ้าไม่ได้ พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าตาย”
“ตอนนั้นที่เจ้าสังหารชาวเผ่าพวกข้า เคยคิดหรือไม่ว่าจะมีวันนี้ เจ้า…เหตุใดถึงยังไม่ตาย!”
ใบหน้านับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในหมอกรอบตัวซูหมิง ใบหน้าเหล่านี้ล้วนบิดเบี้ยว เปล่งเสียงคำราม มีจำนวนไม่มีสิ้นสุด วนเวียนรอบตัวซูหมิง เปล่งเสียงด่าทอและสาปแช่งที่แหลมเล็กถึงขีดสุด
พวกเขาแค้นซูหมิง แค้นจนถึงที่สุด!
ซูหมิงเงียบ เขามีสีหน้าเศร้าโศก มองหมอกรอบตัวพลางรู้สึกว่าพลังผนึกของที่นี่อาจจะไม่ได้แกร่งมากนัก แต่ก็มากพอจะผนึกตนช่วงเวลาหนึ่ง และหลังจากช่วง เวลานี้ เขาไม่รู้ว่าน้ำวนยอดเขาลำดับเก้าจะเป็นอย่างไร…
“คนที่สังหารชาวเผ่าพวกเจ้า กระทั่งสังหารพวกเจ้า…ไม่ใช่ข้า” น้ำเสียงซูหมิงแฝงไว้ด้วยความยึดมั่น ขณะกล่าวนัยน์ตาเขาเผยความรวดเร็วและดุดัน ก่อนยกมือซ้ายขึ้นรวมดวงจิตโลกแท้จริงของเขา รวมการโจมตีที่แกร่งที่สุดของจิตเต๋าพุ่งฝ่ามือไป ยังหมอก
เสียงครึกโครมดังก้องสั่นสะเทือนหมอกไปรอบๆ ส่งผลให้หมอกม้วนตลบอย่างรุนแรง ซูหมิงขยับวูบไหว ใช้การโจมตีที่แกร่งที่สุดอีกครั้งโดยไม่สนสิ่งใด โจมตีไม่หยุด เดินหน้าไปเรื่อยๆ หมายจะพุ่งออกจากที่ให้เร็วที่สุด
ดูเหมือนว่าไม่มีวิธีอะไร เพียงแค่โจมตีไปไม่หยุดหย่อน แต่มีเพียงซูหมิงคนเดียวที่รู้ว่าทุกครั้งที่ลงมือจะใช้แต่มือซ้าย!
และมือซ้ายของเขานี้เอง ทุกครั้งที่ลงมือ เส้นลายมือจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
แต่ใบหน้ากับคำสาปที่เกิดจากกลิ่นอายความแค้นที่อบอวลอยู่ในหมอกรอบๆ กลับบ้าคลั่งขึ้นมา ก่อนทำการขวางโดยไม่สนสิ่งใดเช่นกัน
“ไม่ว่าจะใช่เจ้าหรือไม่ ข้าบอกว่าเป็นเจ้าก็ต้องเป็นเจ้า!” เสียงนี้ดังขึ้นเหนือกว่าผนึกกลิ่นอายความแค้นทั้งหมด ดังก้องไปทั่วหมอก กังวานอยู่ข้างหูซูหมิง ซูหมิงหยุดเท้าแล้วหันกลับไปมองมวลอากาศกลางหมอก
ในมวลอากาศนั้น หมอกไม่มีสิ้นสุดรวมเป็นร่างเงาหนึ่ง นั่นคือร่างเงาของ ผู้เฒ่าเมี่ยเซิง เขามองซูหมิงพลางยิ้มมุมปาก
“เจ้าคือของเซ่นไหว้แก่เสวียนจั้ง นี่คือชะตาของเจ้า หนีไม่ได้ หลบไม่พ้น โลกนี้รวมกลิ่นอายความแค้นนับไม่ถ้วนเป็นคำสาป ใช้ลายมือเจ้าเป็นตัวเหนี่ยวนำ นี่ข้าเตรียมการไว้เพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลย…มีอย่างเดียวที่ข้าคาดไม่ถึงคือซางเซียงของโลก ที่เจ้าอยู่ช่างเหี้ยมโหดนัก พาคนยอดเขาลำดับเก้าที่เจ้าส่งไปกลับมาอีกครั้ง…” ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงยิ้มเล็กน้อย เขาสะบัดแขนเสื้อ หมอกรอบตัวพลันหมุนตลบ กลายเป็นฝ่ามือยักษ์ที่รวมจากหมอก ส่วนซูหมิงอยู่กลางฝ่ามือนั้น
“ข้าไม่เชื่อชะตา” ซูหมิงมองร่างเงาผู้เฒ่าเมี่ยเซิงพลางกล่าวขึ้นพร้อมยกมือซ้ายตบไปยังหมอกข้างหลัง เพียงตบไป หมอกรอบตัวเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นทันที ท่ามกลางเสียงครึกโครมนี้ เส้นลายมือในฝ่ามือเขาปรากฏขึ้นข้างหลัง
“ที่เจ้าพูดถึงคือเส้นลายมือนี้รึ?” ซูหมิงมองผู้เฒ่าเมี่ยเซิงพลางพูดขึ้นช้าๆ
เส้นลายมือที่ปรากฏข้างหลังเขาชัดเจนอย่างยิ่ง ตอนที่ปะทะกับหมอก ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นฟ้า
“นี่เป็นเส้นลายมือของข้าจริงๆ” ซูหมิงก้มหน้ามองมือซ้ายตัวเอง ช่วงที่ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงหรี่ตาลง ซูหมิงสะบัดมือซ้าย ทั้งมือซ้ายแห้งเหี่ยวลงในฉับพลันเหมือนจะหลอมละลาย เพียงพริบตาเดียว ทั้งมือซ้ายซูหมิงหายไป เหลือเพียงแขนเสื้อซ้ายที่ปลิวไสวเบาๆ!
“ลายมือนั้นเป็นของเจ้ามาโดยกำเนิด ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ต่อให้เจ้าเป็น…” ขณะผู้เฒ่าเมี่ยเซิงกล่าวพลันหรี่ตาลงอีกครั้งดูเหลือเชื่อ เขามองหมอกรอบๆ ก็พบว่าตอนนี้หมอกหายไปอย่างรวดเร็ว!
ใบหน้ากลิ่นอายความแค้นภายในหมอกยังเหมือนเสียดวงตาไป เสียพลังใน การสังเกต มองไม่เห็น…ซูหมิง!
เสียงครึกโครมดังก้องยิ่งกว่าเดิมในยามนี้ เมื่อเสียงดังขึ้น หมอกรอบตัวม้วนตลบหายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนฝ่ามือยักษ์นั้นตอนนี้กลายเป็นพืชไร้ราก กำลังพังทลายลง!
“นี่เป็นไปไม่ได้…เว้นแต่…เจ้า…” ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงหน้าเปลี่ยนสี เขานึกถึงความเป็นไปได้หนึ่ง
“มือซ้ายข้างนี้ของเจ้า ตอนนั้นก่อนที่เจ้าจะประทับฝ่ามือมันได้ถูกตัดไปแล้ว ที่ตัดไม่ใช่แค่เพียงเลือดเนื้อ แต่ยังมีการเชื่อมต่อกับแกนกลางจิตวิญญาณ นั่นก็เพื่อให้ข้าทำผิดพลาด เป็นความผิดพลาดที่แม้เจ้าจะไม่รู้เป้าหมายข้า แต่กลับกลายเป็น ปมเงื่อน!” ขณะที่ผู้เฒ่าเมี่ยเซิงกล่าวขึ้น ซูหมิงไม่พูดตอบ แต่ถอยไปอย่างรวดเร็ว ออกไปนอกหมอกแห่งนี้!
แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงออกจากหมอก ผนึกจากโลหิตเขาที่เห็นในน้ำวนตรงหน้าซึ่งทำการขวางไม่ให้แม่น้ำลืมเดินทางย้อนกลับ ขวางไม่ให้คนยอดเขาลำดับเก้ากลับมาพังทลายลง แม่น้ำลืมเดินทางย้อนกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบ คนยอดเขา ลำดับเก้าเหล่านั้น ใบหน้าที่ซูหมิงคุ้นเคย ตอนนี้ร่างเงาทุกคนกำลังปรากฏขึ้นจากน้ำวน ถูกย้อนกลับมาจากโลกนั้น!
ดวงตาซูหมิงเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก จิตเต๋าก็ลืมตาเช่นกัน เผยความบ้าคลั่ง แต่ซูหมิงรู้ว่าเขาไม่อาจใช้อภินิหารส่งพวกเขากลับไปได้อีกแล้ว เพราะไม่ทันการ เขาจึงมีเพียงทางเลือกเดียว!
ตัดแม่น้ำลืมเดินทาง!
ตัดการเชื่อมต่อทุกอย่างของแม่น้ำลืมเดินทางกับโลกนั้น ตัดเหตุและผลทุกอย่างกับคนยอดเขาลำดับเก้า ตัดเส้นทางกลับบ้าน มีแต่แบบนี้เท่านั้นบางทีอาจให้พวกเขามีเสี้ยวชีวิตรอดจากการทำลายล้าง!
ซูหมิงไม่มีเวลาลังเลแล้ว นัยน์ตาเขาฉายแววเศร้าโศก พลันยกมือขวาขึ้นฟันไปยังแม่น้ำลืมเดินทางที่กำลังย้อนกลับมาอย่างรุนแรง!
แม้จะเจ็บปวดในใจ แม้ในภายภาคหน้าจะไม่มีวันได้พบกันอีก แต่ขอเพียง พวกเขายังมีชีวิต ขอเพียงพวกเขายังอยู่ นั่นก็พอแล้วสำหรับซูหมิง!
ทว่าภาพในความลับสวรรค์ถูกลิขิตเอาไว้นานแล้ว มือซ้ายซูหมิงที่หายไปก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของความลับสวรรค์ ชะตานี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ความจริงตอนนั้นที่ซูหมิงเห็นความลับสวรรค์ก็ได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว
ช่วงที่ซูหมิงกำลังจะตัดแม่น้ำลืมเดินทาง ข้างหลังเขา…มีเสียงที่ทำให้ทั้งโลก ซางเซียงสั่นไหวดังแว่วมา!
“ของเซ่นไหว้…”
สิ้นเสียง ปรากฏนิ้วมือที่ทำลายล้างทุกอย่างระหว่างทาง ทำให้ทุกชีวิตหายไปขึ้นข้างหลังซูหมิง!
จุดที่นิ้วนี้ผ่าน ฟ้าดินจะกลายเป็นมวลอากาศ รอยแยกยักษ์สายหนึ่งถูกฉีกกลางอากาศ เผยเป็น…จักรวาลกว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุดนอกรอยแยก!