Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 436

№ 436 ไม่เข้าใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ

ผู้หญิงน่ารังเกียจคนนี้!

ในใจเขามีเปลวไฟไร้นามผุดขึ้นมา รู้ว่าตนเองคิดมากไป ผู้หญิงที่ไม่เข้าใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ คนนี้ จะพุ่งเข้ามาในอ้อมกอดเขาอย่างหน้าระรื่นเพราะเขาช่วยนางระบายอารมณ์ แล้วโอบเอวแหงนหน้ามองเขาในอ้อมแขนได้อย่างไร?

หญิงผู้นี้! นอกจากจะไม่เข้าใจความรู้สึกเขา ยังน่ารังเกียจเช่นนี้อีก!

เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงถูกใจนาง? ซ้ำยังรีบเดินทางมาไกลหลายพันลี้เพื่อนางเป็นพิเศษ แต่พอมาถึงที่นี่ ตอนแรกที่พบหน้าก็แสร้งทำเป็นไม่รู้จัก ตอนนี้ยังเมินเฉยใส่ ทิ้งเขาไว้ตรงนี้ส่วนตนเองกลับเข้าจวน!

ยิ่งคิดยิ่งโมโห ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกขุ่นเคือง!

ฮุยหลางกับอิ่งอีที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นไอหนาวเหน็บบนร่างนายท่านยิ่งเย็นเยือก เย็นเสียจนพวกเขาอดไม่ได้ที่จะลูบๆ แขนพลางก้าวถอยหลังไป

ทั้งสองล้วนเห็นสีหน้าและการกระทำของนายท่านเมื่อครู่ รวมถึงท่าทางยามภูตหมอหมุนตัวเร่งฝีเท้ากลับเข้าจวนตระกูลเฟิ่งไปโดยไม่แม้แต่จะมองนายท่าน ในใจจึงแอบทอดถอนใจ

ในด้านความรัก ใครหวั่นไหวก่อนคนนั้นพ่ายแพ้

ชัดเจนว่านายท่านของพวกเขาเป็นฝ่ายหวั่นไหวก่อน ส่วนภูตหมอน่ะหรือ! ดูท่าทางแล้วไม่เคยเก็บนายท่านมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ หนทางไล่ตามว่าที่ภรรยาของนายท่าน จิ๊ๆ พวกเขาเห็นแล้วยังเหงื่อตกแทน รู้สึกว่าช่างห่างไกลไม่รู้จุดจบ

“เจ้าเข้าไปสิ” อิ่งอีใช้ศอกกระทุ้งฮุยหลางข้างๆ สื่อให้เขาเข้าไป

ฮุยหลางถลึงตามอง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แล้วทำไมเจ้าไม่ไป? ผู้รอบรู้ล้วนเห็นได้ว่านายท่านอารมณ์ไม่ดี เจ้าอยากให้ข้าเข้าไปโดนซัดหรือ”

เห็นเช่นนี้ อิ่งอีชายตามองสหาย แอบคิดว่า ‘เจ้าหมาป่าตาขาวตัวนี้ฉลาดนัก’

เขากระแอมเบาๆ กดเสียงลงพูดว่า “ครั้งนี้นายท่านอารมณ์ไม่ดี เพราะภูตหมอเข้าจวนแล้วลืมเรียกนายท่าน เจ้าเข้าไปบอกนายท่าน ภายในจวนอาจจะเกิดเรื่อง มิเช่นนั้นท่าทางของภูตหมอคงไม่ลนลานเช่นนั้น แบบนี้นายท่านจะซัดเจ้าได้อย่างไร”

ได้ยินเช่นนี้ฮุยหลางก็คิดสักพัก ลูบๆ คาง เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง “อืม เหมือนจะมีเหตุผลอยู่”

ดังนั้น ท่ามกลางสายตาให้กำลังใจจากอิ่งอี ฮุยหลางจึงฝืนใจเดินเข้าไปข้างกายเจ้าตำหนักยมราช “นายท่าน พวกเราจะไม่เข้าไปหรือขอรับ ดูจากท่าทางคุณหนูใหญ่เฟิ่งเมื่อครู่ เกรงว่าคงเกิดเรื่องภายในจวน”

เจ้าตำหนักยมราชหันหน้ามาชายตามองเขา เม้มริมฝีปากไม่พูดไม่จา ยังฟังคำพูดเข้าหัว ทว่าในใจยังไม่สบายเพราะถูกนางลืมไว้ตรงนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแค่นเสียงเย็น “ข้าเหนื่อยแล้ว”

ฮุยหลางอึ้งไปนิด หมายความว่ายังไง? จะไม่เข้าไปดูหน่อยหรือ? เขากำลังคิดว่าจะแนะนำให้นายท่านเข้าไปพักในจวนตระกูลเฟิ่งดีหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงอิ่งอีลอยมา

“ในเมื่อนายท่านเหนื่อยแล้ว ก็ไปพักในจวนตระกูลเฟิ่งชั่วคราวดีกว่าขอรับ”

ฮุยหลางเพ่งมองไปทางอิ่งอีที่ทำหน้าเคารพ คิดว่าคนคนนี้มักเลือกทำแต่เรื่องไม่เปลืองแรง ก็ใช่ หากสังเกตสีหน้าและคำพูดคนไม่เป็น จะนั่งบนตำแหน่งสูงสุดอันดับหนึ่งขององครักษ์เงาได้อย่างไร ซ้ำยังติดตามข้างกายนายท่านมาหลายปีอีก?

เช่นนี้เอง ภายใต้คำแนะนำทั้งสองคน เจ้าตำหนักยมราชมีสีหน้าเคร่งขรึม เม้มปากพลางเอามือไพล่หลังสาวก้าวเดินไปด้านในจวนตระกูลเฟิ่ง

องครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูจวนไม่ได้ขัดขวาง เพราะดูท่าทางคนผู้นี้จะคุ้นเคยกับนายท่านพวกตนนัก ในเมื่อไม่ใช่ศัตรูก็เป็นแขกของพวกเขา

เมื่อเฟิ่งจิ่วกับพวกเจ้าตำหนักยมราชเข้าไปในจวน องครักษ์ด้านนอกก็เก็บกวาดพื้นที่หลังการต่อสู้อย่างว่องไว แล้วสั่งคนขนสมบัติสิบกล่องนั้นเข้าจวนไป ทั้งหมดเป็นรางวัลจากการต่อสู้ครั้งนี้

เจ้าตำหนักยมราชที่เข้าจวนตระกูลเฟิ่งมาหยุดฝีเท้าลง หลังมองไปรอบๆ ก็เอ่ยเสียงเข้มว่า “เรือนนางอยู่ที่ไหน?”

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version