Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 147

№ 147 ถิ่นใต้อารักษ์ สำนักพิษโอสถ!

ฟังคำพูดแล้ว เธอก็ยกมุมปากขึ้นน้อยๆ ยิ้มยืนขึ้นมาเดินเข้าใกล้กรงเหล็ก “พูดมา! นางมีกองกำลังเช่นไรอยู่ในมือรึ? บอกสิ่งที่เจ้ารู้มาให้หมด อย่าคิดตุกติก มิเช่นนั้น ผลลัพธ์จะยิ่งแน่นัก”

“เจ้าปล่อยข้าออกไปก่อนซิ! ไม่งั้นก็ฆ่าคนพวกนั้นก่อนค่อยว่ากัน!” เขาถีบคนที่กอดน่องขาอยู่ออกไป ก่อนจะถอยมาทางด้านลูกกรง

สองมือเฟิ่งจิ่วกอดอก คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยสายตาหยอกล้อ “กว่าฤทธิ์ยาพวกเขาจะปลุกเร้าขึ้นมายังต้องผ่านไปอีกสักพัก หากเจ้าคิดจะประวิงเวลา ข้าก็ไม่ถือสาที่จะได้ชมการแสดงดีๆ หรอกนะ”

นังบ้า!

เขาด่าทออยู่ในใจ กลับไม่กล้ายื้อยุดอะไรอีก จึงทำได้เพียงบอกทุกเรื่องที่เขารู้ออกมา…

“สำนักพิษโอสถรึ?”

เธอพึมพำเสียงเบา ในดวงตาที่หลุบลงครึ่งหนึ่งฉายแววเป็นประกาย มุมปากใต้ผ้าคลุมหน้ายกมุมโค้งขี้เล่นขึ้นเล็กน้อย

“รีบปล่อยข้าออกไป! เร็วเข้า… อื้ม!”

เขาแผดเสียงลั่นด้วยความตื่นตระหนก ทว่าน้ำเสียงกลับหยุดลงกะทันหัน ทั้งร่างล้มลงไปอย่างไร้เรี่ยวแรง บุรุษคนอื่นๆ นอกนั้นเห็นท่าทางก็รีบร้อนกระโจนเข้าไป คนหนึ่งดึงกางเกง อีกคนหนึ่งฉีกทึ้งเสื้อผ้า…

นัยน์ตาเฟิ่งจิ่วฉายแววเฉยชา เหลือบไปทางกรงเหล็กนั้นแวบหนึ่ง น้ำเสียงที่ไม่แยแสมีความเย็นเยียบ “ข้าไม่ใจอ่อนกับศัตรูมาแต่ไหนแต่ไร ในเมื่อเจ้าไม่กล้าฆ่าตัวตาย งั้นข้าก็จะช่วยเจ้า ทำให้เจ้าไม่มีแรงขัดขืน อยู่เล่นกับพวกเขาไปเสียดีๆ เถิด!”

สิ้นสุดน้ำเสียง เธอหมุนตัวเดินออกไป ทว่าขณะที่หันตัว ด้านหลังก็มีเสียงหอบหายใจดังมาทีละน้อย…

เมื่อกวนสีหลิ่นที่เฝ้าอยู่นอกเรือนได้ยินเสียงหอบหายใจดังมาจากด้านใน ก็นิ่งงันลงน้อยๆ ดวงตาเผยความสงสัย กำลังจะลองเข้าไปดู กลับเห็นเฟิ่งจิ่วเดินออกมา จึงออกไปรับหน้าทันที

“เสี่ยวจิ่ว จัดการคนพวกนั้นแล้วรึ?”

“อืม จัดการแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!” เธอหรี่ดวงตายิ้มพลางพยักหน้าตอบรับ

“แต่ทำไมข้าได้ยินพวกเขายังมีชีวิต หนำซ้ำยังหอบหายใจอยู่ด้วยเล่า?” เขาฉงนอยู่บ้าง อยากลองเข้าไปดูเสียหน่อย กลับถูกนางลากเดินออกไป

“ไม่ต้องสนใจคนพวกนั้นหรอก ข้ากรอกยาพิษให้พวกเขาแล้ว มีชีวิตอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้แน่ ท่านอยากมีประสบการณ์ต่อสู้จริงมากๆ หน่อยไม่ใช่หรือ? ไปเถิด ข้าจะพาท่านไปที่ที่หนึ่ง” เธอทั้งลากทั้งดันเพื่อดึงเขาออกไปด้านนอก

กวนสีหลิ่นที่ฟังคำพูดนางดวงตาเป็นประกาย รีบถามว่า “เป็นที่กบดานพวกเขารึ? เจ้าเค้นถามมาได้แล้วหรือ?”

“ถูกต้อง เป็นที่กบดานพวกเขา พวกเราไปปิดฉากที่แห่งนั้นภายในคืนนี้เถอะ!” กองกำลังที่ซูรั่วอวิ๋นบ่มเพาะขึ้นมา เวลาคืนเดียว เธอต้องทำลายมันให้สิ้นซาก!

กองกำลังสำนักพิษโอสถเพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี่ที่ผ่านมา ใช้ยาพิษเป็นหลัก หนึ่งในนั้นยังรวมถึงการรับภารกิจลอบสังหาร คนของสำนักพิษโอสถไม่มีใครกล้ายุแหย่เป็นปกติ เพราะต่อให้มีกำลังแข็งแกร่ง จะต่อกรกับพวกที่ชอบใช้ยาพิษ ในเวลาที่พวกเขายังไม่ทันรู้ตัวก็มักจะถูกวางยาจนสิ้นใจกันไป

ดังนั้น ต่อให้มีคนรู้ว่าตำแหน่งที่ตั้งของสำนักพิษโอสถอยู่ที่ไหน ก็ไม่มีใครคิดจะเข้าไปทำลายที่แห่งนั้น แต่กลับกลายเป็นว่า ครั้งนี้พวกเขามายุแหย่เฟิ่งจิ่ว หนำซ้ำ หัวหน้าสำนักยังเป็นซูรั่วอวิ๋นที่มีความแค้นกับเธอ โอกาสแก้แค้นเช่นนี้มากองอยู่ตรงหน้า คงไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ แน่

ในค่ำคืนอันมืดมิดสองเงาร่างพุ่งไปมาอยู่ในป่า ภายใต้รัตติกาล ยังเห็นได้ชัดเจนว่าสองคนนั้นก็คือเฟิ่งจิ่วและกวนสีหลิ่น

ทันใดนั้น กวนสีหลิ่นก็ยื่นมือไปรั้งเฟิ่งจิ่วไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงกดเบาลงว่า “เสี่ยวจิ่ว เจ้าดูนี่สิ” พลางชี้ที่บริเวณป้ายหินท่ามกลางต้นหญ้า

“ถิ่นใต้อารักษ์สำนักพิษโอสถ ผู้บุกรุกต้องถึงฆาต?”

เฟิ่งจิ่วอ่านออกเสียงเบาๆ มุมปากยกขึ้นอย่างนึกสนุก แววตาก็หรี่ลงครึ่งหนึ่ง

…………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version