ตอนที่ 18 ประตูบานที่สอง
ยังคงมีหมอกปกคลุมโดยรอบสี่ทิศ มองไกลๆ ไม่ชัดเจน เห็นเพียงยอดเขาปกคลุมด้วยหมอกเลือนราง โดยรอบเงียบสงัด ไร้ลมไร้เสียง
ซูหมิงมองขึ้นไปบนเขาท่ามกลางหมอก นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขามาที่นี่ เขาสังเกตยอดเขาประหลาดแห่งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งจากจุดที่ยืน โดยเฉพาะภาพวาดแกะสลักและอักษรพิลึกหลายจุดบนภูเขา ทำให้ซูหมิงเกิดความเคารพยำเกรง
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก้มหน้ามองสร้อยคอ ยามนี้เศษหินสีดำหายไปแล้ว ลองหยิกตัวเองดูก็แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป แต่ตัวเขามาปรากฏอยู่ในแดนแห่งนี้จริงๆ
ซูหมิงล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ เมื่อพบว่าขวดบรรจุโอสถชำระล้างยังอยู่ นัยน์ตาพลันฉายประกาย ก่อนสาวเท้าไวเข้าไปในหมอกเบื้องหน้า ไม่นานก็มาถึงใต้ยอดเขา แล้วจึงเริ่มเดินเข้าสู่ทางเชื่อมระหว่างกัน
ตลอดทางไม่มีการหยุดพัก จนกระทั่งถึงประตูหินบานเดิม เขามองเส้นวงกลมที่เป็นหลุมทั้งสิบห้าหลุมรอบประตูอย่างคุ้นเคย ลังเลอยู่ชั่วขณะ ก่อนขบฟันหยิบขวดโอสถมาจากอกเสื้อ เทหนึ่งเม็ดแล้วใช้สองนิ้วคีบวางบนหนึ่งในสิบห้าหลุม
ในช่วงที่นิ้วใกล้สัมผัสโดน ซูหมิงพลันสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดอ่อนๆ จากหลุมเล็กดังกล่าว เม็ดโอสถถูกดูดออกจากปลายนิ้วของเขาทันที
ซูหมิงมีสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งยังหวาดระวัง เขาไม่ทราบว่าตนตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ และไม่ทราบด้วยว่าเมื่อเขาวางจนครบสิบห้าหลุมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ทว่ายามนี้เขาไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอย
ไม่มีการผลีผลามเกิดขึ้น เมื่อวางเม็ดโอสถบนหลุมแรกแล้ว ซูหมิงตั้งสมาธิมองเข้าไป ผ่านไปครู่ใหญ่หลุมเล็กยังคงปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ซูหมิงเกาศีรษะ ก่อนหยิบเม็ดโอสถขึ้นมาอีกหนึ่งเม็ดพลางขบคิด แล้ววางลงบนหลุมที่สอง ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความเสียดายจนครบสิบห้าเม็ดแล้ว ในใจเขาเริ่มตึงเครียด
“โอสถสิบห้าเม็ด หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เท่ากับเสียเปล่าไปทั้งหมด…”
ซูหมิงมองทั้งสิบห้าหลุมด้วยความตึงเครียด ทว่าในขณะนั้นเอง มีลำแสงอ่อนโยนหลายเส้นพลันพุ่งจากหลุมทั้งสิบห้า
ซูหมิงตื่นตะลึง รีบถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนพบว่าลำแสงจากหลุมทั้งสิบห้าหมุนวนขึ้นเป็นเกลียว อีกทั้งยังส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ เส้นวงกลมรอบประตูราวกับมีชีวิต ค่อยๆ หมุนโคจรอย่างเชื่องช้า ไม่นานก็ผนึกเป็นผืนเดียวกันคลับคล้ายน้ำวน เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว
แสงจากทั้งสิบห้าหลุมราวกับถูกดูดเข้าไปในน้ำวนทีละน้อย ทำให้ประตูหินมีลำแสงปกคลุม อีกทั้งยังมีเสียงดังก้องทั่วทางเดิน กังวานสนั่นหู บนตัวซูหมิงปรากฏเส้นเลือดขึ้นสิบเส้นโดยไม่อาจควบคุม โลหิตในกายเดือนพล่านราวกับกำลังต่อต้าน
เสียงดังก้องต่อเนื่องอยู่เพียงชั่วครู่ ควันสีเขียวเข้มลอยมาจากหลุมทั้งสิบห้า คลับคล้ายเม็ดโอสถด้านในระเบิดเป็นควันก็มิปาน ประตูหินใหญ่ยักษ์เริ่มสั่นไหว ตรงกลางประตูพลันเกิดรอยแยกเป็นเส้นตรง
รอยแยกนั้นเชื่อมบนล่าง ประตูหินเคลื่อนตัวไปสองด้านอย่างเชื่องช้า
หัวใจซูหมิงเต้นโครมคราม มองภาพเบื้องหน้ากระทั่งประตูหินเปิดจนสมบูรณ์ เขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึก เบื้องหลังประตูไร้เส้นทาง แต่เป็นเรือนหินขนาดไม่ใหญ่นัก
ผนังหินรอบเรือนไม่ได้เกลี้ยงเกลา แต่เป็นภาพวาดแกะสลัก บนผนังเบื้องหน้ายังมีประตูใหญ่ปิดสนิทอีกบาน
ยอดเพิงเรือนมีหินก้อนเล็กขับแสงอ่อน ผสานเข้าในผนัง อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้ใดได้สูดดมจะต้องตื่นตะลึง
นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย ค่อยๆ เดินเข้าไปด้วยความระมัดระวัง พลางกวาดสายตามองผนังรอบเรือนหิน ก่อนพบว่าภาพวาดแกะสลักบนผนังคล้ายคลึงกับตรงทางเดินก่อนหน้านี้ มีเงาร่างเปลือยผมยุ่งเหยิงกำลังหลอมโอสถอยู่ท่ามกลางบรรยากาศยุคโบราณ
ตอนซูหมิงเข้ามาในนี้เป็นครั้งแรก ยามเห็นภาพวาดเหล่านี้เขางุนงนอย่างมาก ทว่าหลังจากสำเร็จการหลอมสมุนไพรรวมถึงได้ความรู้จากความทรงจำแล้ว เขาจึงเข้าใจมากขึ้นไม่น้อย
เงาคนในภาพวาดเหล่านั้นกำลังหลอมโอสถที่แตกต่างกัน ซูหมิงมองไปมองมาก็ตกอยู่ในห้วงความคิดโดยไม่รู้ตัว ราวกับหลงใหลจนลืมเวลา
เมื่อดูเสร็จหนึ่งภาพแล้ว จึงสาวเท้าไวเพื่อหาภาพต่อไป ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด หลังจากดูจนครบทุกภาพ เขาจึงเบนสายตามองไปทางประตูที่ปิดสนิทในเรือนหิน
มันเป็นประตูหินที่ค่อนข้างแตกต่างกับประตูบานแรก ทั้งบานเป็นสีดำเงา ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นระลอก ราวกับประตูบานนี้ถูกสร้างขึ้นจากหินพิเศษ อีกทั้งยังมีความรู้สึกหนาแน่นบางอย่างแฝงอยู่ บนประตูมีภาพวาดเช่นกัน แต่เป็นภาพหม้อฮวงใหญ่ยักษ์ มีควันลอยขึ้นจากปากหม้อดูค่อนข้างสมจริง ซูหมิงยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่ภาพวาด แต่เป็นหม้อฮวงที่กำลังหลอมสมุนไพรอยู่จริงๆ
“หากข้ามีหม้อฮวงเช่นนี้สักหนึ่งใบคงจะดี…” ซูหมิงมองด้วยแววตาชื่นชมหลายรอบ
ด้านบนและสองข้างหม้อฮวง เขาเห็นสมุนไพรหลากชนิด สีหน้าพลันมีชีวิตชีวา ก่อนมองสังเกตอย่างละเอียด เป้าหมายที่เขามาในครั้งนี้ก็คือเพื่อมองหาเคล็ดการหลอมโอสถชนิดอื่นๆ
ด้านซ้ายภาพวาดหม้อฮวง เป็นสมุนไพรเจ็ดชนิดเรียงราย ในเจ็ดชนิดมีห้าชนิดที่เป็นส่วนประกอบของโอสถชำระล้าง ส่วนอีกสองชนิดซูหมิงไม่เคยเห็นมาก่อน เขามองอยู่นานเพื่อจำลักษณะมันให้ขึ้นใจ
ด้านล่างของสมุนไพรบนประตูหินมีหลุมเล็กแปดหลุมเรียงราย
ส่วนด้านขวาของภาพวาดหม้อฮวงเป็นสมุนไพรแปดชนิด คล้ายกับทางด้านซ้าย ห้าในแปดชนิดเป็นส่วนประกอบโอสถชำระล้างเช่นเดียวกัน ส่วนอีกสามชนิดที่เหลือ พอซูหมิงมองอย่างละเอียดแล้ว นัยน์ตาพลันฉายประกาย สองในสามเขารู้จัก เพียงแต่พบเห็นได้ยากเท่านั้น
ด้านล่างของสมุนไพรทั้งแปดชนิดมีหลุมเล็กอยู่เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าหลุมจะมากกว่าทางด้านซ้ายสักเล็กน้อย มีถึงสิบสองหลุม
ส่วนสมุนไพรด้านบนหม้อฮวง ตอนซูหมิงมองไป สีหน้าเริ่มตึงเครียด เพราะวัตถุดิบของมันไม่ใช่สมุนไพร แต่เป็นภาพอันน่าสะพรึงทั้งสาม
ภาพแรกเป็นเกล็ดหางงูเหลือม ภาพสองเป็นขาที่เก้าของแมงมุมเก้าขา ส่วนภาพที่สามเป็นนิ้วกลางมือขวาของคนแคระสีดำขนาดตัวเท่าฝ่ามือ
และที่พิลึกไปกว่านั้น ใต้ภาพเหล่านี้ไม่มีหลุมเล็กอยู่ ราวกับโอสถชนิดนี้ยากจะหลอมสำเร็จยิ่งนัก คลับคล้ายว่าไม่บังคับอย่างไรอย่างนั้น
ซูหมิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนละสายตาเดินเข้าไปใกล้ประตูหิน ยกมือขวาขึ้นแล้วกดลงโดยไม่ลังเล ทันใดนั้นภาพหม้อฮวงบนประตูหินพลันเปล่งแสงทึบจ้าลานตา โอบล้อมร่างซูหมิงไว้
ซูหมิงรู้สึกไม่สบาย ในสมองปรากฏภาพความทรงจำขึ้นหลากหลาย มันเป็นชื่อและขั้นตอนการหลอมเม็ดโอสถทั้งสามชนิด
“โอสถแดนใต้!” ซูหมิงมองไปบนด้านซ้ายของภาพหม้อฮวง ก่อนเลื่อนสายตาไปทางขวา
“โอสถวิญญาณผา…ส่วนอันสุดท้าย….โอสถมอบจิต!” ซูหมิงมองภาพวัตถุดิบพิลึกบนหม้อฮวง กล่าวพึมพำกับตน
ขณะซูหมิงกำลังไคร่ครวญ แสงทึบรอบกายค่อยๆ มอดดับ
ลำแสงจากหม้อฮวงเบาบางลงจนหายไป ในขณะนั้นเองดวงตาซูหมิงพร่ามัว เขาไม่วิตก เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ราวกับมีเสียงหวีดร้องพิลึกดังอยู่ข้างหู ทันทีที่เสียงหยุดลง ดวงตาของเขาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง พร้อมกลับมายังเรือนของตนในชนเผ่า
ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก เดินไปที่ประตูแล้วเลื่อนเก้าอี้ไว้ด้านข้าง ก่อนผลักประตูออก ด้านนอกยังคงมืดมิด ดวงดาราบนท้องฟ้าส่งแสงระยิบระยับ โดยรอบเงียบสงัด มีลมยามค่ำคืนพัดผ่านพาความหนาวเหน็บเข้ามา
เพียงแต่ตรงเส้นของฟ้าห่างไกล ปรากฏเส้นสีขาวเลือนราง เห็นได้ชัดว่าตะวันกำลังขึ้นสู่ฟ้า
“เวลาข้างนอกและข้างในน่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่…” ซูหมิงปิดประตูแล้วกลับมานั่งขัดสมาธิดังเดิม เท้าคางครุ่นคิดบางอย่าง
“ขั้นตอนการหลอมโอสถทั้งสามชนิดแตกต่างกัน วัตถุดิบโอสถแดนใต้อีกสองชนิดข้าไม่เคยเห็นมาก่อน เช่นนั้นข้ามไปก่อนได้ ส่วน….โอสถมอบจิต….”
ดวงตาซูหมิงพลันหรี่ลงเล็กน้อย
“โอสถชนิดนี้ไม่ใช้สมุนไพรในการหลอม อีกทั้งยังใช้แต่ของประหลาด ทว่าในความทรงจำที่ได้มา ตอนหลอมโอสถชนิดนี้สำเร็จ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันน่าสะพรึงยิ่งนัก!”
ซูหมิงหวนนึกไปถึงเงาคนในความทรงจำ เมื่อเขาหลอมโอสถมอบจิตสำเร็จ กลับเกิดเหตุการณ์พายุโหมกระหน่ำ ราวกับฟ้าดินถูกเหนี่ยวนำ จิตใจพลันสั่นไหว
“หากหลอมโอสถชนิดนี้สำเร็จ จะต้องเป็นที่น่าตะลึงอย่างแน่นอน! ทว่าน่าเสียดาย…แม้แต่บนประตูหินยังไม่มีหลุมเล็กให้ เห็นได้ชัดว่ามันหลอมได้ค่อนข้างยาก…คงจะไม่เกี่ยวกับการเปิดประตูบานนี้” ซูหมิงครุ่นคิด และค่อนข้างมั่นใจถึงเจ็ดแปดส่วน
“ที่หลอมได้ในตอนนี้มีเพียงโอสถวิญาณผาเท่านั้น ในสมุนไพรสามชนิดที่เกินมา ข้ารู้จักเพียงสองชนิด….แม้ตอนนี้ข้าจะไม่มีมัน ทว่าในห้องเก็บสมุนไพรของเผ่าน่าจะมีไม่น้อย”
ขณะซูหมิงกำลังครุ่นคิด ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างไสว วันใหม่คืบคลานมาถึงช้าๆ
แม้จะไม่ได้พักผ่อนมาตลอดทั้งคืน ทว่าซูหมิงกลับไม่รู้สึกง่วงแม้แต่น้อย ความรู้สึกนี้ชัดเจนขึ้นหลังจากเขาทะลวงสู่ลำดับสองขั้นรวมโลหิต รู้สึกราวกับมีกำลังวังชาก็มิปาน เว้นแต่เขาจะอดนอนหลายคืนติดกัน ถ้ามิเช่นนั้นแล้วแทบจะไม่เกิดความเหนื่อยล้าเลย
ตะวันขึ้นสู่ฟ้า ผู้คนในเผ่าต่างทยอยกันเริ่มทำงานในวันใหม่ ขณะนี้ซูหมิงล้างหน้าบ้วนปากเสร็จและกำลังเดินไปยังเรือนไม้ที่อยู่ไม่ไกลนัก รอบๆ มีรั้วกันเอาไว้ อีกทั้งยังมีคนเดินเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลา