ตอนที่ 743 อนาถ!
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดแค่นเสียงหึเย็นชาแล้วเดินหน้าหนึ่งก้าว เขาเชื่อมั่นว่าการลงมือครั้งนี้ ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนจะต้องตายอย่างแน่นอน! แทบเป็นขณะเดียวกับที่ลงมือ เต้าหยวนผู้มีสีหน้าตื่นเต้นด้านหลังพลันบินตรงมาหาซูหมิง
“ทาสเต๋าถอยไป ข้าจะลงมือเอง เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ว่าเจ้าจะสังหารข้าหรอกรึ ข้าจะย่ำยีแม่นางน้อยคนนี้ต่อหน้าเจ้า ให้เจ้าได้เห็นกับตาตัวเอง!” เต้าหยวนหัวเราะเสียงดังพลางเข้ามาใกล้ ส่วนซูหมิงกับอวี่เซวียนก็ถอยไปอยู่ข้างอาคมคุ้มกันนอกยอดเขาลำดับเก้า
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดหยุดชะงัก ปล่อยให้นายน้อยบินผ่านตนไปใกล้ซูหมิงกับอวี่เซวียน ทว่าช่วงที่เต้าหยวนยกมือขวาจะคว้าอวี่เซวียน กลับมีกลิ่นอายพลังแก่กล้าน่าสะพรึงกลัวปะทุมาจากยอดเขาลำดับเก้า
ความแกร่งของพลังเหนี่ยวนำให้ฟ้าดินสั่นไหว น้ำทะเลเกิดน้ำวนจำนวนมาก ฟ้าสั่นสะเทือน แม้แต่มังกรเหลืองกับทาสเต๋าสามคนที่กำลังสู้กับมันยังตื่นตะลึง
“ที่นี่เป็นถิ่นของท่านกระเรียนผู้นี้ เพียงแต่ว่าข้างีบไปสักครู่เท่านั้น พวกเจ้ากล้าบุกรุกรึ จงรีบไสหัวไป!” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามดังสะเทือนฟ้าดินมาจากยอดเขาลำดับเก้า
วินาทีที่ปรากฏพลังแก่กล้าไร้ที่เปรียบนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้มังกรเหลืองกับทาสเต๋าสามคนที่กำลังสู้กันอยู่ตื่นตะลึงเท่านั้น แต่ยังทำให้ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดซึ่งกำลังใช้วิชาลงมือสังหารซูหมิงตื่นตกใจใหญ่
“นี่มัน….กลิ่นอายพลังของระดับภัยพิบัติตะวัน!” ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ไม่ทันขบคิดก็รีบดึงเต้าหยวนที่กำลังตกใจจนอึ้งงันกลายเป็นสายรุ้งถอยออกมา
เต้าหยวนกรีดร้อง เขาตัวสั่นและมีสีหน้าตื่นตระหนก
“กลิ่นอายพลังภัยพิบัติตะวัน ไม่ผิดแน่ นี่คือยอดผู้ฝึกฌานที่บรรลุถึงขอบเขตพิบัติตะวัน! ห่างจากขอบเขตภัยพิบัติเพียงก้าวเดียว” ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดหน้าซีดขาว สภาพจิตใจปั่นป่วน เขาไม่นึกเลยว่ามาแดนหมานครั้งนี้จะเจอกับ…เรื่องเสี่ยงอันตรายถึงเพียงนี้
ทว่าเวลานี้ในใจก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย เขายกมือขวาขึ้นด้วยสีหน้าเด็ดขาด ฉับพลันนั้นก็ปรากฏสิ่งหนึ่งในมือก่อนถูกบีบแตกในทันที
สิ่งนั้นเป็นเม็ดยาสีดำเม็ดหนึ่ง ทันที่เม็ดยานี้ถูกบีบแตกก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น
ภายใต้เสียงระเบิด ฟ้าดินสั่นสะเทือน ระลอกคลื่นกระจายออกโดยรอบอย่างเร็วรี่ เพียงแต่ว่าระลอกคลื่นไม่ได้มีพลังในการสังหารมากนัก แต่เป็นแสงสีดำที่เปล่งสว่างมาจากภายในและปกคลุมในระยะร้อยลี้
ทาสเต๋าจ้องแสงสีดำเขม็ง มองภายในระยะหลายร้อยลี้ที่มีแสงดำปกคลุม หลังจากหน้าไม่เปลี่ยนสีอีก เขาก็มีสีหน้าประหลาดใจและโกรธเกรี้ยว
“เจ้าไม่ใช่ยอดผู้ฝึกฌานภัยพิบัติตะวัน นายน้อย ที่นี่ไม่มียอดผู้ฝึกฌานภัยพิบัติตะวัน นั่นมันวิชาเต๋าลวงตา!”
ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดตะโกน ไม่ถอยไปอีก แต่ตรงไปหาซูหมิงกับอวี่เซวียนอีกครั้ง
เต้าหยวนข้างๆ ก็ตะลึงงันไปพักหนึ่ง เขารู้ว่าเม็ดยาเมื่อครู่นี้คือเม็ดยาตามหาผู้ฝึกฌานระดับภัยพิบัติของสำนักดาราสัจธรรม เม็ดยานี้สามารถค้นหาพลังแห่งภัยพิบัติในบางพื้นที่ว่ามีอยู่หรือไม่ และวิเคราะห์ได้ว่าในพื้นที่นั้นมีผู้ฝึกฌานภัยพิบัติหรือไม่
หากหน้าเขาเปลี่ยนสี นั่นหมายความว่ามีผู้ฝึกฌานภัยพิบัติอยู่จริงๆ แต่หากภายในระยะหลายร้อยลี้ของเม็ดยา สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยน นี่จึงหมายความว่า…ไม่ว่ากลิ่นอายพลังเมื่อครู่จะแผ่กระจายมาอย่างไร ทว่าความจริงคือไม่มีผู้ฝึกฌานระดับภัยพิบัติอยู่ที่นี่เลย
เต้าหยวนที่ได้สติกลับมาโมโหและอับอายเป็นอย่างยิ่ง เขาตรงไปหาซูหมิงที่จิตสำนักกำลังพร่าเลือนกับอวี่เซวียนทันที ด้วยความเร็วของเขาพริบตาเดียวก็มาถึง ทั้งยังตะโกนเสียงดัง
“ไม่อยากเชื่อว่าจะหลอกคุณชายอย่างข้า ข้าจะฆ่าพวกเจ้าด้วยมือตัวเอง ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดคอยคุ้มกันข้าอยู่ข้างๆ คอยดูข้าบดขยี้พวกมันทีละคน!” เต้าหยวนห้อเหยียดเข้ามา พอเข้ามาใกล้ซูหมิงกับอวี่เซวียนก็ยกมือขวาจะคว้าซูหมิงผู้ซึ่งมีจิตสำนึกหย่อนยาน
ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามด้วยความโกรธแว่วมาจากในอาคมคุ้มกันร้อยลี้ที่เลือนราง จากนั้นก็มีร่างเงาบินออกมาทีละคน
นั่นคือ…ผู้คนที่อาศัยอยู่บนยอดเขาลำดับเก้ามานานปี พวกเขายอมตายเพื่อยอดเขาลำดับเก้า เพื่อปกป้องยอดเขาลำดับเก้า และตอบแทนบุญคุณของซูหมิงในตอนนั้น
ยามนี้ถึงช่วงเวลาเป็นตายแล้ว พวกเขาจึงพุ่งออกมาอย่างไม่ลังเล คนนำหน้าสุดเป็นชายชราคนหนึ่ง ขั้นพลังคือวิญญาณหมาน ทว่าไม่สูงนัก แต่ตอนที่เดินออกมาเขากลับตรงไปหาเต้าหยวนโดยไม่สนความเป็นตายใดๆ หมายจะขวางฝ่ายตรงข้ามไม่ให้สังหารซูหมิงกับอวี่เซวียน
“รนหาที่ตาย!” เต้าหยวนเอ่ยเสียงแหลม ฝ่ามือขวาเปลี่ยนทิศทางพุ่งไปยังร่างชายชรา แต่ทันทีที่เกิดเสียงระเบิด ชายชรากลับเผยรอยยิ้มพิลึก ร่างกายเขาส่งเสียงดังสนั่น นี่คือการระเบิดตัวเอง
หลังจากระเบิดตัวเอง ระลอกคลื่นจากแรงระเบิดของขั้นพลังก็ตรงไปหาเต้าหยวน โลหิตแตกกระจาย พุ่งฉีดไปรอบๆ มีไม่น้อยที่ตกใส่ซูหมิงกับอวี่เซวียน เดิมทีจิตสำนึกซูหมิงใกล้จะเลือนหายเพราะบาดเจ็บสาหัส ทว่าพอถูกโลหิตสัมผัสร่าง ในดวงตาพลันก็ปรากฏเส้นเลือดเข้มข้น
จิตสำนักหวนคืนสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว เขาตัวสั่น ข้างหูมีเสียงหัวเราะลากยาวก่อนตายของชายชรา
“ท่านซูหมิง ยอดเขาลำดับเก้าดูแลข้ามานานปี วันนี้ข้าขอใช้ความตายตอบแทนบุญคุณ!”
ขณะเดียวกับที่ชายชราสิ้นใจลง ก็มีร่างเงาบินออกมาจากอาคมคุ้มกันเรื่อยๆ มิหนำซ้ำยังมีอีกหลายคนเข้ามาโอบเขากับอวี่เซวียนเอาไว้ ก่อนดึงไปทางอาคมคุ้มกัน
ร่างเหล่านั้นส่งเสียงระเบิดตัวเองทีละคน ทำให้เต้าหยวนถูกแรงระเบิดบีบอัดใส่อย่างต่อเนื่อง พริบตาเดียวก็มีมากกว่าสิบคนเลือกระเบิดตัวเอง
“ท่านซูหมิง แซ่เฉินขอตอบแทนบุญคุณ!”
“ท่านซู วันนี้แซ่สวี่ขอใช้ความตายทดแทนบุญคุณ!”
“ข้าขอใช้ความตายทดแทนบุญคุณ ท่านซูหมิง หากมีชาติหน้า เรามาพบกันอีก!”
เสียงหัวเราะลากยาวก่อนตายดังขึ้นเรื่อยๆ มีคนจำนวนมากเลือกใช้การระเบิดตัวเองถ่วงเต้าหยวนเพื่อช่วยซูหมิงไว้ ทุกอย่างทำให้จิตซูหมิงกลับสู่ร่างทั้งหมด เขาตื่นแล้ว แต่กลับเปิดใช้พลังไม่ได้แม้แต่น้อย อาการบาดเจ็บสาหัสในร่างกายทำให้เขาเหมือนน้ำมันตะเกียงที่เหือดแห้ง
ดวงตาสองข้างแดงก่ำ เขาได้แต่มองคนตายไปทีละคน ได้ยินคำว่าตอบแทนบุญคุณไม่หยุด ร่างเขาสั่นไหวพร้อมกับเปล่งเสียงคำรามแหบแห้ง
ข้างกายเขายังมีคนบินออกมามากกว่าเดิม ในคนเหล่านี้มีคนชราและผู้เยาว์ ชาวเผ่าที่อาศัยอยู่บนยอดเขาลำดับเก้าเหล่านี้ต่างใช้ความเลือดร้อน ใช้การระเบิดตัวเองมาปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาตอนเข้ามาอยู่ยอดเขาลำดับเก้า
กล่าวคำสาบานว่าจะปกป้อง
อวี่เซวียนน้ำตาไหล นางเหม่อมองทุกอย่าง มองผู้คนตายไปทีละคน ครั้นได้ยินเสียงของพวกเขาและยังมีเสียงคำรามแหบแห้งของซูหมิง น้ำตาของนางก็มากขึ้นเรื่อยๆ
เต้าหยวนถูกตรึงเอาไว้ ขณะเห็นว่าซูหมิงกับอวี่เซวียนถูกดึงเข้าไปในวงแหวนอาคม ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดข้างๆ ก็เดินหน้าหนึ่งก้าว ก่อนยกมือขวาสะบัดไปข้างหน้าด้วยความเย็นชา คนที่พุ่งมาจากอาคมคุ้มกันมีไม่น้อยที่ยังไม่ทันระเบิดตัวเอง ร่างก็พลันแหลกสลายหายไปเสียก่อน
และยังมีอาคมคุ้มกันร้อยลี้ ตอนนี้สั่นไหวอย่างรุนแรง พอทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดเข้ามาใกล้และส่งฝ่ามือเข้าไป ท่ามกลางแสงดาราส่องสว่าง อาคมคุ้มกันนี้ก็เริ่มพังทลายลงอีกครั้ง
หลังจากมันพังทลายลงและทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดลงมือ อาคมคุ้มกันร้อยลี้ก็กลายเป็นแปดสิบลี้ หกสิบลี้ สี่สิบลี้…..ทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดมีสีหน้าเย็นชา อาคมคุ้มกันพังพินาศลงอย่างต่อเนื่อง คนยอดเขาลำดับเก้าที่บินออกมาก็ถูกสังหารมากขึ้นไปพร้อมกัน
เต้าหยวนอยู่ด้านหลัง ทะยานเข้ามาอย่างตื่นเต้นด้วยสีหน้ากระหายเลือด
ภายในอาคมคุ้มกัน ซูหมิงกับอวี่เซวียนถูกผู้อาศัยบนยอดเขาลำดับเก้าสี่คนโอบล้อมอยู่ และกำลังช่วยสองคนกลับยอดเขาลำดับเก้าอย่างสุดกำลัง พวกเขาน้ำตาไหล ข้างหูได้ยินเสียงระเบิดดังอยู่เรื่อยๆ พวกเขารู้ว่าทุกครั้งที่มีเสียงระเบิดจะไม่ใช่เพียงอาคมคุ้มกันพังทลายลงเล็กน้อย แต่ยังมีสหายของพวกเขาตายไปด้วย
ตอนที่อาคมคุ้มกันพังจนเหลือไม่ถึงสิบลี้ สี่คนที่โอบซูหมิงกับอวี่เซวียนก็ร้องคำรามพร้อมกัน ก่อนผลักซูหมิงกับอวี่เซวียนเข้าไปใกล้ทางยอดเขาลำดับเก้า พวกเขาสี่คนพลันหมุนตัวกลับและเลือกระเบิดตัวเองอย่างไม่ลังเล หลังจากทั้งสี่คนระเบิดตัวเองพร้อมกัน แรงระเบิดก็ตรงไปหาทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดที่กำลังไล่ตามมาทันที
ทว่าการระเบิดของสี่คนนี้ สำหรับทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดแล้วไม่มีค่าพอให้สนใจเลย เขาทะลวงผ่านแรงระเบิดจากสี่คน คว้าไปทางซูหมิงกับอวี่เซวียนซึ่งถูกผลักไปอย่างเนิบๆ คล้ายกับแมวเล่นไล่จับหนู
แต่ทันทีที่กำลังจะคว้าไป ข้างๆ ซูหมิงกับอวี่เซวียนที่กำลังเคลื่อนไหวจากแรงผลักก็มีร่างเงามากกว่าร้อยคนบินออกมาขวางอยู่ตรงหน้าพร้อมกัน และยังมีอีกสามคนเข้ามาโอบซูหมิงกับอวี่เซวียนก่อนดึงให้ถอยไปอย่างรวดเร็ว
หัวใจซูหมิงกำลังหลั่งโลหิต เสียงคำรามแหบแห้งของเขายังคงดังกึกก้อง ทว่า…..พลังกลับไม่ขึ้นมาแม้แต่น้อย บาดแผลในร่างกายสาหัสเกินไป หากมิใช่เพราะเขาบรรลุขอบเขตสร้างชะตาก็คงตายไปแล้ว
แม้ร่างกายกำลังฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ความเร็วในการฟื้นฟูกลับไม่อาจเทียบกับการทำลายล้าง ภายในร่างกายเขามีแสงดาวอยู่จำนวนหนึ่งกำลังทำลายร่องรอยชีวิตทุกอย่าง
โลหิตไหลออกมาไม่หยุด อวี่เซวียนก็เช่นเดียวกัน นางมีสีหน้าเหม่อลอย นอกจากน้ำตาแล้วเหมือนมีเพียงความสิ้นหวัง
ซูหมิงมองร่างเงาเกือบร้อยคนที่เข้ามาขวางทาสเต๋ายี่สิบเอ็ดตรงหน้า ชั่ววินาทีเดียวก็ถูกแสงดาราปกคลุม ไม่มีเสียงกรีดร้อง ไม่มีเสียงระเบิด มีเพียงเลือดเนื้อกระจายหลังจากแสงดาราหายไป
ตายหมดแล้ว…
คนเหล่านี้ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับเขามากนัก
ซูหมิงเพียงช่วยพวกเขาตอนสังหารซือหม่าซิ่น และมอบยอดเขาลำดับเก้าเป็นบ้านให้อยู่อาศัย วันนี้พวกเขาใช้ชีวิตตอบแทนบุญคุณเขา ในความคิดเขา บุญคุณนี้ไม่ได้มากมาย แต่การทดแทนของพวกเขากลับยิ่งใหญ่นัก!
เสียงสะอื้นไห้ดังมาจากสามคนด้านหลังซูหมิง สามคนนี้โอบเขากับอวี่เซวียนทะยานมาจนห่างจากยอดเขาลำดับเก้าไม่ถึงพันจั้งแล้ว ทว่าระยะทางพันจั้งนี้ ต่อให้ถึงแล้วอย่างไร ภายใต้อภินิหารแบบเนิบช้าราวเล่นกับเหยื่อ และขั้นพลังที่ไม่อาจต่อต้านของทาสเต๋ายี่สิบเอ็ด เมื่อซูหมิงสูญเสียพลังไปแล้ว ทุกอย่าง…เหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก
แต่ภายในความเป็นไปไม่ได้ ก็จะเห็นถึงความสำคัญของอารมณ์คน แม้รู้ว่าไม่มีประโยชน์ แต่ก็ยังจะจ่ายชีวิตไปเพื่อมัน สิ่งนี้ทำให้ซูหมิงน้ำตาไหลเป็นโลหิต