Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 54

ตอนที่ 54 ฉลองปีใหม่แล้ว

หวังทงนิ่งอึ้งไป ไม่รู้ว่ามีคำกล่าวเช่นนี้ด้วย ครู่หนึ่งจึงคิดได้ รูปแบบการออกกำลังกายพลศึกษาของโรงเรียนในยุคปัจจุบันมีความหลากหลายไม่น้อย แต่ก็ต่างสามารถมองย้อนไปถึงการฝึกทหารในยุคปัจจุบัน กล่าวก็คือ รูปแบบเหล่านี้ส่วนใหญ่เตรียมการณ์ในยุคอาวุธสงคราม เพื่อให้ทหารวอร์มร่างกายในยุคปัจจุบัน มีที่มาต่างจากการโจมตีรูปแบบศิลปะการต่อสู้

อาจกล่าวได้ว่า พื้นฐานผิดแล้ว

พอเห็นหวังทงอึ้งไป หลี่เหวินหย่วนคิดว่าอีกฝ่ายผิดหวัง และรู้สึกว่าตนเองกล่าวตรงเกินไป จึงเปลี่ยนเรื่องหันไปชี้หม่าซานเปียวที่มองอย่างโมโหอยู่ข้างๆ กล่าวว่า

“หากเป็นเจ้าคนวู่วามผู้นี้ อย่าเห็นว่าอายุมาก หากพื้นฐานดี ก็สามารถฝึกให้เห็นผลได้”

หม่าซานเปียวขี่ม้าเป็น ยังมีร่างกายที่ดีเช่นนี้ เมื่อครู่ที่พุ่งออกมาช่วยลงมือ คนเช่นนี้สามารถฝึกให้ดีก็ย่อมช่วยเหลือได้เช่นกัน หวังทงยืดตัวตรงหัวเราะกล่าวว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ขอให้พี่หลี่ช่วยสอนสั่งซานเปียวด้วย”

หม่าซานเปียวส่งเสียงฮึดฮัดปฏิเสธ หวังทงหันไปยิ้มกล่าวว่า

“หากเจ้าเรียนได้ดี ข้าจะให้เจ้าเข้าสังกัดดองครักษ์เสื้อแพร เจ้าจะได้กินเบี้ยหลวง”

สามารถเข้าสังกัดองครักษ์เสื้อแพรกินเบี้ยหลวง เงื่อนไขนี้ทำให้หม่าซานเปียวตาเป็นประกาย ไม่ลังเลเดินไปคุกเข่าตรงหน้า หลี่เหวินหย่วน หลี่เหวินหย่วนคิดไม่ถึงว่าหวังทงจะตามน้ำมาเช่นนี้ แต่อีกฝ่ายก็เป็นหัวหน้าตน ยังมีของที่กองอยู่ตรงประตู การไว้หน้านี้อย่างไรก็ไม่อาจปฏิเสธได้

หัวหน้ากับลูกน้องควรมีระยะห่าง หวังทงย่อมไม่อาจฝากตัวเป็นศิษย์กับลูกน้องตนเองอย่างเป็นทางการได้ แต่ทุกวันตอนค่ำก็จะมาฝึกกับหลี่เหวินหย่วนที่นี่

จัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ หวังทงก็ยิ้มกล่าวกับหลี่เหวินหย่วนว่า

“พี่หลี่ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เรียกพี่น้องกองธงเล็กทุกคนมา หนึ่งจะได้รู้จักกัน สองจะได้แบ่งของกัน!”

หลี่หู่โถวที่ยืนจ้องมองหม่าซานเปียวอยู่ข้างๆ มาตลอดพอได้ยินคำของหวังทง ก็ยิ้มร่าปรี่ออกมากล่าวว่า

“ใต้เท้าหวัง ของตรงประตูพวกนี้ท่านมอบให้กองธงเล็กของบิดาข้าหรือ?”

นี่ย่อมแน่นอน หวังทงพยักหน้า หลี่หู่โถวรีบตบมือร้องเสียงดัง กล่าวกับหลี่เหวินหย่วนอย่างตื่นเต้นสุดขีดว่า

“ท่านพ่อ ของทั้งหมดนี้เป็นของเราแล้ว!”

หวังทงที่ได้ยินก็อึ้งไป มองไปทางหลี่เหวินหย่วน หลี่เหวินหย่วนใช้ส่งสายตาแปลกประหลาดมองมาทางหวังทงเช่นกัน ถามกลับว่า

“หรือใต้เท้าไม่ทราบ ข้าน้องไม่มีลูกน้องสักคน โดดเดี่ยวเพียงผู้เดียว”

บนถนนทักษิณเช่นนี้ ทุกคนอยากไปประจำการเก็บส่วย การกวาดล้างจับกุมงานลำบากพวกนี้และยังไม่มีน้ำร้อนน้ำชาใครอยากจะรับกัน

หลี่เหวินหย่วนเป็นผู้ที่ขุนพลชีจี้กวง ผู้บัญชาการกองทัพเมืองจี้โจว บัญชาการทหารสามเมืองฝากเข้ามา ไม่ใช่ลูกหลานองครักษ์เสื้อแพร อยู่ที่นี่ก็เหมือนคนนอก ย่อมไม่มีงานดีๆ ให้ทำ เช่นเดียวกัน พวกคนนอกที่ไม่มีผลประโยชน์ก็ไม่มีใครอยากมาติดตาม ต่างก็พากันหาเส้นสายย้ายไปหานายกองธงเล็กอื่นกันหมด

“ไม่มีคนแล้วจะทำงานอย่างไร!?”

“ทำคนเดียว องครักษ์เสื้อแพรเรายังมีธรรมเนียมควักเงินตัวเองขอให้คนอื่นช่วยทำอะไรบ้าง เพียงแต่ข้าไม่มีเงิน ก็ได้แต่ทนไปอย่างนี้”

หลี่เหวินหย่วนบ่นอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขามีความพิการ หากไม่ทำงานลำบากนี้ แม้แต่ทางทำมาหากินก็จะไม่มี จึงได้แต่ทนลำบากที่นี่เท่านั้น

เบี้ยหวัดก็ไม่พอเพียง ไม่ว่าร้านข้าวสารร้านของชำอะไรก็ล้วนแต่ติดเงินไว้ไม่น้อย ปลายปีทุกวันก็มีคนมาทวงหนี้ จึงได้มีฉากที่เมื่อครู่หวังทงเข้าประตูมาฉากนั้น เช่นนี้แล้ว ยังดีที่หวังทงมาเยือน มิเช่นนั้นปีนี้ก็คงลำบากแล้ว

แต่สำหรับหวังทง เดิมก็คิดว่าลูกน้องน่าจะมีสัก 20 กว่าคนได้ คิดไม่ถึงว่าหลี่เหวินหย่วนที่นี่มีแค่คนเดียว เกรงว่าตนคงต้องควักเงินตัวเองไปจ้างคนมาทำงาน ตอนพูดอยู่นั้น หลี่เหวินหย่วนก็ใจเต้นตึกตัก กังวลว่าหวังทงจะรู้สึกเสียเปรียบ

รอยยิ้มบนใบหน้าหวังทงกลับยิ่งมากขึ้นหลายเท่า ลูกน้องยิ่งลำบากก็ยิ่งซื้อใจได้ง่าย หลี่เหวินหย่วนฝีมีอดีเช่นนี้ ขอเพียงตนมอบความเมตตาให้ ย่อมต้องได้ตอบแทนบุญคุณ

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ของฉลองปีใหม่เหล่านี้ก็เป็นของพี่หลี่แล้ว ฉลองปีใหม่กับหู่โถวให้ดี หลังปีใหม่ก็มารายงานตัวที่ข้า ตอนนั้นพวกเราค่อยปรึกษาหารือกัน”

หลี่หู่โถวทางนั้นดีอกดีใจขนย้ายของฉลองปีใหม่อย่างแข็งขัน เด็กน้อยไม่มีความกังวลอันใด คนข้างๆ เห็นแล้วก็ดีใจไปด้วย หลี่หู่โถวอายุไม่ถึง 10 ปี อ่อนกว่าหวังทง 3 ปี แต่หวังทงมองหลี่หู่โถวเหมือนผู้ใหญ่มองเด็ก มองไปสักครู่ก็คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง หันมากล่าวกับหลี่เหวินหย่วนว่า

“พี่หลี่ พี่เคยติดตามแม่ทัพชี เคยฝึกกองทหารไหม?”

“ย่อมต้องเคยฝึก ตอนนั้นกองอารักษ์ขาแม่ทัพล้วนเป็นลักษณะกองทหาร ถูกส่งไปฝึกแต่ละกองตามกำหนด”

หวังทงตบมือ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า

“เช่นนี้พอดีเลย รอหลังปีใหม่ ยังต้องขอให้พี่หลี่จัดการงานฝึก มีเด็กหนึ่งร้อยกว่าคนรอฝึกด้วยกัน!”

ลานฝึกกำลังก่อสร้าง เรื่องการฝึกนี้กำลังทำให้หวังทงปวดหัว…

วันที่ 29 เดือนสิบสองตอนค่ำแล้ว หวังทงแจกซองแดงให้บรรดาพ่อครัวลูกจ้างกลับบ้านไปฉลองปีใหม่คนละ 500 อีแปะ เนื้อหมูคนละ 20 ชั่งถือเป็นการขอบคุณ

การขอบคุณนี้ทำให้พ่อครัวและคนงานในร้านต่างพากันยิ้มไม่หุบ เถ้าแก่ใจกว้าง ทำให้ที่บ้านยังบ่นที่ตนไม่กลับไปช่วยจัดเตรียมงานปีใหม่ แต่หากนำเงินและเนื้อกลับไป ดูซิว่าใครจะว่าอะไรอีก

เงินส่วนแบ่งปลายปีของจางซื่อเฉียงและนางหม่าก็ได้มากกว่าคนอื่น ได้คนละ 50 ตำลึง เงินก้อนนี้หากไม่อยากอยู่ในเมืองหลวง กลับไปซื้อที่นาที่นอกเมืองก็สามารถเป็นเจ้าของที่ขนาดเล็กได้เลยทีเดียว

จะว่าไปแล้ว ของที่มอบให้หลี่เหวินหย่วนวันนั้นก็เกือบ 50 ตำลึงได้ หวังทงไม่ได้เสียดายอะไร สำหรับคนที่มีความสามารถ จ่ายเงินซื้อใจสักหน่อยก็ไม่มีอะไรเสียหาย

แต่ของมากมายอย่างนั้นกลับไม่ทันได้กินในวันปีใหม่วันนั้น เพราะเขาสองพ่อลูกถูกเรียกมาที่บ้านหวังทงเพื่อร่วมฉลองกับครอบครัวนางหม่า

หลี่หู่โถวดีใจอย่างมาก อาจเป็นเพราะหลายปีมานี้ฉลองปีใหม่อย่างเงียบเหงามาหลายปี ปีนี้ได้ตัดเสื้อใหม่ มีปลามีเนื้อไม่ว่า ยังมีคนกลุ่มใหญ่ร่วมฉลองกัน ครึกครื้นรื่นเริง มีคนจุดประทัดเป็นเพื่อน มีคนกลุ่มใหญ่ร่วมกันห่อเกี๊ยว เป็นปีใหม่ที่มีความเหมือนปีใหม่แล้ว

มีเพียงหนึ่งเดียวที่ยังขาดก็คือ ใต้เท้าหวังที่ชื่อหวังทงผู้นี้เห็นอยู่ว่าอายุใกล้เคียงกับตน กลับทำท่าเป็นผู้ใหญ่ และก็ไม่เล่นเป็นเพื่อนตน ไม่สนุกเอาเสียเลย

ขณะที่หลายคนร่วมกันดื่มฉลองกันอยู่นั้น หวังทงกลับถูกหม่าซานเปียวหลอกล่อให้ดื่มไปแก้วหนึ่ง อย่างไรร่างกายก็ยังเป็นเด็ก สุราออกฤทธิ์ก็ทำให้มึนงงไปบ้าง เขาหัวเราะกล่าวว่า

“การรื้อถอนครั้งนี้ไม่ได้รื้อร้านค้า หอเลิศรสเราขยายออกไปอีกสองเท่า รอเลยปีใหม่ ลานฝึกสร้างเสร็จ ผู้คนไปมาบนถนนทักษิณนี้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าน การค้าจะต้องรุ่งกว่าตอนนี้อีกมากแน่นอน เกรงว่าทุกท่านคงไม่ได้มีเวลาว่างพักผ่อนกันแล้ว แต่ความร่ำรวยก็มารออยู่ตรงหน้าแล้วเช่นกัน”

การกล่าวคำอวยพรในงานเลี้ยงปลายปีของบริษัท ล้วนเป็นคำกล่าวเช่นนี้ หวังทงพูดได้คล่อง คนรอบข้างฟังแล้วก็ยินดีปรีดา ยกแก้วขึ้นดื่มฉลองกัน ไม่นานก็จะเข้าสู่ปีที่ห้าแห่งรัชสมัยว่านลี่แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version