№ 295 ฮึกเหิมขึ้นแล้ว!
“เจ้าค่ะ หลานทำได้แน่นอน”
เธอส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ บอกว่า “แต่ท่านปู่ เรือนหลังนี้หลานไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา ทีหลังท่านกำชับคนเบื้องล่างเสียหน่อย ท่านพ่อก็อย่าให้เข้ามาเช่นกันจะดีที่สุด”
“ฮ่าๆ ได้สิ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา พ่อหลานจูงเหล่าไป๋ออกไปวิ่งรอบๆ ตอนนี้ไม่อยู่ในจวน หากให้เดาเช้าคงแจ้นเข้ามา” เขายิ้มๆ มองห้องยาที่รกรุงรัง ถามว่า “จะให้หาคนเข้ามาช่วยหลานไหม?”
“รอเหลิ่งซวงกลับมาค่อยให้นางเข้ามาก็ได้เจ้าค่ะ”
“งั้นก็ดี! หลานก็ระวังตัวหน่อย อย่าบาดเจ็บเป็นพอ” เขากำชับอย่างไม่วางใจ
“เจ้าค่ะ ข้าจะทำ” หัวใจเธออบอุ่น หลังส่งเขาออกไปก็กลับมาห้องยาเพื่อจัดการต้นเหตุของความล้มเหลวก่อนหน้านี้ใหม่เสียหน่อย
ผ่านไปเนิ่นนานเฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่หน้าเตากลั่นยารวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างจุดเปลวไฟขึ้นด้านล่างเตา หลังเปลวไฟแห่งชีวิตลอยไฟผุดขึ้นใต้เตาก็ดึงมือกลับ ควบคุมความแรงเบาของเปลวไฟพลางสังเกตอุณหภูมิเตากลั่น
เตาที่หนึ่งแรกๆ ก็เห็นชัดว่ายังดีๆ อยู่ จนถึงตอนกลั่นยาช่วงท้ายถึงจะเกิดปัญหา คงเป็นเพราะแรงไฟกับพลังวิญญาณควบคุมได้ไม่ค่อยดี
มีความล้มเหลวครั้งแรก เตานี้เธอจึงวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยไม่กล้าชะล่าใจ แต่ประมาณสองชั่วยามให้หลัง เตากลั่นกำลังสั่นไหว เธอเห็นแล้วอึ้งเล็กน้อย เวลาต่อมาค่อยสับขาวิ่งออกไป
“ตู้ม!”
ควันไฟกระจายขึ้นจากในเรือนอีกครั้ง ครั้งนี้ผู้คนภายในจวนแค่นิ่งไปพักหนึ่งก็ทำธุระของตนต่อไป เพราะท่านผู้เฒ่าสั่งไว้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเรื่องเรือนหลังนั้นของคุณหนูใหญ่และไม่ต้องไปดู
ทว่าพวกเขายังคงสงสัยอยู่บ้างว่าคุณหนูใหญ่ทำอะไรอยู่ด้านในนั้นกันแน่? ทำไมถึงมีเสียงระเบิดอีก?
ส่วนทางห้องยาด้านนั้น ยามนี้เฟิ่งจิ่วฮึกเหิมขึ้นจริงๆ ผ่อนคลายอยู่ในสวนสักพัก หลังเห็นควันไฟสลายไปก็เดินเข้าไปอีกครั้ง รอบนี้แม้แต่เตากลั่นยายังล้มลงมา
เห็นเช่นนี้ มุมปากเธอกระตุกน้อยๆ โชคดีที่ข้าวของพวกนื้ที่ฉวยมาจากเจ้าตำหนักยมราชในตอนนั้นเป็นของชั้นดี ไม่งั้นเหวี่ยงตกลงมาเช่นนี้เดาว่าคงโยนทิ้งไปนานแล้ว
ความพยายามครานี้ยาวมาถึงช่วงเย็น เวลาผ่านไปทั้งวันก็ไม่สามารถกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะได้สำเร็จ หนำซ้ำยังสิ้นเปลืองยาทิพย์ไปมากมาย ทำให้ข้าวของในห้วงมิติไม่ค่อยพอใช้
เมื่อเหลิ่งซวงที่เพิ่งกลับมาจวนได้ยินเสียงดังสนั่นฝีเท้าก็ชะงักเล็กน้อย เห็นทหารอารักขาและสาวใช้ในจวนล้วนมีท่าทางใจเย็นอย่างที่เห็นปกติ มองไปทางเรือนหลังนั้นที่ค่อนข้างห่างไกล แอบคิดว่า ‘นายท่านคงกำลังกลั่นยาเซียนอยู่กระมัง?’
มาถึงด้านนอกเรือนเห็นนายท่าน เห็นนายท่านสำลักควันกำลังโน้มโค้งเอวสองแขนยันค้ำหน้าหน้าแข้งไออยู่ตรงนั้น ก่อนจะขานเรียก “นายท่าน ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” วันนี้ออกไปที่ตลาดมืด เพราะมีเรื่องมาขวางไว้ตอนนี้ถึงเพิ่งกลับมา
“เหลิ่งซวง? เจ้ากลับมาพอดีเลย”
เธอเดินหน้ามายังบริเวณประตูเรือน แล้วล้วงใบสั่งยากับป้ายผลึกออกมายื่นให้ “ไปตลาดมืดนำยาทิพย์ในนี้มาให้ข้าอย่างละยี่สิบชุด หญ้าแดงที่อยู่ด้านบนสุดต้องการสามสิบชุด ในนี้มีเงินอยู่เอาไปซื้อซะ”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงไม่ถามอะไรมาก หลังรับมาก็ไปยังตลาดมืดอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว
สิ่งที่ใครๆ นึกไม่ถึงคือการกลั่นยาครั้งนี้เธอยิ่งฮึกเหิมขึ้น การล้มเหลวแต่ละครั้งกลับต้องทำใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่มีย่อท้อ มีเพียงความหมั่นเพียร ในใจเพียงคิดว่าไม่เชื่อว่าจะกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะชั้นดีออกมาไม่ได้!
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงอยู่ในห้องกลั่นยาเต็มๆ สามวันสามคืน…
…………………………………………