Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 278

ตอนที่ 278 ปืนใหญ่โจมตีร้านจิ้นเหอ

บนถนนสายนี้ใช้ว่าไม่มีบ้านเรือนผู้คน บรรดาคนว่างงานต่างก็ใจกล้าออกมาดูเรื่องสนุก บางคนแอบมองลอดผ่านร่องประตูมาดูเรื่องสนุก

คนมุงถูกจับตัวไป คนพวกนี้จึงได้แต่แอบดู มองเห็นพลทหารองครักษ์เสื้อแพรยังไม่เข้าไปจับกุม ก็เริ่มแอบดูกัน พากันวิจารณ์กันคนละคำสองคำ ราวกับกำลังดูงิ้ว

รอจนปืนใหญ่มาถึง ไม่มีคนวิพากษ์วิจารณ์อันใดแล้ว พวกขี้ขลาดถึงกับรีบถอยออกจากหลังประตู กลัวว่าจะพลอยโดนไปด้วย

ความจริงก็แค่ปืนกระบอกเดียว ใช้รถคันใหญ่ดัดแปลงเป็นแท่นลากจูงมา ด้านบนใช้แผ่นไม้กับแผ่นเหล็กมัดติดกันให้แน่น รถม้าใช้วัวสองตัวลากมา ได้ยินเสียงล้อไม้หุ้มเหล็กบดมากับพื้นเสียงดังยิ่ง แสดงให้เห็นว่าน้ำหนักนั้นหนักมาก

สองข้างทางมองมาแล้ว ก็เห็นแต่ท่อนเหล็กใหญ่ดำทะมึน ได้ยินเสียงถานหั่วรายงาน ทุกคนจึงได้รู้ว่าเป็นปืนใหญ่

ปืนใหญ่ในสมัยนี้สำหรับทุกคนแล้วยังคงเป็นปืนใหญ่ที่เล่าสู่กันฟัง เล่ากันว่าปืนใหญ่ยิงได้ไกลสิบกว่าลี้ คนและม้าต่างกลายเป็นเศษเนื้อ

ผู้ใดก็คิดไม่ถึง ก็แค่เรื่องวิวาทต่อยตีกันบนท้องถนนเท่านั้น องครักษ์เสื้อแพรถึงกับใช้ปืนใหญ่

“ใต้เท้า ปืนใหญ่มาแล้ว!!”

ได้ยินถานหั่วรายงาน หวังทงก็ชี้ไปยังประตูหน้าร้านจิ้นเหอกล่าวว่า

“ยิงทางนั้น!!”

ถานหั่วรับคำสั่งบนหลังม้า หันกลับไปโดดลงจากหลังม้า รีบนำทหารสิบกว่านายไปเตรียมพร้อม มีคนลากวัวไปเทียมรถหันหน้าให้ตรง มีคนไปยกลังไม้ลงจากรถเทียมวัว กำลังขุดดินวางลังไม้ปิดซ้ายขวาหน้าหลังของตัวรถให้แน่น นี่คือการสร้างฐานปืนใหญ่ มิเช่นหากยิงออกไป ด้านหลังฐานไม่แน่ไม่รู้ว่ารถใหญ่จะไหลไปที่ใด

หลังทดลองยิงสำเร็จ การหลอมปืนใหญ่ก็คืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากการวิเคราะห์ ค่ายในเมืองให้วางปืนใหญ่ราวหกชั่งเอาไว้กระบอกหนึ่ง

ไม่มีคนทำรถปืนใหญ่เป็น ก็ได้แต่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ใช้รถใหญ่ดัดแปลงเป็นฐานที่เคลื่อนที่ได้ สะดวกในการเคลื่อนย้าย ปืนใหญ่ใช้กระสุนหกชั่งสามารถเคลื่อนย้ายได้ ระดับเก้าชั่งนั้นต้องใช้รถเทียมวัวหกตัว และเส้นทางยังไปมาลำบากเกินไป

“ใต้เท้าหวัง ทุกเรื่องเจรจากันได้ ทุกเรื่องเจรจากันได้นะขอรับ!!”

คนของร้านจิ้นเหอไม่กล้าโผล่ขึ้นริมกำแพงอีกแล้ว แต่ยืนอยู่กลางร่องหลังประตูตะโกนขึ้น สามารถมองเห็นปืนใหญ่สีดำทะมึนมาจ่อ

พอเห็นปืนใหญ่ก็เริ่มหวาดกลัว กลัวจนไม่รู้จะกลัวอย่างไรได้อีก เสียงตะโกนแหบพร่า หวังทงกลับไม่สนใจ เอ่ยเพียงว่า

“ออกมาหนึ่งคนก็ยิงหนึ่งคน อย่าได้หยุด!!”

ทางนั้นมีคนไม่สนใจอะไรอีกแล้วพากันเปิดประตูออก ถานกงกับพลธนูอีกสองสามคนก็น้าวสายธนูขึ้นพร้อม ปักไปที่บานประตูพอดี ปืนใหญ่ทำให้คนหวาดกลัว ธนูเมื่อครู่ยิงตายไปสองคน

ทำความสะอาดในกระบอกปืน บรรจุดินปืน ขึ้นไก บรรจุกระสุน ถานกงวิ่งมากำลังจะรายงาน ถานปิงก็ยกมือหยุดเขาไว้ เข้าไปกระซิบข้างหวังทงว่า

“นายท่าน ยิงไปนี่ เกรงว่าจะมีคนตายไม่น้อย เรื่องจะใหญ่นะขอรับ ถึงตอนนั้นเก็บกวาดยาก ใต้เท้าโปรดไตร่ตรอง!!”

“ข้ายังกังวลว่ายิงปืนนี้ออกไปจะเอาคนไม่อยู่เหมือนเดิม ในเมืองนอกเมืองมีคนสนับสนุนพวกนาวา ไม่แตกหักกับพวกเราแต่ก็แอบขยับตัวเคลื่อนไหวลับหลังไม่น้อย วันนี้หากข้ายอมถอยหนึ่งก้าว วันหน้าคงไม่ต้องทำอันใดแล้ว เรื่องเก็บเงินคงถูกร้องเรียนไปยังเมืองหลวงอีก”

หวังทงยกมือโบกไปยังถานกงที่รอรับคำสั่งอยู่ข้างๆ และยังกล่าวกับถานปิงด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบต่อว่า

“หาเรื่องข้าเล็กน้อยแค่นี้ไร้ประโยชน์ วันนี้ต้องสังหารสองสามคน ให้เสียเลือดเสียเนื้อบ้าง หากยังหาเรื่องต่อ ก็ต้องเสียเลือดเสียเนื้อมากขึ้น คนตายเยอะขึ้น!!”

“จะจุดชนวนแล้ว!!”

ถานกงทางนั้นตะเบ็งเสียงตะโกนดัง พลทหารก็แหวกออกเป็นสองทาง คนขี่ม้าก็เอาผ้าออกมาอุดหูม้า และอุดหูตัวเอง

“ใต้เท้าหวัง ข้าน้อยผิดไปแล้ว มีคนยุแหย่…”

“ยิง!!”

ชนวนติดไฟ ปืนใหญ่ยิงไป เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ควันจำนวนมากทะลักออกมาจากปากกระบอกปืน คลุ้งทะมึนไปทั่วบริเวณโดยรอบ ตอนยิงออกไป ทุกคนต่างรู้สึกได้ว่าพื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย

แม้ว่าอุดหูม้าไว้แล้ว แต่ม้ายังคงตกใจกระโจนไปมาส่งเสียงร้องดัง ทุกคนต้องพากันกระชับบังเหียนม้าเอาไว้

พอควันจางลง ประตูไม้ร้านจิ้นเหอครึ่งหนึ่งถูกพังกลายเป็นเศษไม้ กำแพงด้านในห้องก็ล้มลงไปเกินครึ่ง มองจากทางนี้ก็ทะลุไปถึงลานด้านใน

คนในร้านต่างพากันนิ่งเป็นหุ่นไม้ ตกใจจนนิ่งค้าง บานประตูที่แตกละเอียดยังมีรอยเลือดปน ปืนนั้นน่าจะยิงโดนคนด้วย

“พี่น้องตระกูลถานสามคนไม่อาจสละชีพอย่างไร้ค่า สังหารพวกเราหนึ่งคนก็ต้องชดใช้ด้วยสิบชีวิต เอาร้อยชีวิตมาชดใช้”

หวังทงกล่าวกับถานปิงน้ำเสียงนิ่งเรียบ กล่าวถึงตรงนี้ ถานปิงก็พยักหน้าหนักแน่น คนของร้านจิ้นเหอในที่สุดก็ได้สติ ในร้านมีคนลุกขึ้นมาได้ก็วิ่งออกมาราวกับเป็นบ้า มีคนนอนกลิ้งกับพื้นร้องไห้อย่างเสียสติ อานุภาพปืนใหญ่ทำเอาคนไม่น้อยสติแตก

หวังทงมองไปพลางแค่นยิ้ม สะบัดแส้ตะโกนสั่งดังว่า

“อย่าให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว จับทุกคนในร้านไว้ให้หมด!!”

พลทหารรับคำพร้อมกัน กรูกันเข้าไป หวังทงเผยรอยยิ้มที่มุมปาก กล่าวกับถานปิงว่า

“ไป ไปคิดบัญชีกัน!!”

พลทหารค่ายใหม่พวกนี้มีรายการฝึกหนึ่งที่ไม่เหมือนทหารทั่วไป นั่นก็คือจะจับคนอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่องครักษ์เสื้อแพรจึงจะจัดการได้ และก็เป็นหน้าที่ของพวกเขาด้วย

นำมาใช้ยามนี้ก็พอดี ค่ายหนึ่งอุดทาง ค่ายหนึ่งเข้าไปจับกุม อย่างไรในร้านก็คงมีเชือก ก็เอามามัดคนนำตัวออกมาได้เลย

ถานกงนำพลปืนใหญ่กับช่างหลอมปืนเดินเข้าไป พวกเขาไม่ได้ไปจับคน หากไปดูร่องรอยกระสุนปืนใหญ่ ตัวร้านที่ทำจากอิฐและไม้ ถูกยิงทะลุไปถึงชั้นที่สาม

หลายคนเดินนับก้าว เห็นแผ่นไม้และกำแพงข้างทางก็วิจารณ์กันเงียบๆ บอกว่าครั้งนี้ใส่ดินปืนไม่ดี มิเช่นนั้นปืนใหญ่คงยิงได้ไกลกว่านี้

การยิงปืนครั้งนี้ทำคนตายไม่เยอะ มีเจ็ดคนที่อยู่แถวประตู หนีไม่ทันถูกแผ่นไม้ปลิวไปกระแทกตาย ยังมีผีโชคร้ายด้านในอีกสี่คน

พวกคนมุงที่ถูกจับเมื่อครู่ แม้ว่าห่างจากปืนใหญ่ไกลไม่น้อย แต่ทุกคนก็ขวัญหนีดีฝ่อกันไปหมด บางคนถึงขั้นสูญเสียการควบคุม

คนในร้านยิ่งเลวร้ายกว่าคนมุงด้านนอก หากไม่ได้ถูกจับมัดไว้ เกรงว่าคงได้บ้าคลั่งกันไปหลายคน แม้เป็นเช่นนี้ หากส่วนใหญ่ก็ยังคงส่งเสียงร่ำไห้ดังกันอย่างเสียสติ

“ลงมือให้คนพวกนี้หุบปาก!!”

หวังทงทนไม่ไหวสั่งการลงไป พวกองครักษ์เสื้อแพรที่เห็นคนของตนสภาพเช่นนั้นก็เดือดเป็นไฟ หวังทงสั่งการมา ใครบ้างจะยั้งมือ ต่างพากันลงมือทันที

ขยับม้าขึ้นหน้าไปสองสามก้าว ก็เห็นคนที่พื้นส่งสายตาน่าอนาถกันเช่นนี้ คิดถึงพลทหารที่เล่าสภาพวางอำนาจก่อนหน้านี้ของคนพวกนี้แล้ว ก็รู้สึกสะใจยิ่งนัก

หวังทงไม่ทันกล่าวอันใด ก็ได้ยินเสียงดังมาจากอีกด้านหนึ่งอย่างเร่งร้อน ทหารขวางทางไว้ สองฝ่ายยังดึงดันกัน ผู้ใดกล้ามาออกหน้า หวังทงหันไปมอง ก็เห็นเจ้าหน้าที่ยกป้ายประจำตัวเจ้ากรมคุมกำลังพลใต้เท้ากาว

คนผู้นี้ตนเองไม่เคยไปมาหาสู่ด้วย มาร่วมวงอะไรด้วย หวังทงขมวดคิ้วออกคำสั่งไปว่า

“ปล่อยให้เข้ามา!!”

เกี้ยวสี่คนหามมีเจ้าหน้าที่นำทางเข้ามาถึงหน้าหวังทงอย่างรวดเร็ว เดิมเจ้าหน้าที่พวกนี้กับบรรดาคนแบกเกี้ยมมีสีหน้าไม่พอใจโกรธแค้นอยู่ แต่พอเห็นทหารรอบข้างเต็มด้วยไอสังหาร ก็เริ่มหวาดกลัวกันหลายส่วน รอจนมาถึงหน้าร้านจิ้นเหอ ได้เห็นปืนใหญ่ เห็นสภาพร้านที่ถูกปืนใหญ่ทำลายลง ทุกคนต่างพากันหวาดกลัว

เกี้ยวหยุดลง ม่านเปิดออก ใต้เท้ากาวก้าวออกมาเห็นหน้าประตูกำลังเก็บปืนใหญ่ จ้องไปสองสามที ตัวก็เริ่มสั่น สีหน้าซีดเผือด

เป็นหวังทงที่ส่งเสียงถามขึ้นก่อน จึงได้ทำลายสถานการณ์เก้กังนี้ลง หวังทงถามน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า

“ข้าปฏิบัติงาน ใต้เท้ากาวมาที่นี่ด้วยเรื่องอันใด!”

สองคนตำแหน่งขุนนางระดับเท่ากัน คนหนึ่งบุ๋นคนหนึ่งบู๊ ตามหลักหวังทงควรลงจากหลังม้ามาคำนับ แต่หวังทงถามเสียงเยียบเย็นบนหลังม้า ไม่ได้มีมารยาทอันใดแม้แต่น้อย

มีทั้งกำลัง มีทั้งปืนใหญ่ ใต้เท้ากาวไม่กล้าเสียงแข็ง ได้แต่ปาดเหงื่อบนหน้าผากเจรจาด้วยรอยยิ้มขึ้นว่า

“ใต้เท้าหวัง คนพวกนี้เป็นพวกโง่เง่า ไม่รู้จักธรรมเนียม ล่วงเกินใต้เท้า แต่ล่วงเกินอย่างไรก็ไม่ขั้นควรตาย ไยใต้เท้าต้องเล่นอาวุธหนักเช่นนี้ มีเรื่องกันต่อ ชาวเทียนจินเราย่อมดูไม่ดี ข้ายอมบากหน้าขอร้องใต้เท้าให้ปล่อยพวกเขาด้วยเถิด!!”

เห็นใต้เท้ากาวถึง คนของร้านจิ้นเหอที่เดิมส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็มีสองสามคนตะโกนดังขึ้นว่า

“ใต้เท้ากาว ช่วยด้วย!”

“ใต้เท้ากาว เจ้าหวังทงนั่นมาถึงก็ลงมือสังหาร!!”

“ใต้เท้ากาว ต้องออกหน้าให้ข้าน้อยด้วย!!”

ใต้เท้ากาวทำเป็นไม่ได้ยิน มองไปทางหวังทง รอเขาตอบ หวังทงหันไปทางถานปิงกล่าวสองสามคำก็มีคนแบกแคร่ไม้ออกมาจากด้านหลังกองกำลัง ด้านบนมีพลทหารนอนเจ็บอยู่ พันผ้าพันแผลไว้ สภาพอเนจอนาถมาก

“พลทหารองครักษ์เสื้อแพรปฏิบัติหน้าที่ที่ร้านจิ้นเหอกลับถูกรุมทำร้าย องครักษ์เสื้อแพรเป็นกองกำลังในพระองค์ ปฏิบัติหน้าที่หากมีข้อสงสัยใด ก็มาโต้แย้งที่ที่ทำการได้ กลับรุมร้ายเจ้าหน้าที่ นี่มันอะไรกัน พฤติกรรมก่อการกบฏเช่นนี้ คนที่ร่วมด้วยก็ย่อมเป็นผู้ก่อการกบฏ!!”

หวังทงกล่าวรุนแรงจบก็ถามกลับว่า

“ใต้เท้ากาว พวกกบฏนี่ กฎหมายราชวงศ์หมิงเราจัดการเช่นไร!!!”

ใต้เท้ากาวถูกถามเช่นนี้ก็ผงะถอยไปหนึ่งก้าว ก่อนจะปาดเหงื่อบนใบหน้า ตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า

“ตัด…ตัดหัวทันที!”

หวังทงพยักหน้า หันไปกล่าวว่า

“ให้คนเจ็บมาดูตัว จับตัวคนที่ลงมือกับหัวหน้าสามคนออกมา!!”

กล่าวจบ หังต้าเฉียวกับคนที่โดนรุมเมื่อก่อนหน้าที่มาร้านจิ้นเหอก็ก้าวขึ้นหน้ามา ชี้ตัวทีละคน ทุกครั้งที่ชี้ตัว พลทหารก็นำตัวเขาออกมา

แม้ว่าจะส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น แต่ก็ยังมาได้ถึง 70 คนคุกเข่าเป็นแถว จับกดอยู่กับพื้นหน้าร้าน ยังมีพลทหารขักดาบเตรียมพร้อมอยู่ข้างหลัง

หวังทงยกแส้ในมือขึ้นกล่าวเสียงดังว่า

“ลืมตาดูให้ดีๆ นี่คือผลที่จะต้องรับ!”

กล่าวจบก็ยกมือขึ้นสะบัด ตะโกนว่า

“ลงมือ!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version