ตอนที่ 799 นามแห่งสีโลหิต
โครม!
ภายในพื้นที่ที่มีดาบสายลมรุนแรงอย่างยิ่งแห่งหนึ่งในทะเลวายุ หลังจากร่างกายหนึ่งแยกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว ก็มีเศษจำนวนมากบินออกมาจากศพ รวมอยู่กลางอากาศอย่างรวดเร็วกลายเป็นร่างเงาซูหมิง
ซูหมิงซวนเซถอยไปหลายก้าว หันหน้าไปมองร่างแหลกละเอียดข้างหลังด้วยใบหน้าซีดขาวแวบหนึ่ง
‘เจ้าคือเจ้าปกครองโลกคนที่เจ็ดที่ข้าสังหารหลังออกจากดาวแดงเพลิง’ นัยน์ตาซูหมิงวาววับ พลังแห่งโลกในร่างกายงอกงามขึ้น มันขยายตัวอยู่ในร่างกายไม่หยุดหย่อน เดิมทีด้วยขั้นพลังเขาจึงยังไม่อาจคงพลังนี้เอาไว้และมันจะสลายออกไปเอง
ทว่าวิชาเงากลืนนภาที่ชื่อหั่วโหวถ่ายทอดให้ทรงพลังอย่างยิ่ง มันอุดร่างกายเอาไว้ แล้วนำพลังแห่งโลกที่สูบมาทั้งหมดกักเอาไว้ในร่างกายอย่างหนาแน่น ไม่ให้สลายไป จึงสะสมได้เรื่อยๆ
“วิชาเงากลืนนภาจะถึงจุดอิ่มตัวเก้าครั้ง ทุกครั้งจะเป็นเหมือนเคราะห์ภัยมาเยือนเจ้า หากข้ามผ่านก็จะทะลวงพลัง ข้าว่าพลังแห่งโลกในร่างกายเจ้าตอนนี้ต้องกินเจ้าปกครองโลกอีกสิบคน ก็น่าจะถึงจุดอิ่มตัวครั้งแรกแล้ว ถึงตอนนั้นร่างกายเจ้าจะบรรลุถึงจุดสำคัญของระดับฟ้า สัมผัสกับเพดานระดับฟ้า
หากทะลวงผ่าน ร่างกายเจ้าจะบรรลุถึงระดับโลก” เสียงชื่อหั่วโหวดังก้องในใจซูหมิง ซูหมิงขยับวูบไหวหายไปในทะเลวายุ มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป
“อยู่ที่ใด เจ้าอยู่ที่ใดกันแน่!”
“ออกมา อย่างเจ้าก็ดีแต่ซ่อนตัวซุ่มโจมตีในทะเลวายุ หรือว่าไม่กล้าออกมาสู้รึ!”
“ออกมา!” เสียงตะโกนต่ำดังกังวานอยู่กลางทะเลวายุ หลังมีคนตายเกือบร้อยคน กลุ่มผู้ฝึกฌานที่ไล่ตามเข้ามาในทะเลวายุมีไม่น้อยตระหนกจนคิดจะออกไป
เพียงแต่ว่าแทบทุกคนที่คิดจะออกไปกลับยากจะหนีรอดความตาย
ราวกับว่าผู้ถูกประกาศจับเป็นดั่งอสรพิษเหี้ยมโหดในทะเลวายุ สายตากำลังจ้องทุกคนอยู่ ขอเพียงหละหลวมการป้องกันเล็กน้อย เขาจะลงมือสังหารทันที
เสียงร้องดังระงม ทำให้ผู้ฝึกฌานส่วนใหญ่ในที่นี้เต็มไปด้วยความตื่นกลัว ตอนนี้….มีคนตายไปมากยิ่งนัก กระทั่งยังมีเจ้าปกครองโลกตาย ยิ่งทำให้ความคิดจะล่าสังหารซูหมิงของผู้ฝึกฌานกลางทะเลวายุเหล่านี้สั่นคลอน
‘ผ่านไปเกือบจะสองชั่วยามแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะไม่เจอเขาสักครั้ง เขาไม่เพียงมีของวิเศษล้ำค่าเคลื่อนย้ายพริบตา แต่ยังมีกลอุบายตรวจสอบคนอื่น’ ภายในทะเลวายุ ชายชราเสื้อคลุมม่วงคนหนึ่งกำลังเดินพลางขมวดคิ้ว ทุกครั้งที่ก้าวจะเป็นระยะทางเกือบร้อยจั้ง ด้วยความเร็วระดับนี้ ภายในเวลาสองชั่วยามย่อมไม่มีทางที่จะไม่เจอซูหมิง
นี่มีเพียงคำอธิบายเดียวนั่นคืออีกฝ่ายรู้ตำแหน่งของตนล่วงหน้า
“น่าสนใจ ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะซ่อนได้ถึงเมื่อไร” ชายชราคนนี้คือคนที่ชื่อหั่วโหวเตือนซูหมิง เป็นผู้ฝึกฌานระดับโลกตอนกลางเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มคนล่าสังหาร
ด้านความแกร่งของเขา หากมองจากจิงหนานจื่อในตอนนั้นจะเห็นร่องรอยอยู่บ้าง ถึงอย่างไรจิงหนานจื่อก็เป็นผู้ฝึกฌานระดับโลกตอนกลางเช่นกัน
ซูหมิงสังหารไม่หยุด หลายร้อยคนที่บุกเข้ามาในทะเลวายุเมื่อสองชั่วยามก่อนตายไปหนึ่งร้อยกว่าคน ช่วงที่คนที่เหลือเกิดความคิดหนี เสียงโครมครามพลันดังขึ้นบนฟ้า
จากนั้นมีสายรุ้งยาวปรากฏบนฟ้าทีละสาย ก่อนจะพุ่งตรงมายังทะเลวายุ นี่คือผู้ล่าสังหารซูหมิงระลอกสองจากในเขตดาราจักรวงแหวนบูรพา ในสายรุ้งยาวเกือบห้าร้อยกว่าคนมีเจ้าปกครองโลกตอนต้นสี่สิบกว่าคน
เสียงทะลวงมวลอากาศกระจายไปทั่วดาวสมบัติสวรรค์ การมาของคนห้าร้อยกว่าคนนี้ทำให้แผ่นดินทะเลวายุสั่นไหวอย่างรุนแรงคล้ายจะพังถล่มลง
“ฮ่าๆ ยังถือว่ามาทันเวลา ผู้ถูกประกาศจับยังไม่ถูกสังหาร รางวัลนี้เป็นของข้า!”
“ยืนหยัดมาถึงตอนนี้ได้ บุคคลนี้ย่อมไม่ใช่ระดับดินอย่างแน่นอน ทว่าครั้งนี้เขาไม่มีโอกาสรอดแน่ ต้องดูว่า…จะตายอยู่ในมือของใคร!” สายรุ้งยาวห้าร้อยสายห้อเหยียดเข้ามา ร้องคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าไปในทะเลวายุ
โครม!
เสียงระเบิดดังสนั่นกังวานไปรอบๆ อย่างรุนแรง สายลมในทะเลวายุพลันหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าต้องฝืนรับกับแรงกดดันของห้าร้อยกว่าคน
ตอนนี้ผู้คนที่หวาดกลัวในการเข่นฆ่าของซูหมิงในทะเลวายุก่อนหน้านี้ไม่หนีอีก แต่ดวงตาแวววาว แล้วเปลี่ยนทิศทางเข้าร่วมขบวนล่าสังหารอีกครั้ง
‘จิตสัมผัสของชื่อหั่วโหวปกคลุมได้อีกหนึ่งชั่วยาม ในเมื่อมาอีกกลุ่มแล้ว เช่นนั้น…ข้าก็จะสังหารให้อย่างเต็มที่’ นัยน์ตาซูหมิงเปล่งสีแดง หายวับไปในทะเลวายุอีกครั้ง
ครู่ต่อมา เกิดเสียงร้องดังกังวานในทะเลวายุอีกครั้ง เสียงร้องนั้นดังไม่หยุดหย่อน เพียงเจอกับซูหมิงทุกคนก็ยากจะหนีรอดจากความตาย เขาไม่สนใจเจ้าปกครองโลกแม้แต่น้อย เป้าหมายส่วนใหญ่คือผู้ฝึกฌานระดับฟ้า
หนึ่งร้อยสิบสามคน หนึ่งร้อยสิบสี่ หนึ่งร้อยสิบฟ้า!
ครืน ครืน ครืน
ทะเลวายุหมุนตลบ พื้นที่ส่วนหนึ่งยังเกิดเค้าลางจะพังทลาย ซูหมิงถอยมา มุมปากมีโลหิตไหล ห่างไปไม่ไกลมีสามคนกำลังไล่ตามมาอย่างเร็วรี่
กลิ่นอายพลังเจ้าปกครองโลกปะทุออกมาทั้งหมด สามคนนี้ล้วนเป็นเจ้าปกครองโลก
ทว่าตอนที่สามคนนี้เข้ามาใกล้และปิดล้อมรอบๆ พยายามจะโจมตีซูหมิงพร้อมกัน ซูหมิงกลับยิ้มเยาะ รอบตัวปล่อยระรอกคลื่น แล้วหายวับไปโดยพลัน
เจ้าปกครองโลกสามคนมีสีหน้ามืดทะมึน ก่อนแยกย้ายกันไปอย่างเร็วโดยไม่มีใครกล่าวอะไรเพื่อตามหาอีกครั้ง
ห่างจากที่นี่ราวพันจั้ง ร่างซูหมิงขยับวูบวาบออกมา นัยน์ตาเป็นประกายจิตสังหาร ก่อนห้อเหยียดไปอีกทางหนึ่ง
คนที่หนึ่งร้อยห้าสิบสอง หนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ด หนึ่งร้อยหกสิบสาม! ศีรษะคนลอยว่อน คนที่ถูกเขาสังหาร ไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนมีจุดเด่นเหมือนกัน
หนึ่ง ก่อนตายจะร้องเสียงดังลั่น
สอง ต่อให้ร่างระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ศีรษะจะยังอยู่ และกระจายกันอยู่ในทะเลวายุจำนวนมาก ทะเลวายุม้วนศพพวกเขาได้ แต่กลับม้วนศีรษะไม่ได้
เพราะในศีรษะพวกเขามีพลังของซูหมิงอยู่
ซูหมิงสังหารจนตาแดงก่ำ กระบี่สังหารส่งเสียงร้อง ทวนยาวก็มีโลหิตคนอื่นไหลอาบ อาภรณ์ยังเป็นสีแดงฉานด้านหนึ่งโดยสมบูรณ์
“ศึกครั้งนี้ ข้าจะให้พวกเจ้ารู้ถึงราคาในการล่าสังหารแซ่ซู!”
“ศึกครั้งนี้ ข้าต้องชนะ!”
ซูหมิงเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า เสียงดังก้องกังวานไปทั่วทะเลวายุ พร้อมกันนั้นยังส่งสารท้ารบต่อผู้ฝึกฌานทั้งหมดในที่นี้
ในทะเลวายุตอนนี้ผู้ฝึกฌานทั้งหมดหกเจ็ดร้อยคนล้วนได้ยินเสียงตะโกน ขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้จากเสียงตะโกน ความมุ่งมั่นนี้น่าสะเทือนขวัญอย่างยิ่ง ทำให้สายลมในทะเลวายุเหมือนจะคล้อยตาม ร่วมร้องคำรามด้วย
ท้องฟ้าอึมครึม ทว่าในความอึมครึมนี้ ภายใต้เสียงตะโกนของซูหมิง ศีรษะของหนึ่งร้อยหกสิบคนที่เขาสังหารไปก่อนหน้านี้ลอยขึ้นจากทะเลวายุแล้วพุ่งขึ้นฟ้าไป
ศีรษะคนต่างมีใบหน้าต่างกันและล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นกลิ่นอายมรณะเข้มข้นถึงขีดสุดก็ปะทุออกมาจากศีรษะคนหนึ่งร้อยหกสิบกว่าหัวนั้นอย่างรุนแรง
ศีรษะคนเหล่านี้ลอยอยู่กลางอากาศ ภายใต้การควบคุมด้วยพลังของซูหมิงในศีรษะ ศีรษะคนเหล่านี้ม้วนเข้าด้วยกันบนฟ้ากลางทะเลวายุ สร้างเป็นพายุหมุนศีรษะคนลูกหนึ่ง
พายุหมุนวนไปรอบๆ ไม่มีเสียงน่าสะเทือนขวัญ ไม่มีพลานุภาพให้ฟ้าเปลี่ยนสี ทว่าพายุหมุนจากศีรษะคนหนึ่งร้อยหกสิบสามหัวนี้ กลับมีความน่าสะพรึงของสีโลหิตที่เมื่อทุกคนเห็นแล้วล้วนพากันตื่นตกใจและลมหายใจหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง!
นี่คือความน่าสะพรึง เป็นความน่าสะพรึงกลัวอย่างเปิดเผย และเป็นการจู่โจมจิตใจของผู้ล่าสังหาร
เขากำลังบอกทุกคนว่า ในทะเลวายุแห่งนี้เขาซูหมิงสังหารคนมาแล้วหนึ่งร้อยหกสิบสามคน ทว่าคนเหล่านี้เพียงแค่เริ่มต้น และยังดำเนินต่อไปได้ ขอเพียง…พวกเขาดำเนินต่อ
“นะ….นี่…..มันศีรษะคนเกือบสองร้อยคน ไม่อยากเชื่อว่ามันจะสังหารคนไปมากขนาดนี้แล้ว!”
“นั่นมันท่านเฉินฟู เขาเป็นเจ้าปกครองโลก ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกสังหารด้วย!”
“ศีรษะคนหนึ่งร้อยหกสิบสามคน ในนั้นมีเจ้าปกครองโลกสามคน บุคคลนี้มีขั้นพลังระดับใดกันแน่”
เสียงดังระงมมาจากในทะเลวายุ คนหกร้อยกว่าคนต่างมองพายุหมุนศีรษะคนบนฟ้า สภาพจิตใจเกิดความหวาดกลัว ในเวลาเดียวกันยังเกิดความยำเกรงต่อซูหมิงผู้ทำทุกอย่างนี้
“ผู้สังหาร โม่ซู!” เสียงตะโกนต่ำดังก้องฟ้าดิน นั่นคือเสียงซูหมิง เสียงดังขยายไปรอบๆ หลอมรวมกับเสียงพายุหมุนศีรษะคน ครั้นดังออกไปจะให้ความรู้สึกเหนียวตัวเหมือนมีกลิ่นคาวเลือดปกคลุมทั่วร่าง
“โม่ซู มันมีนามว่าโม่ซู”
“ผู้ถูกประกาศจับโดยสี่มหาโลกแท้จริงมีนามว่าโม่ซู!”
“บุคคลนี้จะต้องเป็นเจ้าปกครองโลกอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นไม่มีทางทำแบบนี้ได้ เจ้าปกครองโลกโม่ซู หากหนีไปจากศึกครั้งนี้ได้ นามของเขาจะโด่งดังไปทั่วเขตวงแหวนบูรพา” หลายร้อยคนส่งเสียงดังอื้ออึงกึกก้องอยู่ในทะเลวายุ
ตรงมุมหนึ่ง ชายชราเสื้อคลุมม่วงที่มีขั้นพลังบรรลุถึงระดับโลกตอนกลาง เขาเงยหน้าขึ้นมองพายุหมุนศีรษะคนบนฟ้า ก่อนมีสีหน้าจริงจังเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาเพียงโกรธ ทว่าตอนนี้ตื่นตกใจ
ในทะเลวายุ เจ้าปกครองโลกในที่นี้ล้วนมีสีหน้าทะมึนทึบ พวกเขาไม่สนว่าจะมีผู้ฝึกฌานระดับฟ้าตายไปเท่าไร แต่พอเห็นศีรษะเจ้าปกครองโลกสามคนในพายุหมุนแล้วก็ต่างเงียบงัน
พวกเขาต้องยอมรับความจริงเรื่องหนึ่ง ผู้ถูกสี่มหาโลกแท้จริงประกาศจับคนนี้แกร่งมาก แกร่งมากๆ!
“ต่อให้แกร่งมากแล้วอย่างไร ถึงอย่างไรมันก็ตัวคนเดียว!”
“ไม่ผิด สู้ถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่มีทางถอยเด็ดขาด นานๆ ทีสี่มหาโลกแท้จริงจะประกาศจับสักครั้ง หากพลาดครั้งนี้ไป ก็ไม่รู้ว่าอีกกี่หมื่นปีถึงจะเกิดขึ้นอีกครั้ง”
“อีกอย่างถึงมันจะสังหารคนมาก แต่ก็สังหารเจ้าปกครองโลกไปเพียงสามคน เห็นได้ว่าต่อให้สังหารได้ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น”
“หามันให้เจอ ฆ่ามันแล้วเอาไปแลกรางวัล”
“ฆ่า!”
เจ้าปกครองโลกเกือบเจ็ดสิบคนกระจายกันอยู่ในทะเลวายุ ในนั้นมีมากกว่าครึ่งเลือกล่าต่อ พวกเขาใช้ความเร็วทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังเสียงของซูหมิง
ทว่าผู้ฝึกฌานระดับฟ้ากลับหวาดกลัวกับการสังหารอันบ้าคลั่งของซูหมิง โดยเฉพาะพายุหมุนศีรษะคนบนฟ้า ศีรษะอาบชโลมไปด้วยเลือดหนึ่งร้อยกว่าหัว ทำให้พวกเขาทุกคนพากันถอยไป
นี่ไม่ใช่สงครามที่พวกเขาจะเข้าร่วมได้ โม่ซูคนนั้นก็ไม่ใช่โชควาสนาสำหรับพวกเขาเช่นกัน
ก่อนมาพวกเขาล้วนตกใจระคนดีใจและไม่รู้เรื่องราว ตอนนี้พวกเขาหวาดกลัวและตระหนก ราคาตรงกลางนี้หนักหน่วงนัก มากพอจะทำให้พวกเขาจำนามแห่งสีโลหิตไปชั่วชีวิต
โม่ซู