บทที่ 964 : ทุกคนล้วนมีความเห็นแก่ตัว! (ต้น)
เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินหมิง ใบหน้าของชายชราผมขาวบ่งบอกว่าผิดหวังอย่างแรง “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
ฝ่ายฉินหมิงออกจะลนลานมีพิรุธ “มะ… เมื่อกี้ยังอยู่แถวนี้!”
จากนั้นเขาชี้มือให้ดูตรงพื้นที่ว่างเปล่าเบื้องหน้า “มันเคยอยู่ที่นั่น!”
ชายชราผมขาวมองพื้นที่ว่างเปล่าตามที่ฉินหมิงชี้ไปเบื้องหน้า ที่นั่นปรากฏร่องรอยโลหิตให้เห็น!
พลันนั้นนัยน์ตาของชายชราหรี่ลงท่าทีครุ่นคิด “เจ้าลงมือกำราบสมบัตินั่น งั้นหรือ?”
ฉินหมิงทำสีหน้าตกอกตกใจก่อนจะรีบปฏิเสธพัลวัน “ผู้อาวุโสฉินเฟิง ไม่จริง ข้าเปล่า… ขะ… ข้า… เมื่อครู่มันวางอยู่ตรงหน้าจริงๆ!”
ชายชราผมขาวผู้มีนามว่าฉินเฟิงจ้องหน้าฉินหมิงอย่างรู้เท่าทัน “ส่งสมบัติล้ำค่ามา แล้วข้าจะลืมว่าเจ้าทำอะไรลงไป!”
ยามนี้ฉินหมิงถึงกับหน้าเผือดซีด เขาทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่างทว่าพลังอำนาจเทวจิตของชายชราแผ่เข้ามาตรึงเอาไว้เสียแล้ว!
บัดนี้เขาสัมผัสถึงความกระหายแห่งการสังหารของชายชราได้ถนัดชัดเจน!
วูบหนึ่งฉินหมิงเกิดความกระจ่างขึ้นมาทันที
ตนเองย่อมรู้ดีที่สุด ยอดฝีมือของตระกูลหมิงต่างเห็นกับตาว่าเขาเองที่เป็นคนนำสมบัติล้ำค่าเข้ามาในนี้ อย่างไรก็ตาม เวลานี้สมบัติล้ำค่ากลับหายไปเสียแล้ว ไร้ประโยชน์ที่จะพูดให้ใครฟัง ไม่ว่าจะพูดอะไรย่อมไม่มีใครเชื่อคำพูดอย่างแน่นอน!
เขาไม่รู้สาเหตุว่าทำไมสมบัติล้ำค่าถึงหายไปเฉยๆ ทว่าเรื่องนี้ต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเยี่ยฉวนแน่นอน!
หลังจากนิ่งสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เมื่อหวนนึกถึงพฤติกรรมของเยี่ยฉวน ตนยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้น ชายหนุ่มยอมมอบสมบัติล้ำค่าให้ง่ายๆ ได้อย่างไร?
พวกเขาน่าจะโดนเยี่ยฉวนหลอกต้มเอาเสียแล้ว!
ฉินหมิงหยุดนึกถึงพฤติกรรมของเยี่ยฉวนชั่วคราว ด้วยขณะนี้ไร้อารมณ์จะนึกถึงสิ่งใดอีกต่อไป
ถึงตอนนี้ทางเลือกของเขามีแค่สองทาง ทางแรกคือยอมตาย!
ตระกูลฉินต้องคิดว่าตนเก็บของล้ำค่าเข้ากระเป๋าตัวเองไปคนเดียว และเมื่อเทียบกับสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้น ในมุมมองของตระกูลฉิน……ตัวเขาไม่ได้สำคัญไปกว่าสมบัตินั่นเลยแม้แต่น้อย!
ถ้าไม่นำสมบัติล้ำค่ามามอบให้พวกเขา ตนต้องตายอย่างแน่นอน!
ถึงกระนั้นทางเลือกที่สอง……
ขณะต่อมาชายชราผมขาวเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ฉินหมิง สมบัติล้ำค่าเกี่ยวข้องกับอนาคตของตระกูลฉิน อย่าทำอะไรโง่ๆ ไปหน่อยเลย!”
ทันใดนั้นฉินหมิงหันกลับแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว!
ด้วยความรวดเร็วขั้นสุด เพียงชั่วพริบตาเขาสามารถหลบหนีออกจากหอลับแห่งนั้นได้!
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชราผมขาวมีท่าทีตกตะลึงและรีบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
บริเวณด้านนอกหอลับ กลุ่มยอดฝีมือของตระกูลฉินต่างมีสีหน้าสับสนงงงัน
เกิดอะไรขึ้น?
ภายหลังจากที่ฉินหมิงทะยานไปที่กลางอากาศ เขาหันกลับมองไปทางฉินเฟิงอย่างจงใจ “ที่พยายามจะสังหารข้าเพื่อปิดปาก เพราะกลัวจะเผยความลับของเจ้าสินะ!”
ฉินเฟิงถึงกับชะงักงัน
ยอดฝีมือที่ติดตามมา ต่างพากันหันไปมองฉินเฟิงด้วย เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หลินมู่และพวกที่ตามมาถึงยังบริเวณ ต่างคนต่างมองดูด้วยความฉงนสนเท่ห์ไปด้วยเช่นกัน พวกตระกูลฉินมีเรื่องอะไรกัน?
ในอากาศ ฉินหมิงจ้องเขม็งไปยังฉินเฟิง “นี่พวกเจ้า ตาเฒ่าฉินเฟิงต้องการฮุบสมบัติล้ำค่าไว้คนเดียว! เขาอยากจะสังหารข้า……ทั้งที่ตัวข้าให้สมบัตินั่นไปแล้ว!”
ยอดฝีมือของตระกูลฉินต่างเงียบเสียง
หลินมู่และพวกพลอยพูดไม่ออกไปด้วยเช่นกัน
ฉินเฟิงเขม้นมองฉินหมิง “เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าพูดอะไรออกไป?”
พลันเสียงแสดงความมุ่งร้ายของฉินหมิงดังมาว่า “เฒ่าฉินเฟิงหยุดเสแสร้งได้แล้ว พอให้สมบัติล้ำค่าไปแล้ว กลับจะสังหารข้าเสียนี่ เจ้าเป็นคนทรยศตระกูลฉิน!”
คนที่ถูกกล่าวหาหรี่นัยน์ลงเล็กน้อย “เจ้าต่างหากที่อยากฮุบสมบัติล้ำค่าไว้คนเดียว!”
หากอีกฝ่ายโต้ตอบอย่างโกรธจัด “หยุดใส่ร้ายข้าเสียที! เจ้ามันบ้า! หน้าด้านไร้ยางอายยิ่งกว่าไอ้บ้าเยี่ยฉวนเสียอีก!”
ยามนี้ฉินเฟิงโมโหเดือดดาลจนหน้าดำคร่ำเครียด ขณะเดียวกันเขาค่อยกำมือข้างขวาช้าๆ “ฉินหมิง เจ้ารนหาที่ตายเอง!”
เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าจะจู่โจมฉินหมิง พลันนั้นฉินหมิงรีบร้องตะโกนทันที “ดูสิ เขาจะสังหารข้าปิดปากไม่ให้เผยความลับจริงๆ!”
ยอดฝีมือของตระกูลฉินที่อยู่ในบริเวณ ต่างหันใบหน้าบึ้งตึงมองไปที่ฉินเฟิงเป็นตาเดียว!
ภาพที่ปรากฏทำให้ฉินเฟิงกัดกรามกรอด เค้นเสียงลอดไรฟันอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเจ้าเชื่อที่เจ้านั่นพูดงั้นหรือ?”
พลันต่อมาบนท้องฟ้า มีกองทัพม้าศึกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในที่ไกลออกไป ทันใดนั้นค่ายกลขนาดมหึมาที่ครอบอยู่เหนือนครโบราณแตกสลายไปในทันที!
ในเวลาเดียวกัน ชายชราสวมชุดดำและคนของชุมนุมผู้คุมกฎตามมาถึงแล้ว!
เวลานี้ตระกูลฉินทั้งตระกูลถูกคนของเผ่าถังและชุมนุมผู้คุมกฎล้อมกรอบไว้โดยปริยาย!
อย่างไรก็ตาม พวกที่ตามมาเหล่านี้มิได้ตรงเข้าจู่โจมตระกูลฉิน ด้วยสังเกตเห็นความขัดแย้งกันเองที่กำลังเกิดขึ้นภายในตระกูลขณะนั้น!
ในอากาศ ฉินเฟิงเพ่งมองฉินหมิงด้วยสายตาเครียดขึง “เจ้าทำอย่างนี้ทำไม?”
ทำไมถึงทำอย่างนี้?
ฉินหมิงรู้อยู่เต็มอกว่า ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง……เขาจะต้องตาย!
ทว่าถ้าทำอะไรสักอย่าง เขาอาจมีโอกาสรอดแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม!
ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว!
คนถูกถามเขม้นมองฉินเฟิง “ข้าต่างหากที่ควรถามเจ้า!”
ฉินเฟิงหรี่นัยน์ตามอง “คิดว่าคนตระกูลฉินจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูดงั้นหรือ?”
ว่าแล้ว ทางด้านข้างของฉินเฟิงปรากฏคนผู้หนึ่ง ลักษณะเป็นชายวัยกลางคนโผล่เข้ามา เมื่อเห็นชายวัยกลางคนผู้นั้นทั้งหลินมู่และคนอื่นที่อยู่ในบริเวณต่างสีหน้าเปลี่ยนวูบ!
เขาเป็นยอดฝีมือที่มีพลังขั้นไขว่คว้าเต๋าชั้นรู้แจ้ง!
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่เข้ามา พลันฉินหมิงกลับมีสีหน้าเผือดหมองไปด้วยเช่นเดียวกัน คนผู้นี้คือฉินเสี่ยว หนึ่งในสองของเหล่าผู้พิทักษ์ตระกูลฉิน
คนผู้นี้เป็นหนึ่งในห้าของผู้มีพลังอำนาจที่สุดของตระกูลฉิน!
หลังจากที่ปรากฏตัวออกมา สายตาของฉินเสี่ยวจับจ้องมองไปยังฉินหมิง “ทำไม!”
ฉินหมิงแค่นยิ้ม “น่าเศร้าใจนัก”
เขายังคงเอ่ยต่อไปราวกับคนสิ้นหวัง “ผู้พิทักษ์ฉินเสี่ยวดูเหมือนเจ้าก็ไม่เชื่อข้าอีกคนสินะ เข้ามาค้นตัวดูก็ได้!”
ฉับพลันนั้นพลังจิตตรวจตราของฉินเสี่ยงพุ่งตรงเข้าไปครอบงำฉินหมิงทันที ซึ่งฝ่ายหลังมิได้ต้านทานแต่อย่างใด
ชั่วครู่ต่อมาฉินเสี่ยวนิ่วหน้าเล็กน้อย เขาชำเลืองไปทางฉินเฟิง จากนั้นฝ่ายหลังเอ่ยบอกเสียงเคร่งขรึม “หลังจากที่ข้าตามเข้าไปในหอลับ เขาบอกข้าว่าสมบัติล้ำค่าหายไปเสียแล้ว! ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นเขาแสดงท่าทีอย่างที่พวกเจ้าเห็น!”
