№ 502 เจ้าก็ยอมตามนางเถอะ
ผ่านไปเนิ่นนานผู้เฒ่าเฟิ่งที่ใจเย็นลงก็พูดพึมพำว่า “จะวางใจได้อย่างไร? การดูแลแคว้นๆ หนึ่งเป็นเรื่องที่พูดง่ายเพียงนั้นเชียวหรือ? ผู้ใหญ่เจ้าน้ำตาอย่างเฟิ่งเซียวเป็นแค่แม่ทัพคนหนึ่ง หากต้องคิดแผนการหรือใช้กลยุทธ์เขายังทำไม่เป็นเลย ยามนี้กลายเป็นผู้ครองแคว้นเกรงว่าแคว้นรอบๆ คงอยู่ไม่นิ่ง ไม่ได้ๆ ข้าต้องรีบกลับไป ไม่กลับไปข้าก็ไม่วางใจหรอก!”
“เมื่อครู่เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ? ยามนี้กำลังลูกชายแกร่งกว่าเจ้า เขากลายเป็นจักรพรรดินักรบ หนำซ้ำคืนนั้นที่บรรลุขั้นยังมีคำอวยพรจากสวรรค์ ตำแหน่งผู้ครองแคว้นนี้เขานั่งได้อย่างมั่นคง เจ้าไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะทำให้ตำแหน่งเขาสั่นคลอน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้แข็งแกร่งคนนั้นอยู่ แคว้นเล็กรอบๆ พวกนั้นไม่กล้าโจมตีราชวงศ์เฟิ่งหวงเจ้าหรอก”
หลินป๋อเหิงพูดจบ ก็กล่าวต่อไปว่า “ตามข่าวที่ส่งกลับมา ในความคิดข้าลูกชายกับหลานสาวเจ้าไม่ได้ไร้ประโยชน์เพียงนั้นอย่างเจ้าว่า คนของข้าบอกว่าราชวงศ์เฟิ่งหวงยามนี้มั่นคงในทุกๆ ด้าน หลังจากรู้เรื่องแคว้นเล็กๆ รอบข้างก็ส่งคนเข้าไปมอบของขวัญแสดงความยินดี สามารถสร้างความมั่นคงทั้งภายในและนอกในเวลาสั้นๆ เช่นนี้ได้ นอกจากความสามารถของลูกชายกับหลานสาวเจ้า ก็เป็นเพราะพวกเจ้ามีผู้แข็งแกร่งไม่น้อยคอยพิทักษ์”
“บอกว่ายังมีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีกสี่คนไม่ใช่หรือ? ในแคว้นเล็กระดับเก้ามีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังถึงสี่คนกองทัพทั่วไปไม่อาจต้านทานเทียบได้แน่นอน ดังนั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถอะ! อย่าคิดจะไปเลย ข้าเพิ่งได้ยินตอนซู่ซีออกไปยังกำชับข้าว่าจะปล่อยเจ้าแอบหนีไปไม่ได้ ข้าเป็นพี่ใหญ่จะทำให้นางผิดหวังไม่ได้แน่”
“พี่ใหญ่ งั้นท่านทนให้ข้าผิดหวังได้หรือ?” ผู้เฒ่าเฟิ่งอยากจะร้องไห้กลับไม่มีน้ำตา เดิมคิดจะสบโอกาสนี้กลับไป ใครจะรู้ว่าราชวงศ์เฟิ่งหวงจะมั่นคงสงบสุข และไม่ต้องการให้คนแก่อย่างเขาช่วยออกนั่งบัญชาการ พวกเขายังคิดจะให้เขาอยู่ที่นี่ ยังมีซู่ซีคนนั้นอีก แค่ลองคิดเขาก็ด้านชาไปทั้งหนังศีรษะแล้ว
“ข้าเป็นแค่ตาเฒ่าคนหนึ่ง ไม่คู่ควรกับซู่ซีจริงๆ พี่ใหญ่ ท่านชี้แนะนางหน่อยเถอะ!” ในเมืองอวิ๋นเยวี่ยเขาเดินได้อย่างอกผายไหล่ผึ่ง แต่มาถึงที่นี่กำลังแค่นั้นกลับไม่มากพอให้พวกเขาเชยชม ทำให้เขาแม้อยากจะหนียังไม่มีโอกาส
คิดๆ แล้วก็น่าวิตก หากซู่ซีกลัวเขาแอบหนีไปจนต้องมาคุมตัวเขาไปกราบไหว้ฟ้าดินเพื่อแต่งงานจะทำยังไง? แค่คิดเขาก็เหงื่อออกท่วม มือเท้าสั่นเทิ้ม
“อืม ข้าก็บอกว่าเจ้าเป็นแค่ตาเฒ่าคนหนึ่ง ดูแล้วยังแก่กว่าข้า แต่ใครใช้ให้นางดื้อรั้นนักเล่า? ที่ควรแนะนำก็พูดไปหมดแล้ว ในเมื่อชี้แนะนางไม่ได้ดังนั้นพี่ใหญ่อย่างข้าจึงอยากแนะนำเจ้าเสียหน่อย ยากนักที่ซู่ซีจะจริงใจกับเจ้า งั้นเจ้าก็ยอมตามนางไปเถอะ!”
พูดถึงเขา แม้แต่ตนเองยังหัวเราะขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เอาเถอะ! เขาก็คิดว่าสองคนนี้มองยังไงก็แปลกอย่างงั้น ไม่เหมาะสมกันเท่าไหร่จริงๆ แต่บนโลกใบนี้ก็ไม่เคยได้ยินว่ามียาอายุวัฒนะหรือยาอะไรที่ทำให้คนกลับมาหนุ่มสาวได้? ไม่งั้นเขาก็ช่วยซานหยวนหามาได้ เช่นนี้เดาว่าในใจเขาคงรู้สึกดีขึ้นบ้าง
“พี่ใหญ่!”
ผู้เฒ่าเฟิ่งหมดคำพูด ทนกับการล้อเล่นของเขาไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้ไม่ตลกแต่น่าขายหน้าเกินไป เขาไม่มีหน้าจะสู้จริงๆ
ในเมื่อแบบนี้ไม่ได้ผล งั้นค่อยลองคิดหาวิธีอื่นก็ได้ เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะหนีออกไปจากตระกูลหลินนี้ไม่ได้จริงๆ
ในใจคิดวางแผน ใบหน้ากลับไม่แสดงออกสักนิด เขามองหลินป๋อเหิงที่นั่งดื่มชาอยู่ตรงข้าม ในดวงตาเฉลียวฉลาดฉายประกายผ่าน ถามว่า “พี่ใหญ่ ข้ามาที่นี่ได้ระยะหนึ่ง คงจะออกไปเดินเล่นได้แล้วกระมัง?”