№ 339 ข่าวคราวของภูตหมอ
อิ่งอีเงยหน้ามองฮุยหลางอย่างอึ้งตะลึง “เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ”
ฮุยหลางถือเอกสารในมืออย่างตื่นเต้นดีใจ หัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆๆ! ดีเหลือเกิน! ที่แท้ภูตหมอเป็นหญิง! เช่นนี้นายท่านก็ปกติ และอีกหน่อยพวกเราก็จะได้มีนายหญิงแล้ว ฮ่าๆๆๆ…เอ๊ะ!”
เสียงหัวเราะเขาหยุดลง เขามองอิ่งอีทั้งดวงตาเบิกกว้าง “เจ้าแย่แล้ว ไม่นึกว่าเจ้าจะภาพเหมือนภูตหมอเปียกเสียได้”
อิ่งอีนิ่งไปสักพัก มองภาพเหมือนที่โดนน้ำชาซึ่งเขาสำลักออกมาจนเปียกชื้น และนึกถึงคำพูดที่นายท่านกำชับไว้หลายรอบว่าภาพนี้ต้องส่งกลับไป หนังศีรษะก็อดชาวาบขึ้นมาไม่ได้
“ข้าขอดูข้อมูลหน่อย”
อิ่งอีแย่งเอกสารในมือฮุยหลางมาดู ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกแปลกใจ “ภูตหมอไม่เพียงเป็นหญิง ซ้ำยังเป็นคนจากแคว้นเล็กระดับเก้า? นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าสถานที่เช่นนั้นจะมีคนอย่างนางอยู่ด้วย”
“ฮี่ๆ ไม่ว่าเขาเป็นคนแคว้นใด อย่างไรเสียหากเป็นเช่นนี้ ภายหน้ายามนายท่านพาภูตหมอมาต่อหน้าผู้คนแล้วไม่โดนครหาว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อก็พอ จริงด้วย เจ้าว่าเรื่องที่ภูตหมอเป็นหญิง นายท่านจะรู้อยู่ก่อนแล้วหรือไม่?”
เขาพลันคิดขึ้นได้ว่านายท่านอาจจะรู้เรื่องนี้นานแล้ว
“เป็นไปได้”
อิ่งอีพยักหน้า นึกถึงความรักแบบเปิดเผยที่นายท่านมีต่อภูตหมอ นายท่านต้องรู้เรื่องที่นางเป็นหญิงอยู่ก่อนแล้วแน่ มิเช่นนั้นต่อให้ไม่กลัวสายตาคนอื่นยังไง ก็ไม่อาจปล่อยให้ใครๆ หาว่าเขาเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันหรอกกระมัง?
นึกถึงตรงนี้ เขาลูบๆ คาง ดูเหมือนคนที่บอกว่านายท่านชอบผู้ชายด้วยกันก็มีแค่เขากับฮุยหลางสองคน…
ขณะกำลังคิดอยู่ก็เห็นฮุยหลางเก็บเอกสารและภาพเหมือนที่โดนน้ำชาสาดจนเปียก ก่อนเร่งฝีเท้าเดินออกไป
“ข้าจะไปรายงานเบาะแสภูตหมอให้นายท่าน” ฮุยหลางฉีกยิ้ม ยกภาพเหมือนในมือขึ้นมา ยิ้มอย่างมีเจตนาร้าย “และถือโอกาสบอกเรื่องภาพเหมือนนี้กับนายท่านด้วยเลย” กล่าวจบก็ปรี่ออกไปนอกเรือนทันที
“เจ้าหมาป่าตาขาวนี่!”
อิ่งอีสบถเสียงเบาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วรีบเร่งลุกขึ้นไล่ตามไป
ภายในห้อง เจ้าตำหนักยมราชที่นั่งจัดการธุระต่างๆ อยู่หน้าโต๊ะหนังสือสวมชุดคลุมสีดำลายมังกรดำ หลังจากยุ่งวุ่นอยู่พักหนึ่งก็วางพู่กันที่ใช้ตรวจงานลง ยกน้ำชาด้านข้างขึ้นมาจิบ
“นายท่าน!”
“เข้ามา”
ฮุยหลางที่อยู่นอกห้องได้ยินเสียงดังมาจากด้านใน จึงค่อยผลักประตูห้องเดินเข้าไป ฉีกยิ้มเร่งฝีเท้ามายังหน้าโต๊ะหนังสือพลางพูดด้วยความดีอกดีใจว่า “นายท่าน มีข่าวของภูตหมอมาแล้วขอรับ” ระหว่างพูดเขาก็ยื่นเอกสารไปข้างหน้าพร้อมกับภาพเหมือนที่เปียกน้ำชา
เมื่อเห็นนายท่านขมวดคิ้วจ้องภาพเหมือนนั้น ฮุยหลางก็กล่าวอย่างไร้จิตสำนึกยิ่ง “อิ่งอีดื่มชาไม่ค่อยระวัง จึงสำลักน้ำชารดลงบนภาพเหมือนขอรับ”
อิ่งอีที่รีบร้อนเข้ามาได้ยินคำพูดนี้พอดี เขามองฮุยหลางตาเขียวปัด ก่อนจะคุกเข่าลงข้างเดียวรับความผิด “เป็นความผิดข้าน้อยทั้งหมด ขอนายท่านโปรดลงโทษด้วย”
เจ้าตำหนักยมราชชำเลืองมองพวกเขาสองคน พลิกอ่านเอกสารในมือโดยไม่พูดอะไร ยิ่งอ่านยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออ่านถึงเรื่องการหมั้นหมายของนางกับชายชื่อมู่หรงอี้เซวียนที่บอกไว้บนนั้น สีหน้าก็ยิ่งมืดทะมึน
จนกระทั่งอ่านถึงหน้าสุดท้าย เห็นข่าวล่าสุดบอกว่าการหมั้นหมายของทั้งสองถูกยกเลิก คิ้วที่ขมวดกันแน่นถึงจะคลายออก ใบหน้าหล่อเหลาองอาจเผยรอยยิ้มบางๆ ที่ยากจะสังเกตพบ เห็นได้ชัดว่าเขาพอใจข่าวนี้มาก
ฮุยหลางสังเกตสีหน้าเขาพลางพูดอย่างระมัดระวัง “นายท่าน แคว้นแสงสุริยันนั้นอยู่ห่างไกลจากพวกเรา จึงยังไม่ได้ข่าวคราวในช่วงนี้มา แต่รู้เบาะแสที่อยู่ของภูตหมอแล้ว นายท่านจะลองไปดูหรือไม่ขอรับ?”
……………………………….