ตอนที่ 196 พลังแห่งสายฟ้า
ซูหมิงยกมือขวา คว้าไปยังพลังความตายจำนวนมากจากยอดเขาผู่เชียง น้ำวนในร่างกายปรากฏอีกครั้ง พริบตาเดียวพลังความตายก็ถาโถมเข้ามาทางซูหมิงพร้อมกัน
แสงไฟจากผืนดินพลันเปลี่ยนทิศทางตรงเข้ามาทางเขาเช่นกัน
แววตาซูหมิงขยับประกาย พลันถอยหลังออกจากที่เดิม ขณะที่เขาถอยหลัง บริเวณตำแหน่งที่เขายืนก่อนหน้านี้มวลอากาศบิดเบี้ยว ทว่ากลับไม่มีสายฟ้าปรากฏ
‘หากกระแสไฟจากแผ่นดินและอากาศกระทบกันจะเกิดเป็นฟ้าผ่า ทว่ากลับไม่อาจหลบหลีกได้ เพราะสายฟ้าที่เห็นเป็นเพียงภาพลวง แท้จริงแล้วในช่วงที่กระแสไฟสองชนิดกระทบกันจะก่อให้เกิดเป็นพลังทรงอานุภาพ’
ในความคิดซูหมิงชัดเจนมากขึ้น หลังจากเข้าใจในจุดนี้แล้ว ก็แตกแขนงออกมาเป็นเรื่องเล็กน้อยจำนวนมากเชื่อมโยงจากด้านบน ยามนี้เขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกก้าวที่เหยียบลงกลับทำให้กระแสไฟจากแผ่นดินพรั่งพรูปกคลุมรอบตัวเขาและทะลวงเข้าไปในร่างกาย
‘หากยังรวบรวมกระแสไฟจากแผ่นดินไม่มากพอ จะยอมให้มันกระทบกับกระแสไฟจากอากาศมิได้…’ สิ่งที่ซูหมิงหลบก็คือกระแสไฟจากอากาศเลือนรางที่เขามองเห็นได้จากเคล็ดวิชาตราประทับ
ทุกอย่างคนอื่นมองไม่เห็น ในสายตาของทุกคนโดยรอบ ร่างกายของซูหมิงยังคงเป็นปกติ ทว่าที่น่าทึ่งคือด้านหลังของเขา มวลอากาศยังคงบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง ราวกับทุกจุดที่เขาผ่านจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในชั่วพริบตา แม้แต่สายตายังถูกกีดขวาง การบิดเบี้ยวของฟ้าดินเหมือนกับมีระลอกคลื่นกำลังแผ่กระจายก็มิปาน
ภาพเหตุการณ์พิลึกทำให้ทุกคนสับสนและทึ่ง ยิ่งเกิดความรู้สึกเคารพยำเกรงต่อซูหมิงมากขึ้น
ซูหมิงเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่ากระแสไฟจากอากาศที่แทบจะอบอวลโดยรอบก็รวดเร็วเช่นกัน พุ่งตรงเข้าใส่เขาจากรอบทิศ เหมือนกับในตัวเขาตอนนี้มีวัตถุบางอย่างกำลังดึงดูด ทำให้พวกมันบ้าคลั่ง กระทั่งสายฟ้าครามยักษ์ที่ผ่าตรงศีรษะของเหอเฟิงและทำให้ศีรษะเขาหายไปเรื่อยๆ จนเผยเม็ดโอสถชิงวิญญาณภายใน ยามนี้ดูก็เหมือนกระวนกระวาย โดยรอบบิดเบี้ยวดุจจะเปลี่ยนทิศทางได้ตลอดเวลา
มองดูเหมือนง่าย ทว่าความจริงแล้วภัยอันตรายนี้มีแค่ซูหมิงคนเดียวที่รู้ เวลานี้เขากำลังใช้สมาธิอย่างเต็มที่กับการเคลื่อนตัวหลบไปมารอบๆ แม้มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะหลบกระแสไฟจากอากาศพ้น แต่ก็ยังมีส่วนพลาดอยู่เล็กน้อย บ้างครั้งกระแสไฟก็พลันปรากฏบนตัวซูหมิง
‘ยังไม่พอ…’ ซูหมิงเคลื่อนไหวตรงไปทางโซ่เขาหานของยอดเขาผู่เชียง บนโซ่เหล็กเส้นนี้เขาพบว่ามีกระแสไฟจากแผ่นดินอยู่จำนวนมาก หากมิใช่เพราะเหอเฟิงเหนี่ยวนำกระแสไฟจากอากาศไป เกรงว่าโซ่เหล็กในตอนนี้คงจะถูกสายฟ้าผ่าลงมานับไม่ถ้วน
ซูหมิงใช้ความเร็วทั้งหมดขึ้นไปบนโซ่เหล็ก กระแสไฟจากแผ่นดินบนโซ่เหล็กในระยะใกล้เคียงพลันหลั่งไหลเข้ามาทางเขา เกิดเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ปรากฏสายฟ้าแลบจำนวนมากบนตัวซูหมิง ทำให้เขาตัวสั่นสะท้าน พลันบินขึ้นฟ้า
‘กระแสไฟจากแผ่นดินเพียงพอแล้ว ตอนนี้ข้าต้องการกระแสไฟจากอากาศที่มากพอเช่นกัน ในช่วงที่พวกมันกระทบกัน ร่างกายของข้าอาจรับไม่ไหว ทว่า…หากอยากได้สายฟ้ามาเป็นสมบัติประจำตัวก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้น! ขอแค่ยืดหยัดได้สักครู่ โอกาสสำเร็จก็จะมากขึ้น!’
ซูหมิงในเวลานี้ พลังความตายรอบตัวเขาหายไปจนหมด เหลือเพียงกระแสไฟจากแผ่นดินจำนวนมาก
แสงจากกระแสไฟที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเหล่านั้นอยู่ทั้งในและนอกร่างกาย ทำให้แรงดึงดูดสายฟ้าในตอนนี้มีมากกว่าเหอเฟิง กลายเป็นหนึ่งเดียว ณ ตรงนี้!
‘สมบัติขั้นชำระล้างต้องเป็นวัตถุถึงจะหลอมได้…สายฟ้าเป็นนามธรรม มีแต่ต้องให้มันปรากฏในร่างกายอย่างต่อเนื่องเท่านั้นถึงจะใช้การได้!
แบบนี้ถึงจะนับว่าเป็นการควบคุมสายฟ้า มิเช่นนั้นแล้ว หากเป็นวิธีอื่นอย่างเช่นดึงสายฟ้าเข้าสู่ร่างกาย มันก็เป็นแค่นามธรรมเท่านั้น เพราะการปรากฏของสายฟ้าเป็นภาพลวง อานุภาพแท้จริงของมันคือช่วงที่กระแสไฟจากแผ่นดินและอากาศกระทบกันต่างหาก! นี่ก็คือการหลอมรวมสายฟ้าอย่างแท้จริง!’
ซูหมิงลอยขึ้นสุดปลายฟ้า เขาสัมผัสได้ถึงกระแสไฟจากอากาศจำนวนมากตรงนี้!
ในช่วงที่เขาลอยขึ้นสุดท้องนภา ฟ้าดินส่งเสียงระเบิดดังสนั่น กระแสไฟจำนวนมากปรากฏกลางอากาศ ตรงเข้ามาทางซูหมิงจากรอบทิศ เสียงเปรี้ยงๆ ดังกึกก้อง ทุกคนมองไม่เห็นซูหมิง เห็นเพียงสายฟ้าจำนวนมากแผ่คลุมฟ้าผืนใหญ่เท่านั้น
อีกทั้งในยามนี้ สายฟ้าสีครามที่ผ่าตรงศีรษะของเหอเฟิงอย่างต่อเนื่องพลันเปลี่ยนทิศทาง ตรงดิ่งขึ้นฟ้ามาทางซูหมิงที่ถูกปกคลุมด้วยประกายสายฟ้าแทน การปรากฏของสายฟ้าครามทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ชวนให้รู้สึกเหมือนจะมีปรากฏการณ์น่าอัศจรรย์บางอย่าง
ขณะเดียวกันในเมืองเขาหาน บนน่านฟ้าในขอบเขตหนึ่งพันลี้ เวลานี้มีสายฟ้าผ่าลงมาจำนวนมาก ส่งเสียงลากยาวดังสนั่น สายฟ้าผืนใหญ่ส่องแสงสะท้อนแผ่นดิน เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหู ทำให้ทุกคนบนแผ่นดินใหญ่ล้วนเกิดความตื่นตระหนก ความคิดขาวโพลน
บนท้องฟ้าล้วนเต็มไปด้วยสายฟ้าแลบ!
ท่ามกลางเสียงฟ้าร้อง ซูหมิงที่ถูกปกคลุมด้วยแสงจากกระแสไฟกระอักโลหิต ภายในโลหิตมีกระแสกระแสไฟไหลเวียน พลันกลายเป็นหมอกโลหิตกลุ่มเล็ก
ใบหน้าซูหมิงขาวซีด ทว่าดวงตากลับเปล่งประกาย กระแสไฟจากแผ่นดินและอากาศกระทบกันในร่างกายเขา ก่อเป็นพลังสายฟ้าที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันพลังโลหิตขั้นชำระล้างของเขาก็ใช้วิธีการน่าทึ่งสูบพลังสายฟ้าเก็บเอาไว้ เพื่อหลอมเป็นสมบัติประจำตัวของเขา!
การหลอมสมบัติ เดิมทีช่วงที่ซูหมิงทะลวงขั้นชำระล้างจากเส้นเลือดเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเส้นก็สามารถใช้วัตถุหลากหลายเป็นสมบัติประจำตัว ทว่าสายฟ้านี้ ตั้งแต่อดีตกาลในแผ่นดินเผ่าหมานแทบไม่เคยได้ยินเลยว่ามีคนหลอมมันเป็นสมบัติประจำตัว ความเชื่องช้าแบบนั้น ต่อให้ไปถึงขั้นชำระล้างด้วยเส้นเลือดเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเส้น ก็เพียงพอจะถูกสังหารก่อนทำสำเร็จ
‘ร่างกายทนไม่ไหวอีกแล้ว…หรือจะต้องยอมแพ้จริงๆ!’ ซูหมิงมีสีหน้าดิ้นรน ยามนี้เขายังหลอมรวมไม่สำเร็จ กระแสไฟจากแผ่นดินและอากาศยังคงกระทบกันอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่กระทบจะเกิดพลังสายฟ้าที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เวลานี้ต่อให้ซูหมิงเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นชำระล้างก็ยังยืนหยัดได้ไม่นาน
‘มากสุดสิบลมหายใจ ข้าต้องตายแน่!’ ซูหมิงตัวสั่นสะท้าน เขาเห็นท้องฟ้ามีสีคราม
‘จะล้มเลิกแล้วใช้โอสถชิงวิญญาณเป็นสมบัติประจำตัว…..หรือว่าจะยืนหยัดต่อไป…’
‘ทว่าหากยืดหยัดข้าก็จะทำไม่สำเร็จ แต่หากล้มเลิก…ข้าก็ไม่ยอม!’
‘หากไม่มีโอกาสแต่แรกก็ไม่เป็นไร แต่ข้ามีโอกาสแล้ว ข้ามองออกถึงจุดกำเนิดของสายฟ้า ขอแค่ยืนหยัดได้อีก ข้ามั่นใจเต็มสิบว่าจะหลอมสายฟ้าเป็นสมบัติประจำตัวได้! ทว่า…’
เสียงเปรี้ยงดังสนั่น ขณะตัวสั่นสะท้าน เขากระอักโลหิตอีกครั้ง ใบหน้าก็ซีดขาว กระแสไฟปกคลุมรอบตัว กระทั่งเขายังสัมผัสได้ว่าห่างออกไปไกลมีสายฟ้ากำลังอบอวลอยู่เช่นกัน
‘ข้ายังมีอีกวิธี…ยังมีอีกวิธี!’ ในช่วงเวลาสำคัญพลันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้น เขายังไม่ทันขบคิดเลยว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ก็ดิ่งลงสู่พื้น บนท้องฟ้ามีเสียงดังสนั่น แม้ความเร็วในการดิ่งลงจะสูงยิ่งนัก สายฟ้ากลับผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขากระอักโลหิตจำนวนมาก
ท้ายที่สุดยามเขาลงสู่เมืองเขาหาน เกราะดำรอบตัวเขาพลันแผ่กระจาย เผยให้เห็นเสื้อคลุมดำ เสื้อคลุมผืนนั้นกลายเป็นละอองฝุ่นปลิวหายไปในชั่วพริบตา ดีที่ประกายสายฟ้าสว่างจ้าละลานตาจึงทำให้คนอื่นมองไม่เห็นตัวเขา เห็นเพียงกลุ่มแสงสายฟ้าน่าสะพรึงลงมายังเมืองเขาหาน แล้วตรงไปทางระฆังเขาหานนอกประตูหินทางเชื่อมระหว่างชั้นสองและชั้นสาม!
ซูหมิงเหยียบเท้ายืนอยู่บนระฆังเขาหาน จากนั้นพลันนั่งขัดสมาธิ หลอมรวมพลังสายฟ้าอย่างบ้าคลั่ง สายฟ้าแลบส่งเสียงเปรี้ยงๆ ดังสนั่น ขณะที่ผ่าลงใส่ซูหมิงกลับครอบคลุมระฆังเขาหานไปด้วย
ระฆังสั่นสะท้าน เสียงของมันดังกังวานรอบทิศ ขณะเดียวกัน น่านฟ้าในขอบเขตสองพันลี้ สามพันลี้ และสี่พันลี้ มีสายฟ้าจำนวนมากปรากฏรวมตัวกันโดยมีซูหมิงเป็นศูนย์กลาง
เสียงระฆังดังมากขึ้น ความน่าเกรงขามมามายมหาศาล ราวกับกังวานไปเก้าวัน
เวลานี้ คนจากสำนักเหมันต์สวรรค์สามคนห่างจากเมืองเขาหานสองพันลี้ นอกจากชายชราที่ยังคงสงบนิ่งมาโดยตลอดแล้ว ชายหญิงสองคนล้วนเกิดความตื่นตระหนก พวกเขามองอัสนีบาตน่าสะพรึงบนท้องฟ้าขณะตัวสั่นเทา
“ศิษย์น้องหญิงหานเฟยจื่อ…นางกำลังทำอะไร!”
“นางกำลังหลอมรวมสายฟ้า!” คนที่ตอบพวกเขาคือชายชราสงบนิ่ง แม้ดูเหมือนสงบ ทว่าความประหลาดใจและเฝ้ารอคอยในแววตากลับสั่นไหว
‘เยี่ยมมากแม่นางเหยียนเฟย ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้สายฟ้าเป็นสมบัติประจำตัวขั้นชำระล้าง สมกับเป็นแม่ทัพเทพ…ตั้งแต่โบราณกาลมีอัจฉริยะน้อยคนนักที่จะกล้าหลอมสายฟ้าสวรรค์….เดิมทีมีแต่วิถีเซียนจากต่างแดนเท่านั้นถึงจะทำได้
ชาวเผ่าหมานอย่างพวกเราหาคนที่จะทำสำเร็จยากนัก’ ชายชรามีสีหน้าชื่นชม
‘น่าเสียดายที่โจวซานแย่งไปก่อน…อีกทั้งนางยังเป็นเด็กผู้หญิงจึงไม่เหมาะจะเป็นศิษย์ของข้า…น่าเสียดาย น่าเสียดาย น่าเสียดาย…’ ชายชราถอนหายใจ อารมณ์เศร้าหมองเล็กน้อย
‘จะหาศิษย์ที่เหมาะสม ยาก!’
เวลาเดียวกัน ใต้ภูเขาเจ็ดแสงห่างออกไปไกลยิ่งนัก หญิงสาวงดงามเต็มไปด้วยความดื้อรั้นยืนขึ้นอย่างสง่างาม แล้ววางหมากลงไปใหม่ จากนั้นรินสุราให้กับชายหนุ่มชุดขาวหน้าตาหล่อเหลา ใบหน้านางขวยเขินเล็กน้อย ก่อนยกแก้วสุราเข้ามา
“พี่ใหญ่ซือหม่า น้องเล็กรินสุรามาให้ท่าน เรื่องที่ท่านอยากเข้าอุโมงค์เหมันต์สวรรค์ ข้าจะคุยกับท่านพ่อให้”
ชายหนุ่มชุดขาวยิ้ม มองเด็กสาวงดงามตรงหน้าด้วยความอ่อนโยน ก่อนหยิบแก้วสุรา ทว่าทันใดนั้นชายหนุ่มพลันสั่นสะท้าน มีแสงสายฟ้าปรากฏกลางอากาศจำนวนมากและไหลเวียนรอบตัวเขา ยามเด็กสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ มือขวาเขาสั่นเทา แก้วสุราในมือแตกกระจาย
ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนเป็นครั้งแรก พลันยันกายขึ้น จ้องไปสุดปลายท้องฟ้าเขม็ง ลมหายใจกระชั้นถี่อย่างที่พบเห็นได้ยาก
“พลังแห่งสายฟ้า? ระฆังเขาหานเป็นของข้าซือหม่าซิ่นคนเดียว!”