Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 140

№ 140 ถูกจับตามอง!

“ฟื้นแล้ว”

ระหว่างที่นางพูด ก็หันกลับไปมองแวบหนึ่ง กล่าวว่า “เขารู้สึกผิดโทษตัวเองอยู่ตลอด บอกว่าปกป้องข้าไม่ดี” ถอนหายใจเบาๆ พูดอีกว่า “ไปเถอะ! ลองเข้าไปหาเขาสิ ข้าแนะนำตัวท่านไปคร่าวๆ บ้างแล้ว”

“ได้สิ” กวนสีหลิ่นพยักหน้า ตามนางเดินเข้าไปในห้อง

พอเข้าห้อง ก็เห็นท่านผู้เฒ่านั่งพิงหัวเตียงไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เห็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วจึงขานเรียก “ท่านปู่”

ท่านผู้เฒ่าได้สติกลับมา มองทั้งสองที่เดินเข้ามา สายตาจับจ้องบนร่างกวนสีหลิ่นอย่างเป็นธรรมชาติ แอบพินิจมอง “แม่หนูเฟิ่ง เขาคือ…”

“ข้าน้อยกวนสีหลิ่น คารวะท่านปู่เฟิ่ง” กวนสีหลิ่นคำนับไปด้านหน้า เผยรอยยิ้มขึงขังจริงใจ

“ท่านปู่ เขาเป็นพี่ชายต่างแซ่ที่หลานรู้จัก ปกติหลานเรียกเขาว่าพี่ชายเจ้าค่ะ” เธอออกหน้าดึงแขนท่านปู่ กล่าวว่า “เขาช่วยหลานไว้ไม่น้อย เป็นคนดีมากเจ้าค่ะ”

ท่านผู้เฒ่าพยักหน้า เอ่ยกับกวนสีหลิ่นว่า “ขอบคุณน้องชายที่ดูแลแม่หนูเฟิ่งนะ”

“ท่านปู่เฟิ่งจริงจังไปแล้วขอรับ” กวนสีหลิ่นเกรงใจอยู่บ้าง เขาเคยช่วยเสี่ยวจิ่วเสียที่ไหนกัน? ล้วนเป็นเฟิ่งจิ่วที่ช่วยเหลือเขามากกว่า

“นายท่าน” เหลิ่งซวงด้านนอกเอ่ยเรียก

“เข้ามา” เฟิ่งจิ่วในห้องขานบอก

ท่านผู้เฒ่ามองไปตามเสียง เห็นสาวน้อยชุดดำยกของในมือเดินเข้ามา จึงพินิจมองรอบหนึ่ง ไม่รอให้คิดถี่ถ้วน ก็ได้ยินแม่หนูเฟิ่งข้างกายบอกว่า

“ท่านปู่ นางชื่อเหลิ่งซวง เป็นผู้ติดตามของหลานเจ้าค่ะ”

ในใจท่านผู้เฒ่าตะลึงน้อยๆ ผู้ติดตามรึ? กลิ่นอายทั่วร่างสาวน้อยชุดดำนี้ช่างนิ่งสงบมาก อายุไม่มากแต่วรยุทธ์กลับนับว่าโดดเด่นในหมู่คนรุ่นเดียวกัน ยังมีกวนสีหลิ่นนั่นอีก แม่หนูเฟิ่งไปรู้จักสองคนนี้จากไหนกัน?

แม้ในใจคิดเคลือบแคลง กลับไม่รีบออกปากถาม แต่สังเกตพวกเขาอยู่

เฟิ่งจิ่วยกข้าวต้มเดินไปด้านหน้า เอ่ยว่า “ท่านปู่ ร่างกายท่านถูกวางยากำลังอ่อนแอ ไม่อาจกินของดีๆ นักได้ ดังนั้น จึงให้คนต้มข้าวต้มเปล่ามา ท่านทานเสียหน่อยเถิด!”

“ได้สิ” ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งพยักหน้า ยกรับชามมา “ให้ปู่ทานเองก็พอ”

เห็นท่าทาง กวนสีหลิ่นกล่าวว่า “เสี่ยวจิ่ว พวกเราออกไปก่อนเถอะ ข้าจะไปดูที่ห้องครัวว่าชิงเหนียงต้มยาเสร็จหรือยัง จะได้ยกมาให้ท่านปู่เฟิ่ง” สิ้นสุดคำพูด ก็เดินออกไปพร้อมกับเหลิ่งซวง ก่อนจะปิดประตูห้อง

รอพวกเขาออกไป ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งถึงจะเอ่ยถาม “แม่หนูเฟิ่ง หลานรู้จักพวกเขาได้อย่างไรเล่า?”

“เรื่องมันยาวนัก หลานจะเลือกประเด็นสำคัญมาเล่าให้ท่านปู่ฟังนะเจ้าคะ!” เธอยิ้มๆ มองเขาทานข้าวต้ม พลางเล่าเรื่องราวที่ได้รู้จักกับพวกเขาให้ฟังเสียหน่อย แต่ว่า ที่แตกต่างคือเธอนำเรื่องที่ต่อกรกับฝูงหมาป่าตัวคนเดียวเพื่อช่วยกวนสีหลิ่นมากลับกันซะ

พอเล่าเรื่องจบ ก็เห็นเขาพยักหน้า บอกว่ารอร่างกายฟื้นตัวจะต้องไปขอบคุณเขาดีๆ อย่างแน่นอน เธอจึงยิ้มบอกว่าเป็นคนกันเองไม่ต้องขอบคุณถึงจะยอมเลิกรา

สุดท้าย ก็ให้เขานอนหลับสักพักหลังดื่มยา แต่ เพราะสารพิษตกค้างในร่างกายที่ล้างไม่หมด ประกอบกับยาที่มีฤทธิ์ทำให้ตื่นตัวยังปะปนในเลือดอยู่บ้าง หลังจากนอนลงไปจึงไม่ค่อยสงบใจเท่าไหร่นัก เธอจำต้องใช้เข็มเงินแทงตรงเส้นประสาทที่ทำให้หลับ เขาถึงจะนอนหลับลงดีๆ ได้

ช่วงเย็น กวนสีหลิ่นมาในลานบ้าน

“เสี่ยวจิ่ว ท่านปู่เจ้าตื่นหรือยัง?”

“หลังดื่มยาก็หลับไปแล้ว ทำไมรึ?” เธอมองกวนสีหลิ่นที่มีความเคร่งขรึมอยู่บนใบหน้าบางส่วน สงสัยเล็กน้อย

“มีคนจับตามองพวกเรา” เขาขมวดคิ้วน้อยๆ “แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร”

“หืม? ว่ายังไงนะ?”

เธอเลิกคิ้ว แปลกใจอยู่บ้าง เหมือนว่าช่วงนี้พวกเขาก็ไม่ได้ไปยุแหย่ใครเข้านะ!

…………………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version