№ 294 ล้มเหลวครั้งแรก!
เพียงเห็นท้องฟ้าเหนือลานบ้านมีควันไฟตลบอบอวลขึ้น มาพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้แผ่ออกไปกลางอากาศ ผู้คนจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“นั่นเหมือนจะเป็นเรือนที่คุณหนูใหญ่ให้คนเก็บกวาดข้าวของออกมานี่!”
“คุณหนูใหญ่เข้าไปเมื่อเช้า ถึงตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย!”
“สวรรค์! คงจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกกระมัง?”
พอนึกถึงตรงนี้ เหล่าสาวใช้กับทหารอารักขาพากันวิ่งไปยังเรือนหลังนั้นด้วยกลัวว่าคุณหนูใหญ่พวกเขาจะเกิดเรี่องอะไรขึ้นมาจริงๆ
“อะไรกัน? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ผู้เฒ่าเฟิ่งได้ยินเสียงก็วิ่งออกมามองไปรอบๆ เมื่อเห็นด้านบนเรือนหลังหนึ่งมีควันไหม้พวยพุ่ง ก็ตกใจอย่างยิ่ง “ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านผู้เฒ่า ตรงนั้นเป็นเรือนที่คุณหนูใหญ่ให้คนไปเก็บกวาด เมื่อเช้าคุณหนูเข้าไปถึงตอนนี้ยังไม่ออกมา เสียงดังครู่ก่อนลอยมาจากด้านในเรือนคล้ายมีอะไรระเบิด”
พ่อบ้านที่วิ่งเข้ามาบอกอย่างร้อนรน เพิ่งพูดจบไปก็เห็นมือหนี่งท่านผู้เฒ่ายกเสื้อคลุมวิ่งไปยังเรือนหลังนั้นรวดเร็วราวโบยบิน เห็นท่าทางเขานิ่งอึ้งสักพักก่อนจะเร่งรีบตามไป
เมื่อทุกคนมาถึงเรือนกันอย่างลนลาน ขณะมองผ่านประตูเรือนไปเห็นภาพด้านในก็มึนงงโดยฉับพลัน
เพียงเห็นคุณหนูใหญ่ผู้งามเลิศน่าหลงใหลยามนี้ทรุดนั่งลงบนพื้นทั้งเนื้อตัวดำสนิทสกปรกมอมแมม เสื้อผ้าบนตัวที่นางสวมใส่อยู่ภายในจวนยิ่งมองสีเดิมไม่ออก บนผมสีหมึกถูกสาดเต็มไปด้วยเศษกากยาแตกสีดำ ราวกับเป็นเพราะสัมผัสกับความร้อนบริเวณปลายผมจึงไหม้ม้วนขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้ากระดำกระด่าง นั่งไออยู่บนพื้นดูแล้วน่าอับอายไม่สิ้นสุด และห้องตรงหน้าก็มีควันไฟพวยพุ่งเป็นกองๆ
นี่ นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?
ทุกคนมองอย่างนิ่งอึ้ง มีคนได้สติกลับมาก่อนจึงตะโกนว่า “คุณหนูใหญ่ ท่านไม่เป็นอะไรนะขอรับ?”
“แค่กๆ แค่กๆๆ…”
เฟิ่งจิ่วที่โดนดีดออกมาทรุดนั่งอยู่บนพื้น มือหนึ่งปัดไล่ควันไฟที่พรั่งพรูออกมาจากห้องตรงหน้าอีกข้างปิดจมูกไอ
พอค่อยยังชั่วถึงจะลุกยืนขึ้นหันกลับไปมองคนไม่น้อยที่ล้อมอยู่นอกเรือนแล้วโบกๆ มือไปให้
“ข้าไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องมุงอยู่ตรงนั้น จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ”
หลังเอ่ยคำพูดนี้จบ เธอเดินไปทางห้องยาที่มีควันพวยพุ่ง กลั่นยาเซียนครั้งแรกฝาเตาก็ระเบิดออกทันที กระแสพลังในเตายาล้วนกระเซ็นออกมาพร้อมยาทิพย์สิบกว่าอย่างที่ใช้
แม้แต่ตนเองยังหลบไม่ทันถูกกระแสพลังดีดออกมาเสียจนเนื้อตัวเลอะเทอะยุ่งเหยิง
เปิดหน้าต่างให้ควันจางไป เมื่อเห็นกากยากระจัดกระจายทั่วพื้นเธอก็ทำหน้าเสียดาย
“สิ้นเปลืองเหลือเกิน จะไปซื้อก็ต้องใช้เงินไม่น้อยเลย”
“แม่หนูเฟิ่ง? แม่หนูเฟิ่งหลานไม่เป็นไรนะ?”
ท่านผู้เฒ่าที่รีบมาจากด้านนอกเข้าเรือนมายังห้องยา พ่อบ้านเฝ้าอยู่บริเวณประตูเรือน ส่วนคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไป
หันกลับมาเห็นว่าเป็นเขา เธอก็เช็ดๆ จมูก กล่าวอย่างยิ้มๆ ว่า
“ท่านปู่ หลานไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่เสียยาดีไปหนึ่งเตา”
“คนไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นซ้ำยังมีควันปะทุนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไร”
ผู้เฒ่าเห็นนางไม่เป็นไรแค่ตัวมอมแมมนิดหน่อยถึงจะวางใจลงได้ เมื่อเห็นข้าวของรกรุงรังในห้อง รวมถึงเตากลั่นยาเซียนใบนั้น ก็เอ่ยถามอย่างตกใจเล็กน้อย
“นี่หลาน… กลั่นยาเซียนรึ?”
“ข้ากำลังศึกษาอยู่เจ้าค่ะ! นี่ไม่ใช่ เตานี้เสียไปแล้ว” เธอยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“บนกระดาษเขียนบอกไว้ง่ายดาย พอทำจริงถึงรู้ว่ายากลำบากยิ่งนัก”
ผู้เฒ่าเฟิ่งกดความตื่นตระหนกในใจไว้ก่อนจะเอ่ยด้วยความรักใคร่
“อย่าเพิ่งท้อแท้ ปู่เชื่อว่าหลานต้องทำได้แน่”
……………………