ตอนที่ 837 ร่างแยกเอ้อชาง 9
นี่คือเอ้อชางตอนแรกกำเนิด!
ซูหมิงมองเอ้อชางที่อาศัยการตายของซุ่ยเฉินจื่อ อาศัยร่างแหลกสลายรวมถึงสูบสารอาหารที่เพียงพอในโลกของซุ่ยเฉินจื่อจนถือกำเนิดออกมา มองมันมีสิบสี แสงสว่างไม่มีขอบเขต ความน่าเกรงกับรูปลักษณ์แก่กล้าไม่อาจบรรยาย พริบตานี้จิตใจเขาเหมือนจะหยุดความคิด
เดิมทีเขาคิดว่าเอ้อชางจะต้องมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่อยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าที่มาของอีกฝ่ายจะลึกลับกว่าที่คิดไว้ไม่รู้กี่เท่า
“ข้ากำลังยึดร่าง…สิ่งมีชีวิตที่แกร่งขนาดนี้เชียวหรือ…” ซูหมิงพึมพำเสียงเบา หากรู้ว่าเอ้อชางแกร่งจนสุดจะจินตนาการแบบนี้แต่แรก เขาก็ไม่รู้ว่าตนจะมีความแน่วแน่เลือกยึดร่างหรือไม่
โชคดี…ที่เขายึดร่างเอ้อชางที่ไม่สมบูรณ์ เป็นเพียงหนึ่งในสิบของมันเท่านั้น อีกอย่างดูจากลักษณะแล้วยังบาดเจ็บสาหัสด้วย มิเช่นนั้นแล้วเขาก็รู้ว่าต่อให้อีกฝ่ายเป็นเพียงหนึ่งในสิบของสภาพสมบูรณ์ ตนก็ไม่มีทางยึดร่างสำเร็จ
‘ทว่ามันแกร่งจนไม่อาจจินตนาการเช่นนี้ แล้วใครกันที่ทำให้มันบาดเจ็บสาหัส ทำให้เอ้อชางสภาพสมบูรณ์แตกแยก….’ ขณะตกอยู่ในความตะลึง ในใจก็เกิดคำถามนี้ขึ้นมาทันที
ทันทีที่เกิดคำถามนี้ ซูหมิง…ก็เห็นคำตอบ
เขาเห็นว่าเอ้อชางที่ส่งเสียงแรกเกิดมาผ่านอากาศร่างกายขยายใหญ่ขึ้นไม่รู้กี่เท่า มองไปแวบแรกไม่เห็นสุดปลาย ราวกับว่าทั้งอากาศจะถูกมันยึดครองไปครึ่งหนึ่ง
แต่ทันใดนั้นเอง มีเสียงแก่ชราที่ซูหมิงคุ้นหูแว่วมาจากในร่างต้นไม้ใหญ่เอ้อชาง
“หนึ่งความคิดสวรรค์ หนึ่งความคิดกฎแห่งสวรรค์ หนึ่งความคิดทุกสิ่งมีชีวิต หนึ่งความคิดทุกสรรพสิ่ง…”
เสียงนี้เป็นของซุ่ยเฉินจื่อที่ร่างกายสลายไปเหลือเพียงหัวใจ เสียงเขาผ่านออกมาจากต้นไม้เอ้อชาง ดังกังวานอยู่รอบๆ มาพร้อมด้วยความสบายๆ และยึดมั่น ดังอยู่นานไม่เลือนหาย
ขณะเดียวกัน ร่างใหญ่เอ้อชางสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงสิบสีขยับวูบวาบอย่างเด่นชัด ร่างกายมันไม่อาจเติบโตต่อได้อีก ก่อนมีเสียงร้องคล้ายเด็กทารกแว่วมาจากต้นไม้ใหญ่เอ้อชาง
บางทีอีกไม่นาน หลังจากมันกินต้นกำเนิดจิตของซุ่ยเฉินจื่อแล้วจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ทว่า…ตอนนี้มันเพิ่งกำเนิด ถึงจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็ยังไม่โตเต็มวัยราวกับเด็กทารก เสียงร้องเล็กแหลมดังไปโดยรอบ เข้าถึงหูซูหมิง ทำให้เขาหายใจกระชั้น
“ก่อนหน้านี้ข้าสังหารเจ้าไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อยให้เจ้ากำเนิดในวิญญาณข้า ปล่อยให้เจ้าทำลายข้า…ข้ารู้ว่าเจ้าจะกำเนิดในช่วงที่ข้าตาย ถึงข้าจะสังหารเจ้าไม่ได้ หากแต่…ช่วงที่เจ้าเพิ่งเกิด เจ้าก็คือข้า ข้าก็คือเจ้า ข้าจะไม่เดินไปตามทางเก่าของสหายทั้งแปดท่าน แต่ข้าจะใช้การเตรียมตัวหนึ่งแสนปีนี้ทำให้เจ้าบาดเจ็บสาหัส! หนึ่งความคิด…หนึ่งล้านชีวิต!”
ตอนที่ซุ่ยเฉินจื่อกล่าวประโยคสุดท้าย เสียงพลันดังขึ้นมา ครั้นเสียงดังกังวานไปรอบๆ เอ้อชางก็ร้องด้วยความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชั่วขณะนี้ร่างกายมันปริแตกนับไม่ถ้วน เริ่มพังทลายจากภายใน กลายเป็น…หนึ่งล้านส่วน! หลังจากนั้น หัวใจสีทองที่มีต้นกำเนิดจิตทั้งชีวิตของซุ่ยเฉินจื่อก็กลายเป็นหัวใจหนึ่งล้านดวง
ในเวลาเดียวกัน เอ้อชางที่แยกออกเป็นล้านส่วน ทุกสีมีเศษแผ่นหนึ่งแสนชิ้น ตอนนี้ขณะแยกออกก็ถูกหัวใจสีทองล้านดวงกำราบผนึกอยู่ภายใน เสียงระเบิดสั่นสะเทือนทั่วอากาศดังกึกก้อง แดนประหลาดก็ยังเป็นแดนประหลาด ทว่าเศษแผ่นล้านชิ้นกลับม้วนเข้าไปในแดนประหลาดพร้อมกัน และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ข้าพ่ายแพ้แล้ว ฉะนั้นจึงต้องตาย…แต่ข้าก็ทำสำเร็จเช่นกัน ได้ฝากโอกาสในการทำลายภัยพิบัติแห่งต้นกำเนิดจิตไว้ให้คนรุ่นหลังแล้ว หากคนรุ่นหลังได้รับต้นกำเนิดจิตของข้า จงจำเอาไว้…” ตอนที่เสียงซุ่ยเฉินจื่อค่อยๆ เลือนหายไป ซูหมิงก็ตื่นตกใจกับภาพต่างๆ
ทว่าความจริงที่เขาเห็นกลับไม่ได้หายตามไป แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ขึ้นมา
เขาเห็นกาลเวลาผ่านไป หลังจากไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ปีก็มีเสียงคำรามต่ำเบาๆ แว่วมาจากในแดนประหลาด ภายในเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความไม่ยินยอมและบ้าคลั่ง และยังมีความแค้นเหลือล้น
“ไอ้คนเขลาซุ่ยเฉินจื่อ เจ้ายังสังหารข้าไม่ได้หรอก และก็ไม่มีวันกำราบข้าได้ด้วย ข้าถือกำเนิดแล้ว โชคชะตาข้าได้กำหนดไว้แล้วว่าข้าจะเดินออกมาจากผนึกของเจ้า!
ถึงเจ้าจะแบ่งร่างกายข้าออกเป็นสิบส่วน กำเนิดจิตสำนึกสิบชนิด ทว่าสุดท้ายวันหนึ่ง…จิตสำนึกสิบชนิดจะหลอมรวมกันอีกครั้ง ถึงตอนนั้น…ข้าเอ้อชางจะปรากฏตัวในโลกใบนี้!
เจ้าทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัสก็จริง แต่ต้นกำเนิดจิตยังอยู่ ในเมื่อก่อนตายเจ้าวางกฎในการได้รับต้นกำเนิดจิตของเจ้าเอาไว้ให้คนรุ่นหลังแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะใช้มันมาทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งต้นกำเนิดการรักษาข้า!
ยิ่งมีคนมาที่นี่เพื่อรับต้นกำเนิดจิตเจ้ามากเท่าไร มันก็ยิ่งช่วยรักษาข้า การตระหนักรู้ทุกอย่าง ขั้นพลังทั้งหมดและทุกชีวิตของพวกเขาเป็นของข้า!”
ช่วงที่เสียงยังดังกังวาน ทุกอย่างตรงหน้าซูหมิงหายไป เขาตื่นมาจากภาพในวิญญาณ วิญญาณเขาปกคลุมเส้นใยสีทองทั้งหมดแล้ว ตอนนี้หลอมรวมเข้าสู่หัวใจสีทองในฟ้ากระจ่างดาวทั้งแสนแห่ง
การยึดร่างของเขา จากเก้าสิบห้าส่วนร้อยในตอนแรก ยามนี้สูงขึ้นถึงเก้าสิบเจ็ดส่วนร้อยแล้ว
‘ที่แท้…นี่ต่างหากคือความจริง’ ซูหมิงนึกถึงที่โจวคังเคยพูดถึงการคาดเดาของภรรยาเขาว่าที่นี่เป็นกลอุบาย ตอนนี้กลอุบายไม่ใช่ซุ่ยเฉินจื่อเป็นคนวางแล้ว แต่ถูกเอ้อชางใช้ประโยชน์ให้เป็นลักษณะตอนนี้
‘ความจริงคืออะไรไม่สำคัญ ที่นี่จะใช่กลอุบายหรือไม่ไม่สำคัญ สำคัญคือ…ตอนนี้ข้ายึดร่างมาแล้วเก้าสิบเจ็ดส่วน ร่างแยกเอ้อชางของข้าใกล้จะสำเร็จแล้ว’
วิญญาณซูหมิงกระจายออกไปอย่างดุเดือด หลอมรวมเข้าสู่หัวใจสีทองไม่หยุด มีร่างเงามายาแสนคนจากกฎของซุ่ยเฉินจื่อขวางดวงจิตของเอ้อชางอยู่ ทำให้ทุกอย่างราบรื่นอย่างยิ่ง
จนถึงตอนนี้ ทันทีที่ซูหมิงยึดร่างจากเก้าสิบเจ็ดส่วนมาเป็นเก้าสิบแปดส่วน เอ้อชางก็คลุ้มคลั่งอย่างสุดขีดแล้ว ดวงจิตมันคำรามเสียงราวกับคนบ้า แฝงไว้ด้วยความสิ้นหวังและบ้าคลั่ง
“เป็นเจ้าที่บีบข้าเอง ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าบีบข้า ข้าจะไม่ให้เจ้ายึดร่างสำเร็จเป็นอันขาด แม้ข้าจะต้องเสียโอกาสในการกินพวกมันอีกเก้าตัว แม้ข้าต้องเสียดวงจิตไปอย่างสมบูรณ์และเหลือเพียงส่วนวิญญาณที่จะถูกพวกมันอีกเก้าตัวกินไปแบบตามใจชอบก็ตาม ทว่าข้า…จะไม่มีทางให้เจ้ายึดร่างร่างเอ้อชางที่สูงศักดิ์ได้!” เอ้อชางหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง ในเสียงหัวเราะมีความเด็ดเดี่ยวและพร้อมที่จะตายไปด้วยกัน
“ยอดวิชาเอ้อชาง!” ยามที่เอ้อชางเอ่ยประโยคนี้ ในโลกแผ่นศิลาแสนอัน พลันมีเสียงร้องโหยหวนแว่วมาจากในคนเกือบแสนคน
เมื่อเสียงร้องดังก้อง คนรอบๆ ต่างมองไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งทั่วร่างกำลังเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว มีจุดแสงสีม่วงลอยออกมาจากในร่างกาย แล้วถูกแผ่นศิลาของเขาสูบกินไป เพียงพริบตาเดียวผู้ฝึกฌานวัยกลางคนคนนั้นก็หายไปไม่เหลือ
ต่อมามีเสียงร้องดังขึ้นอีกครั้งและเกิดเป็นระลอกขึ้นลง มีคนเกือบหมื่นร้องโหยหวน ร่างกายพวกเขาสลายไปอย่างเร็วรี่ ถูกแผ่นศิลาของตนเองสูบกินไปจนหมด
มิหนำซ้ำในตอนนี้ หลังจากสูบกินเลือดเนื้อและชีวิตของคนเกือบหมื่นแล้ว แผ่นศิลาเกือบหมื่นยังเกิดรอยร้าวจำนวนมาก ท่ามกลางเสียงดังกึกๆ แผ่นศิลาเกือบหมื่นล้วนแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนที่พวกมันพังลง ก็มีไอสีม่วงลอยออกมาจากข้างใน มันเหมือนทะลวงผ่านมิติหายไปจากแดนแผ่นศิลาแสนอันพร้อมกัน ทำให้ที่นี่มีแผ่นศิลาเพียงเก้าหมื่นไปชั่วนิรันดร์!
ขณะเดียวกันดวงจิตเอ้อชางพลันขยายใหญ่ขึ้นไม่รู้กี่เท่า มีไอสีม่วงปรากฏจากมวลอากาศรอบๆ ไอสีม่วงเหล่านี้มีเกือบหมื่นสาย ซึ่งนี่ตรงกับจำนวนของผู้ฝึกฌานที่ตายไป
ไอสีม่วงเหล่านี้รวมกันอย่างรวดเร็ว กลายเป็นต้นไม้ใหญ่สีม่วงยักษ์ ต้นไม้นี้ก็คือวิญญาณของเอ้อชาง
“เอ้อ…ชาง…” ทันทีที่วิญญาณปรากฏ ต้นไม้สีม่วงก็เปล่งเสียงคำราม ตอนที่กล่าวคำว่าเอ้อ ร่างมายาแสนคนจากกฎต่างสั่นสะท้านพร้อมกัน แล้วหยุดนิ่งโดยพลัน
เมื่อสิ้นเสียงคำว่าชาง หลังไม่มีร่างเงาแสนคนต่อต้านอีก วิญญาณซูหมิงที่กำลังยึดร่างหัวใจสีทองอยู่ในเส้นใยแสนแห่งก็ต้องรับแรงปะทะอย่างรุนแรงทันที
“ข้าสละชีพเพื่อแลกกับให้กฎหยุดนิ่ง ราคาของมันคือจากนี้ไปข้าจะไม่มีโอกาสฟื้นฟูอีก ทำได้เพียงมองพวกมันอีกเก้าตัวฟื้นฟูไปเรื่อยๆ รอในพวกมันมีใครตื่นขึ้นแล้วกินข้า…
ข้าเสียสละไปมากขนาดนี้ หากยังสังหารเจ้าไม่ได้อีก ข้าไม่ยอม!” ชั่วเวลาที่ดวงจิตเอ้อชางพุ่งเข้ามาชนวิญญาณซูหมิงอย่างบ้าคลั่ง เขาก็เริ่มช่วงสุดท้ายของแผนการยึดร่างที่เตรียมมาหลายร้อยปีอย่างไม่ลังเลทันที
“เศษหินสีดำ!” วิญญาณซูหมิงคำรามเสียงต่ำ
เศษหินสีดำเป็นสมบัติล้ำค่าไม่รู้นาม มันตามซูหมิงมาจากแดนมรณะหยินและหลอมรวมเข้าสู่วิญญาณเขาแล้ว ตอนนี้เอง เมื่อเขาเรียก มันก็รวมตัวออกมาจากวิญญาณทันที
สิ่งนี้มหัศจรรย์ ถึงก่อนหน้านี้วิญญาณเขาจะเผาไหม้จนหมดสิ้น แต่มันก็ยังอยู่ ตอนนี้ช่วงที่รวมออกมามันก็กลายเป็นลักษณะเดิม กลายเป็นเศษหินสีดำที่ดูไม่เตะตา!
“หลอกมัน!” ช่วงที่เศษหินสีดำปรากฏก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ดวงจิตเอ้อชางตรงเข้ามา ทันทีที่เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ในฟ้ากระจ่างดาวแสนแห่ง หัวใจสีทองที่เดิมทีมีเพียงแสนดวงในเส้นใยสีทองแสนแห่งจากในต้นไม้ใหญ่แสนต้น ตอนนี้กลับเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า หัวใจสีทองแสนดวงในทุกเส้นใยสีทองล้วนเพิ่มมาอีกพันดวง เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว ก็เท่ากับว่าในเส้นใยสีทองจากฟ้าแสนแห่งปรากฏหัวใจที่มีกลิ่นอายมรณะราวๆ ร้อยล้านดวง
ในหัวใจร้อนล้านดวงมีเพียงแสนดวงที่เป็นของจริง ที่เหลือล้วนเป็นของปลอม ทว่าในด้านความรู้สึก หัวใจเหล่านี้เหมือนกันทุกประการ ไม่มีความต่างใดๆ เลย นี่ก็คือพลังมหัศจรรย์ที่เศษหินสีดำเชี่ยวชาญที่สุด สามารถหลอกได้ทุกสรรพสิ่ง
ซูหมิงไม่รู้ว่าสมบัติชิ้นนี้จะหลอกเอ้อชางได้นานเท่าไร ฉะนั้นจึงไม่กล้าใช้ก่อนหน้านี้ แต่รอให้ถึงช่วงใกล้สำเร็จก่อน ตอนนี้เวลาหนึ่งลมหายใจมีค่ามากกว่าก่อนหน้านี้ เขาจึงใช้มันเป็นกลอุบายสุดท้าย
“นะ…นี่มัน…เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิต! ไม่อยากเชื่อว่ามัน….มันก็พ่ายแพ้เหมือนกันอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้ มันจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร…เหตุใดถึงเหลือเพียงเศษ” เสียงเอ้อชางดูเหลือเชื่อ และยังมีความสิ้นหวังอยู่ลึกๆ มันต้องการเวลาสิบลมหายใจถึงจะหาซูหมิงเจอจากในหัวใจล้านดวง
หากเป็นสิบลมหายใจก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร ทว่าตอนนี้อยู่ในช่วงสำคัญที่สุด สิบลมหายใจหมายถึงการแพ้ชนะ
“ข้าแพ้แล้ว ดวงจิตที่แยกกันกับข้าทั้งเก้าท่าน ข้าถูกยึดร่างแล้ว ทำลายมันเพื่อแก้แค้นให้ข้า!”
ช่วงที่เอ้อชางกล่าวเสียงดังกึกก้องด้วยความสิ้นหวัง ซูหมิงก็ยึดครองในหัวใจสีทองแสนดวงได้อย่างแท้จริง จากเก้าสิบแปดส่วนก่อนหน้านี้กลายเป็นเก้าสิบเก้าส่วน จนถึง….ร้อยส่วนร้อย!
เส้นใยสีทอง หัวใจสีทอง ตอนนี้กลายเป็นสีดำทั้งหมด!