Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 607

ตอนที่ 607 ตกดึก

“ทำไมฟันดาบใส่ข้า!?”

คำถามนี้หลี่เฉวียนยังไม่ทันได้เอ่ยออกมา ก็ถูกดาบฟันคอขาด เลือดสาดกระเซ็น ก้าวได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงกับพื้นทันที

เลือดสดๆ ทะลักออกมา ชีวิตก็ย่อมแดดิ้นสิ้นไปในทันที มือหลี่เฉวียนตะกายพื้นไปมาคิดไขว่คว้า สุดท้ายก็นิ่งไม่ขยับ

การจู่โจมกะทันหัน ทำให้หลี่เฉวียนถูกฟันตาย แม้แต่ขันทีที่ไล่ตามมาก็ยังพากันตกตะลึงไม่กล้าก้าวตามมา หากสีหน้าหัวหน้าขันทีผู้นั้นยิ้มสะพรึงขึ้น ยกดาบขึ้นตะโกนเสียงแหลมว่า

“ข้างหน้านั่นเป็นพี่น้องลัทธิเรา คนมากมายเช่นนี้งานนี้ต้องสำเร็จ ไม่มีการใหญ่อันใดทำไม่ได้!!”

เดิมเพราะหลี่เฉวียนตะโกนทำให้ทุกคนอกสั่นขวัญแขวน ยามนี้กลับมีจิตใจฮึกเหิม ที่แท้พวกองครักษ์ก็อยู่ข้างพวกตน แม้ว่าคิดเปลี่ยนใจ เพราะแค่ไม้พลองแหลมในมือจะไปสู่กับองครักษ์ในวังได้อย่างไร เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว มีคนตายอยู่ตรงหน้าให้เห็น ทุกคนก็รู้สึกว่าไม่หากหันหลังกลับได้อีกแล้ว

ในวังเป็นเช่นนี้ไม่ใช่แค่ที่นี่ แต่ไม่ใช่ว่าองครักษ์ทุกที่จะร่วมมือกับพวกขันที หากคุมองครักษ์ทั้งหมดไว้ได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องก่อการวุ่นวายแล้ว เขานั้นคงได้เป็นนายของใต้หล้าไปนานแล้ว

มีขันทีบางพวกเดินมาตามทางเล็กๆ ในวัง บ้างก็ถูกองครักษ์จับตรวจและขวางไว้

พวกองครักษ์ยกดาบจ่อถาม บรรดาขันทีจากลัทธิไตรสุริยันก็ลนลาน บางคนก็ทำเป็นวางท่าทางใหญ่โตเดินเข้าไปจะกระซิบ จากนั้นก็วิ่งหนีไปทันที

องครักษ์ที่วางไว้ใจแต่ละแยกบางแห่งก็มีสองสามคน ป้องกันไม่ไหว พวกขันทีลัทธิไตรสุริยันกรูกันออกมาสู้ตาย บ้างก็กล้าหาญ บ้างก็เป็นดังนกกระจอกกระจัดกระจายไปคนละทิศ

ในวังเกิดเหตุจลาจลเช่นนี้ขึ้น เอะอะโวยวาย เสียงสังหารดังไปทั่วบริเวณ การเคลื่อนไหวเช่นนี้มีคนได้ยินกันแล้ว ในวังแต่ละแห่งล้วนอลหม่านไร้หนทาง ในวังเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน ที่แท้เกิดเรื่องใดกันแน่!?

มีคนหลบอยู่ใต้เตียงตามมุมห้องไม่กล้าออกมา มีคนรีบหนีเอาตัวรอด ไร้แสงไฟมืดมิด มองอันใดก็ไม่เห็น ทำให้สถานการณ์ในวังยิ่งสับสนวุ่นวายไปทั่ว

พวกขันทีที่มีองครักษ์นำทางมาทั้งหมดหกเส้นทาง บางคนหลบการตรวจค้นตามด่านตรวจได้ เดินไปตามทางที่เร้นตา มุ่งไปยังตำหนักพระสนมเจิ้ง

***********

คืนวันที่ 19 เดือนหก หลังฟ้ามืดลง นอกจากคหบดีมีเงินทองที่จะกินเลี้ยงสำราญแล้ว ราษฎรในเมืองหลวงก็ล้วนพักผ่อนกันหมด แต่ละแห่งเงียบลง

มีคนอยู่ในบ้านอยู่ๆ มองเห็นกระดาษบุหน้าต่างเป็นสีแดง หาเสื้อคลุมทับออกมาดู มองไปไกลๆ เห็นไฟไหม้ และไม่ใช่เพียงแห่งเดียว เมืองหลวงทางถนนทักษิณมีบ้านทำจากไม้มากมาย พอเกิดเพลิงไหม้ก็ย่อมลุกลาม แต่ละบ้านก็ทำตามที่เคยทำกันมา ชายหนุ่มมีกำลังก็ล้วนคว้ากะละมังคว้าถึงออกจากบ้าน เตรียมไปดับไฟ

ทุกคนเห็นที่เกิดเพลิงไหม้แล้ว มีคนระบุตำแหน่งได้ กล่าวว่า

“ไม่ใช่ว่าเป็นทางศาลเจ้านั่นหรือ?”

เป็นที่พักของพวกนิรนาม นอกจากเป็นอาคารเรือนเก่าผุพังน้ำรั่วแล้ว ก็เป็นเพียงแค่ขยะเละเทะ เพลิงไหม้ก็ไม่เท่าไร

ทุกคนก็วางใจ เห็นว่าหลายที่ไฟไหม้ ด้านหน้ามีเสียงร้องร่ำไห้หวีดร้องดังขึ้น เกิดเหตุใดกัน ราษฎรถนนทักษิณค่อยๆ เริ่มหวาดกลัวขึ้นแล้ว

ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าวิ่งมา ทุกคนก็หันไปมองอย่างตกตะลึง อาศัยแสงเพลิงมองเห็นได้คนทางการขี่ม้ามาสองสามนาย คนบนม้าตะโกนดังว่า

“มีคำสั่ง ให้อยู่ในบ้านห้ามออกมา ทุกคนกลับเข้าบ้าน ไม่เช่นนั้นจะมีโทษขังคุกทันที!!!”

ได้ยินทางการตะโกนดังเช่นนี้ ทุกคนแม้ว่าจิตใจหวาดกลัว หากก็ยังรีบกลับเข้าไปในบ้านกันหมด พอกลับไปหมด พวกที่ใจกล้าและอยากรู้ก็มาแอบมองลอดช่องประตูออกมา

ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายมากัน พร้อมเสียงม้า ยังมีเสียงฝีเท้า เห็นทหารองครักษ์เสื้อแพรและเจ้าหน้าที่ศาลซุ่นเทียนมุ่งไปยังทิศทางเกิดเพลิงไหม้

ดูท่าแล้วเจ้าหน้าที่ทางการไปดับไฟ แต่ไปดับไฟจะเอาอาวุธไปทำไมกัน!

*************

“ใต้เท้าเติ้ง กองคลังอาวุธกับกองคลังเครื่องแบบถูกวางเพลิง!!”

สำนักอาชาหลวงที่อยู่ทางโรงฝึกทางเหนือของเมืองหลวง ขุนพลเติ้งจิ้นแห่งกองกำลังมังกรคืนนี้ไม่ได้พักผ่อน แต่กลับสวมเครื่องแบบพร้อมประจำเวรกลางดึก พอฟ้ามืด ก็ได้ยินเสียงวุ่นวาย ยังไม่ทันได้ออกไปดู ก็มีทหารวิ่งเข้ามารายงาน

“หูฉี! เจ้าส่งนายกองร้อยสองคนไปดับไฟ พวกเจ้า ไปตามคนมาหาข้าให้หมด รอคำสั่งข้า ผู้ใดไม่ฟังคำสั่ง ให้ประหารทันที!!”

รองขุนพลหูฉีรีบไปจัดการตามคำสั่ง ทหารติดตามกระจายกำลังออกไปสี่ทิศ เติ้งจิ้นเดินไปมาในลานด้านหน้าก่อนจะคว้าดาบขึ้นมา ยังไม่ทันได้ทำอันใด ก็ได้ยินเสียงตะโกนสังหารดังมาจากด้านนอก

เติ้งจิ้นตกใจ โดดขึ้นหลังม้า ตะโกนดังว่า

“พี่น้องเรามารวมตัวกัน จุดคบเพลิงรอฟังคำสั่งข้า!!”

เขาตะโกนสั่งการ ทหารที่ยังไม่รู้จะทำเช่นไรก็เริ่มมารวมตัวกัน การจุดคบไฟเป็นเรื่องปกติยามคับขัน ไม่นานก็จุดสว่างไปทั่ว ล้อมรอบอยู่รอบกายเติ้งจิ้น

คืนมืดมิดคนเรามักจะกระวนกระวายได้ง่าย เติ้งจิ้นจุดไฟสว่างโดยรอบ ย่อมมีคนมารวมตัวกันมากขึ้น ทหารแต่ละหน่วยก็เริ่มสงบลง

เติ้งจิ้นคุมสถานการณ์ได้แล้ว ก็มีนายกองธงใหญ่สองนายขี่ม้าเมา ถูกคนรอบๆ ขวางเอาไว้ ราวกับว่าจะร่วงจากหลังม้า วิ่งล้มลุกคลุกคลานมาถึง ทุกคนมองให้ดีก็เห็นว่าตามร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ถึงกับบาดเจ็บแล้ว

โรงฝึกเหนือเป็นพื้นที่สำคัญ จะเกิดเหตุฆ่าฟันได้อย่างไร คิดแล้วทางนั้นเกิดเพลิง ยังมีเหตุสังหารกัน ทหารก็พากันระส่ำระสาย

“ใต้เท้าเติ้ง สองนายทหารจากกองกำลังอู่เซียงฝ่ายขวานำกำลังบุกเข้ามาสังหารในคลังอาวุธ เดิมคิดว่าคนเราจะป้องกันได้ แต่ตอนนี้พวกเขาสังหารพวกเราบุกเข้าไปได้แล้ว!”

“กี่คน?”

“200!!”

“มารดามันสิ 200 คนเข้าไปคลังอาวุธทำไมกัน พี่น้องเรา ตามข้าไปปราบพวกมัน!!”

**************

“ใต้เท้า มีคนวางเพลิง!!”

หน้าตำหนักพระสนมเอกเจิ้ง เฉินต้าเหอบนหลังคาอยู่ๆ ก็ตะโกนดังขึ้น คนในห้องทั้งหมดสะดุ้ง หวังทงกระชากชุดขันทีออก ก้าวเท้าออกไปด้านนอก กล่าวว่า

“ที่ไหนไฟไหม้?”

“อุทยานปัจจิม …โรงฝึกตอนเหนือ……ห้องเครื่อง ……เหมือนว่านอกวังก็ไหม้ด้วย!!”

เฉินต้าเหอมองรอบๆ รายงานตำแหน่งจบ ฮ่องเต้ว่านลี่ก็เสด็จออกมาจากด้านในห้อง มองไปยังนอกกำแพงที่ส่งสีแดงทาบฟ้า ยังมีเสียงต่อสู้ฆ่าฟันดังมาเป็นระยะ สีพระพักตร์ซีดเผือด จากนั้นพระหัตถ์ก็สั่น ตรัสสุรเสียงเข้มว่า

“พวกโจรถึงกับอยู่ในวังๆ เราทำผิดอันใดกัน ถึงกับเกิดเหตุจลาจลล้มล้างในวังได้!!”

“ฝ่าบาทไม่ได้ทรงสิ่งใดผิด เป็นแค่พวกคนฝันกลางวันเท่านั้น!!”

หวังทงตอบเสียงนิ่ง หันไปบอกเจ้าจินเลี่ยงว่า

“เจ้าวิ่งไปบอกรอบๆ ให้ขันทีนางกำนัลในนี้ทุกคนอย่างได้ตกใจไป ให้อยู่ในห้องย่อมไร้อันตราย!!”

เจ้าจินเลี่ยงพยักหน้ารับคำ หันหน้าจะวิ่งออกไป ฮ่องเต้ว่านลี่ด้านหลังเรียกให้หยุดตรัสว่า

“บอกว่าเป็นพระบัญชาเรา!”

เจ้าจินเลี่ยงรีบคำนับรับพระบัญชา มีทหารไปเป็นเพื่อนนายหนึ่ง วิ่งออกไปทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงเขาตะโกนว่า

“ฝ่าบาทมีพระบัญชา ให้อยู่ในห้องห้ามออกมา ไม่เช่นนั้นมีโทษขังคุก!!”

ทุกคนได้ยินเสียงตะโกนเด็กน้อยของเจ้าจินเลี่ยง หากก็รู้สึกคลายกังวลลงมาก ในตอนนี้เองก็ได้ยินเสียงองครักษ์ด้านนอกตะโกนดังมาว่า

“ผู้ใดกัน วังหลวงเขตราชฐาน พวกเจ้าคิด……”

เสียงขาดหายไป มีคนด้านนอกตะโกนอย่างตกใจว่า

“เหล่าซุนเจ้าคิดทำอะไร!!” “มารดามันสิ เหตุใดลงมือกับเสี่ยวโจว……”

จากนั้นก็มีเสียงดาบปะทะกัน เสียงตะโกนสังหารดังมาไม่ขาด ยังได้ยินเสียงฝีเท้ากรูกันล้อมเข้ามา ได้ยินเสียงร้องโหยหวน ทุกคนในลานสีหน้าเคร่งเครียด ด้านนอกเงียบลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มีเสียงคนตะโกนเข้ามาในลานว่า

“ฝ่าบาทอยู่หรือไม่? ปลอดภัยหรือไม่?”

ว่านลี่ส่งสายตาถามหวังทง หวังทงพยักหน้ากระซิบไป ฮ่องเต้ว่านลี่จึงตะโกนดังออกไปด้านนอกว่า

“เราไม่เป็นไร พวกเจ้าอารักขาข้างนอก รอฟ้าสางเราจะมีรางวัลอย่างงาม!!”

“ฝ่าบาทเสด็จเข้าด้านใน ด้านนอกมีพวกกระหม่อม ไม่ต้องทรงเป็นกังวล!”

หวังทงกระซิบ ฮ่องเต้ว่านลี่พยักพระพักตร์ หันพระวรกายเข้าไปด้านใน ด้านนอกเงียบลง มีคนส่งเสียงตะโกนแหลมดังมาว่า

“ฝ่าบาท ฝ่าบาท ตอนนี้ในวังเกิดจลาจลวุ่นวาย พวกกระหม่อมอยากเห็นฝ่าบาทให้สบายใจก่อน ขอฝ่าบาทให้พวกกระหม่อมเข้าเฝ้าด้วยพะยะค่ะ!!”

“ฝ่าบาท ตรัสไปว่าทุกอย่างปลอดภัยดี บอกให้องครักษ์ด้านนอก หากรุกล้ำเข้ามาให้ต้องโทษล่วงเกินฮ่องเต้ประหารทันที!”

ได้ยินหวังทงเตือนสติ ฮ่องเต้ว่านลี่ก็หยุดเดิน ตะโกนออกไปสุรเสียงดัง ด้านนอกเงียบไป มีเสียงเอะอะดังเข้ามาว่า

“ไม่ได้ พวกกระหม่อมต้องได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท ต้องได้เข้าเฝ้า!”

หวังทงกระชับดาบพัวเตาในมือแน่น กล่าวว่า

“ฝ่าบาทเข้าไปด้านใน กล่าวถึงขั้นนี้แล้ว พอแล้ว ประตูดันไว้แล้ว หากปีนเข้ามา ย่อมเป็นโจรชั่ว!!!”

วาจากล่าวจบ ก็ได้ยินเสียงพังประตู ประตูไม้ในวังใช้ไม้หนาทำพร้อมกับตอกด้วยตะปูทองแดงอีกชั้น แน่นหนามาก ด้านในพวกหวังทงยังเอาไม้ยันไว้อีก ไม่มีเครื่องมือทะลายประตูเมืองย่อมไม่อาจเปิดได้

หากในวัง กำแพงวังย่อมไม่สูง หลายคนต่อตัวกันก็ย่อมปีนข้ามมาได้ ด้านนอกมีคนตะโกนดัง

“สังหารมังกร วาสนาอยู่ที่พวกเราแล้ว” “พลังหยางงอกอีกครั้ง เจ้าและข้าย่อมเสวยสุขในวัง……”

ได้ยินเสียงตะโกนเอะอะวุ่นวาย หวังทงกล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า

“จุดไฟกระถางในลานให้หมด! สว่างหน่อยจะได้สังหารง่าย!!”

หลี่หู่โถวกระชับทวนยาวในมือ อีกมือหยิบคบไฟ เดินไปจุดกระถางไฟตามจุดในลานทั้งหมด หวังทงสวมเกราะพร้อมอาวุธขึ้นไปยืนอยู่ขั้นบันไดบนสุด เอ่ยเสียงเย็นเยียบเบาๆ ว่า

“เดรัจฉาน……”

*************

ในวังวุ่นวาย ห้องบรรทมอ๋องลู่ได้ยินชัดเจน แต่ก็หลับไปด้วยนิทานของหลินซูลู่ รอบตำหนักอ๋องลู่เงียบผิดปกติ หลินซูลู่นั่งอยู่บนเก้าอี้เล่าต่อไปไม่หยุดว่า

“ไม่มีบิดามารดา ที่ดินถูกแย่งชิงไป พี่น้องข้าห้าคนเดินทางมาเมืองหลวง……แต่ยามนั้นไร้หนทางมีชีวิต่อ ต่อมาได้ยินคนบอกว่ามีหนทาง……”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version