บทที่ 268 ตีข้าเลย พูดจริง! (ปลาย)
เยี่ยฉวน! เมื่อได้ยินดังนั้นคนฉางมู่ต่างตกตะลึงด้วยไม่คาดฝัน! ถึงตอนนี้ยังมีใครที่ไม่รู้จักชื่อเยี่ยฉวน? เยี่ยฉวน ชายหนุ่มผู้เป็นปรมาจารย์วิทยายุทธ์ อีกทั้งเป็นปรมาจารย์กระบี่! ที่สำคัญเขามีอาจารย์ผู้อยู่เบื้องหลังเป็นเซียนกระบี่!
ครู่ต่อมาผู้กล้าแกร่งภายในสถานศึกษาทยอยออกมาสกัดเยี่ยฉวนและกลุ่มคน คนอาวุโสที่สุดท่าทางเป็นผู้นำทำท่าอ้าปากเอื้อนเอ่ย พลันเยี่ยฉวนกระโจนพรวดออกไปโดยไม่ลังเล ในมือกระชับกระบี่แน่นฉับพลันนั้น เขาผลักออกกระบี่และฟันลงที่ชายท่าทางผู้นำทันที
หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา! พลังปะทะหนึ่งกระบี่ ได้ผนึกทั้งพลังปณิธานกระบี่และจิตวิญญาณต่อสู้จนเต็มเปี่ยม! ทันทีที่คนเบื้องหน้าสัมผัสได้ถึงพลังกระบี่ของเยี่ยฉวน เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับดึงนิ้วชี้จิ้มลงบนใจกลางฝ่ามือที่คว่ำลง ฉับพลันก็ยกฝ่ามือขึ้นรวดเร็ว
ตู้ม! พลันผืนดินที่เบื้องหน้าถูกยกลอยขึ้นสู่อากาศ ถึงกระนั้นพลังต้านทานของชายชราไม่อาจสกัดกั้นพลังกระบี่ของเยี่ยฉวนทั้งหมด กระบี่จึงตวัดวาบจากบนลงล่าง
ตู้ม! เมื่อปะทะเข้ากับพลังกระบี่ พลันร่างคนของชายชราก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นลอยไปในอากาศ ทว่าขณะที่เขากระเด็นออกไปนั้น ได้ปรากฏคนผู้หนึ่งขึ้นทางเบื้องหน้า คนผู้นั้นยกฝ่าเท้าขึ้นและวาดขาเตะเข้าที่ศีรษะของชายชรา
ผัวะ! แรงเตะฟาดศีรษะของชายชราเคราะห์ร้ายขาดกระเด็น! คนที่ปรากฏเบื้องหน้าคือลู่ป้านจวง! ศิษย์ฉางมู่ที่มาออกันเป็นพยานรู้เห็นการตายอย่างฉับพลันของคนชรา ทุกคนตะลึงงันนิ่งขึงอยู่กับที่!
ชายชราคนนั้นเป็นที่รู้ว่าคือรองอาจารย์ใหญ่ เป็นยอดยุทธ์ขั้นพลังสุดยอดผสานเทพ! เขาต้องมาจบชีวิตลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร? หากเพียงแค่นั้นมิได้หยุดยั้งเยี่ยฉวนและคนอื่นๆ พวกเขายังคงมุ่งตรงขึ้นภูเขาอันเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาฉางมู่ด้วยความเร็วเต็มพิกัด เมื่อยามที่พบศิษย์ฉางมู่ออกมาขวางกั้นทาง มีเสียงตวาดดังสนั่นลงมาจากบนยอดเขา “พวกเจ้าทุกคน ถอยไป!”
เจ้าของเสียงดังปานฟ้าผ่านั้นคืออาจารย์ใหญ่ของฉางมู่! ขาดคำของคนผู้นั้น พลังประหลาดชนิดหนึ่งพร้อมแรงกดดันมหาศาลแผ่กระจายครอบงำเยี่ยฉวนรวมทั้งคนอื่นไว้จนหมดสิ้น ในเวลาเดียวกันชายชราสวมผ้าคลุมสีดำ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ยามนั้นเยี่ยฉวนและทุกคนหยุดนิ่งอยู่กับที่
ยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์! คนสวมชุดดำที่เข้ามาใหม่ เขาคืออาจารย์ใหญ่ของสถานศึกษาฉางมู่นั่นเอง! สายตาของคนชุดดำเขม้นมองจ้องเยี่ยฉวนแน่วนิ่ง “เยี่ยฉวน เจ้าคิดว่าสถานศึกษาฉางมู่สิ้นไร้ยอดฝีมือแล้วหรือไง? เจ้ามัน……”
ชายหนุ่มยกกระบี่ยาวในมือขึ้นชี้แน่วตรงหน้าของชายชราสวมผ้าคลุมสีดำ “แน่จริงก็เข้ามาตีข้า! ข้ามาเลย!” ลู่ป้านจวงและพวกพากันหันมามองคนพูด “……”
ชายชราชุดดำมือทั้งสองข้างกำหมัดเกร็งแน่น สีหน้าหมองคล้ำ! ถามว่ากล้าเข้าไปทำร้ายเยี่ยฉวนหรือ? ไม่เลย เป็นความจริงที่ว่าเขาไม่กล้า!
ยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์ของสถานศึกษาฉางมู่ในแผ่นดินชิงหลายคนที่ต้องสิ้นชีพไปเพราะอะไร? และยังมีเหตุแห่งการล่มสลายของสถานศึกษาฉางมู่ในแคว้นเจียงอีกเล่า เพราะอะไร? สาเหตุเพราะยอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์พวกนั้นรุมกันข่มเหงรังแกชายหนุ่มที่ชื่อเยี่ยฉวนคนนี้! ตอนนี้ยังมีใครไม่รู้บ้างว่าเยี่ยฉวนมีอาจารย์เป็นเซียนกระบี่คอยช่วยเหลือ?
ขณะนั้นเยี่ยฉวนหันไปร้องบอกลู่ป้านจวงต่อหน้าต่อตา “พวกเจ้าไปที่คลังสมบัติของฉางมู่ หยิบเอาของที่พวกเจ้าอยากได้มาทุกชิ้น ใครกล้าขัดขวางสังหารได้เลย!” ลู่ป้านจวงพยักหน้า “ได้!” จากนั้นหญิงสาว พร้อมเหยี่ยลี่และคนอื่นรีบรุดไปยังคลังสมบัติของฉางมู่ทันที!
“กล้าดียังไง?” ชายสวมชุดดำคำรามเกรี้ยวกราด สายตาจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “เยี่ยฉวน ทำอย่างนี้มันเกินไป เจ้ามัน……” เยี่ยฉวนทะยานออกห่างคนพูดไปหลายจั้ง พลางหันมาตะโกนว่า “มาเซ่ ตามมาตีข้าให้ได้ เร็วเข้า!” ทว่าคนชุดดำได้แต่กำมือแน่นยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้าแสดงความเคียดแค้นชิงชังแต่ก็ทำอะไรไม่ได้!
ทางด้านลู่ป้านจวงนำพวกมุ่งหน้าไปอย่างไม่มียั้งหยุด ตลอดเวลาหากมีคนเข้ามาขวางทาง หญิงสาวจะจัดการซัดมันจนกระเด็นกระดอนไปให้พ้นทาง! กระนั้นศิษย์ฉางมู่ก็ยังพยายามเข้าสกัดกั้นตลอดทาง จนในที่สุดมีเสียงตวาดดังสนั่นมาจากชายสวมผ้าคลุมสีดำ “หยุดเดี๋ยวนี้!”
กลุ่มศิษย์ฉางมู่ชะงักกึกอยู่กับที่ พลางหันมามองที่คนชราด้วยสายตาแสดงความข้องใจ ขณะที่อาจารย์ใหญ่จ้องหน้าเยี่ยฉวนนิ่ง แต่นั่นมิได้ทำให้เยี่ยฉวนรู้สึกสะทกสะท้าน เขายกนิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าอกของตนเองและตะโกนเสียงวิงวอน “มาสิเข้ามาตีข้า พูดจริงๆ!”
ทุกคน “……”
แม้แต่ลู่ป้านจวงยังส่ายหน้า “คนอะไรกวนชะมัดยาด!” ในที่สุดนางก็สะบัดหน้าหันกลับ และนำพวกมุ่งหน้าออกไป
สีหน้าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเยี่ยฉวน ชายชราสวมชุดดำยามนี้ยากที่จะบรรยายด้วยบิดเบี้ยวบูดบึ้งยิ่งนัก! ถามว่าอยากทำร้ายเยี่ยฉวนไหม?” ถ้าเขาจู่โจมเมื่อไร จะสามารถสังหารเจ้าคนถ่อยเยี่ยฉวนได้อย่างแน่นอน! แต่ในความเป็นจริง เขาทำเช่นนั้นไม่ได้!
เพราเหตุว่าเมื่อใดที่เขาออกปะทะ เมื่อนั้นเซียนกระบี่จะปรากฏกายออกมาช่วยศิษย์ของนาง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นมิใช่เพียงเขาคนเดียวที่ต้องตาย แต่คนอื่นๆ ในสถานศึกษาฉางมู่จะถูกฆ่าตายไปพร้อมกัน!
เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ พวกลู่ป้านจวงแทบจะเดินอาดๆ อย่างสบายใจเข้าสู่คลังสมบัติของฉางมู่เลยทีเดียว และตลอดทางที่ผ่านมา หาได้มีผู้ใดกล้ามาขวางทางพวกเขาอีกเลยแม้สักคน!
จึงเช่นนั้นนางและพวกสามารถเข้าสู่คลังสมบัติของฉางมู่ได้อย่างราบรื่น และทันทีที่สายตาของทุกคนเห็นคลังสมบัติที่ถูกเปิดออก พวกเขาต่างนิ่งงันด้วยความตกตะลึงอยู่พักใหญ่!
แม้แต่ลู่ป้านจวงเอง ครั้งนี้หญิงสาวอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นมิได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการสงบสติอารมณ์นางจึงงัดขนมออกมาเคี้ยวกร้วมๆ……ด้วยของล้ำค่าที่เผยโฉมออกมานั้นมีมากมายมหาศาล! จึงขอให้เข้าใจว่าของล้ำค่ามากมายเหล่านี้ เป็นของสะสมของสถานศึกษาฉางมู่แห่งนี้มานานนับหลายร้อยหลายพันปี!
หลังจากนิ่งอั้นเพราะพูดไม่ออกพักใหญ่ ลู่ป้านจวงพลันได้สติคืนมาร้องบอกพรรคพวก “รีบเก็บของเข้า! เก็บเอาไปให้หมด!” สิ้นเสียงสั่งการ ทุกคนจึงตั้งหน้าตั้งตาเก็บของมีค่าทุกอย่างเท่าที่มองเห็น! และด้วยทุกคนล้วนมีที่มาไม่ธรรมดา ดังนั้นแต่ละคนจึงมีที่จัดเก็บในวงแหวนสัมภาระอย่างเหลือเฟือ จึงไม่ยากที่พวกเขาจะสามารถเก็บกวาดเอาของที่มีในคลังสมบัติไปจนเกลี้ยง!
หลังจากการเก็บกวาดของล้ำค่าในคลังสมบัติเสร็จสิ้นลง พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปที่หอคัมภีร์พลังปราณ ต่อด้วยหอใต้หลังคาคัมภีร์ทักษะยุทธ์ และอีกหลายที่……
เวลานี้ไม่เหลือของล้ำค่าในสถานที่นี้อีกแม้สักชิ้นเดียว! พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ต้องบอกว่ากองโจรดีๆ นี่เอง! แต่ถึงขนาดนี้ก็หาได้มีใครสักคนในสถานศึกษาฉางมู่กล้าออกมาสกัดกั้น!
ตราบใดที่ยังไม่มียอดยุทธ์ขั้นผนึกยุทธ์กล้าออกมาปะทะ ลู่ป้านจวงและคนอื่นๆ จึงเป็นคนที่ไม่มีใครในสถานศึกษาฉางมู่อาจหาญจะเอาชนะ! ด้วยที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เยี่ยฉวนและพวกมีเซียนกระบี่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง!
ชายชราสวมชุดดำมีหรือจะกล้าข่มเหงรังแก? แม้แต่สถานศึกษาฉางมู่ในแผ่นดินชิงและดินแดนอันธกาล ยังไม่กล้ากระทำข่มเหงต่อเยี่ยฉวน! การที่ชายชราชุดดำเลือกทำเช่นนี้จึงเชื่อได้ว่าเป็นวิธีที่ฉลาด!
เวลานี้เขาไม่อาจออกปะทะ ถ้าสถานศึกษาฉางมู่เปิดฉากจู่โจมเยี่ยฉวนเมื่อใด ทั้งสองฟากฝั่งจะต้องพบแต่กับความสูญเสีย ถึงแม้ฉางมู่จะมีชัยชนะแต่เป็นชัยชนะที่ถูกบดขยี้และมอดไหม้ไปพร้อมกัน!
ที่แห่งนี้สถานศึกษาฉางมู่แคว้นถังมีประวัติยาวนานเป็นสถานที่เก่าแก่ เขาไม่ต้องการให้ถูกทำลายลงในยุคสมัยของตนเอง! แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องเผชิญกับความอัปยศอดสูจากการไม่เลือกหนทางต่อสู้!
แต่ถ้าจะต้องเลือกระหว่างความอัปยศและการล่มสลาย เขาขอเลือกความอัปยศ! อย่างน้อยความอัปยศที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็จะมีคนของสถานศึกษาฉางมู่แห่งอื่นมาช่วย!
ไม่นานต่อมาลู่ป้านจวงและคนอื่นเมื่อต่างทำภาระกิจลุล่วง จึงกลับออกมา ณ บริเวณลานกว้างมีบรรดาศิษย์ฉางมู่ออกมายืนออรวมกลุ่ม แต่ละคนใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก! น่าละอายอะไรเช่นนี้! วันนี้เป็นวันที่สถานศึกษาฉางมู่ได้รับความอัปยศอดสูมากที่สุด!!!
หญิงสาวเดินนำพวกตรงมาที่เยี่ยฉวน ชายหนุ่มหันมาพยักหน้า “กลับกันเถอะ!” เยี่ยฉวนเลือกที่จะไม่ใช้ความรุนแรง เพราะถ้าเขาลงมือ คนเหล่านี้คงจะสู้ชนิดยอมตายถวายชีวิต!
เมื่อทุกคนหันหลังทำท่ากลับออกไป พลันเหยี่ยลี่ซึ่งอยู่ใกล้กับเยี่ยฉวนเกิดนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเดินไปทางชายชราสวมผ้าคลุมดำ จากนั้นก็ชี้นิ้วจิ้มที่หน้าอกของตนเอง “ตีข้าซี!”
เปรี้ยง! ชายชราซัดเหยี่ยลี่ตรงเผงจนคนกระเด็นไปไกลกว่าร้อยจั้ง ก่อนร่างหล่นกระแทกพื้นดินดังตุ้บเบ้อเริ่ม
เหยี่ยลี่ลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นดินค่อยยันกายผงกหัวขึ้นมามองพรรคพวก บัดนี้โลหิตทะลักออกมาเต็มปาก สายตาที่มองเยี่ยฉวนบ่งชี้ว่าเจ้าตัวสงสัยข้องใจ “ข้าพูดผิดตรงไหน?”
— จบตอน —
