№ 610 ประโยชน์มากมาย
“นะ…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ผู้ครองแคว้นท่านหนึ่งลุกขึ้นมาด้วยความโมโห มองลูกชายที่เข้ามาอย่างโกรธเคือง
จะพาลูกชายมาราชวงศ์เฟิ่งหวงนี้ได้ ต้องเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ลูกชายทั้งหลาย เดิมอยากให้ทุกคนเห็นบุคลิกท่าทางและความสง่างามของลูกชายเขาเสียหน่อย ใครจะนึกว่ากลับเห็นเขาจมูกช้ำหน้าบวมเข้ามาอย่างหลบๆ ซ่อนๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้ากันแน่ ภายในพระราชวังราชวงศ์เฟิ่งซวงนี้มีคนกล้าทำร้ายพวกเจ้าหรือ?” ผู้ครองแคว้นอีกคนเอ่ยเสียงเข้ม แรงกดดันทั่วร่างกระจายออกมา ทั่วท้องพระโรงต่างรู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียด
หลังจากได้ยินคำพูดที่ผู้ครองแคว้นท่านนั้นเอ่ยออกมา คนอื่นๆ ก็ไม่ปริปากอีก พวกเขาเพียงมองลูกชายที่จมูกช้ำหน้าบวมพลางเก็บกดความโกรธในใจไว้ ช่างน่าขายหน้าพวกเขาจริงๆ
มีเพียงผู้ครองแคว้นท่านอื่นที่สีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากแววตาน่าเกรงขามมองผ่านแปดคนนั้น ก็ยกน้ำชาขึ้นจิบต่อเบาๆ
พวกเขาไม่ต้องสนใจ คนที่เสียหน้าไม่ใช่ลูกชายของพวกเขา
อืม พอเปรียบเทียบและมองเช่นนี้ องค์ชายแคว้นอื่นๆ ก็แค่นี้เอง
องค์ชายพวกนั้นที่นั่งอยู่ด้านหลังเสด็จพ่อพวกตน ยามนี้ในดวงตาเผยความแปลกใจ มาถึงวังไม่กี่วัน คนพวกนี้พวกเขาก็ไม่เคยพบหน้า แค่รังเกียจที่จะคบหากับพวกเขา
ไม่นึกว่าวันนี้จะเห็นพวกเขาแต่ละคนปรากฏตัวทั้งจมูกช้ำหน้าบวม น่าสงสัยจริงๆ ว่าพวกเขาบาดเจ็บไปทั้งหน้าเช่นนี้ได้อย่างไร? จะน่าเกลียดเกินไปแล้ว
ยามนี้องค์ชายแปดคนที่เดินเข้ามาต่างอึดอัดในใจ ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าอายหรือเจ็บกันแน่
พวกเขาได้ยินว่าเสด็จพ่อเรียกตัว จึงกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเฉพาะและถึงจะเข้ามา มิเช่นนั้นยามนี้คงยิ่งน่าอับอาย แต่เสียหน้าต่อหน้าผู้ครองแคว้นและองค์ชายแต่ละแคว้นเช่นนี้ พวกเขาก็ละอายใจที่จะพบหน้าอยู่บ้าง
พวกเขาใช้แปดรุมหนึ่ง แต่สุดท้ายยังพ่ายแพ้ แพ้เสียจนเงยหน้าไม่ขึ้นเช่นนี้
หลังจากพวกเขามองหน้ากัน ก็คารวะไปทางผู้ครองแคว้นทั้งหลายโดยพร้อมเพรียง องค์ชายโฉมงามคนนั้นถึงค่อยเอ่ยปากว่า “เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ พวกเรารวมตัวกันว่างๆ ไม่มีอะไรทำจึงอยากฝึกซ้อมฝีมือ แต่ไม่นึกว่าจะลงมือแรงไปหน่อย ถึงทำให้บาดเจ็บทั้งหน้าเช่นนี้ ทำให้เสด็จพ่อกับท่านผู้ครองแคว้นทั้งหลายเป็นกังวล พวกเราไม่ควรเลยจริงๆ”
ได้ยินคำพูดนี้ คนอื่นๆ ก็รีบร้อนเข้าไปกล่าว “ใช่พ่ะย่ะค่ะๆ พวกเราไม่ควรเลย ครั้งนี้แค่ฝึกซ้อมกัน ไม่นึกว่าไปๆ มาๆ จะลงมือหนักเกิน พวกเราก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้”
ได้ยินเช่นนี้ ท่าทีทุกคนในท้องพระโรงต่างแปลกใจ การจะเป็นผู้ครองแคว้นได้แน่นอนว่าต้องเป็นผู้ปราดเปรื่อง วาทศิลป์ของพวกเขาหลอกคนอื่นได้ หากเหล่าผู้ครองแคว้นเชื่อสิถึงจะแปลก
แต่ผู้ที่จัดการพวกเขาทั้งหมดได้ ซ้ำยังทำให้พวกเขาช่วยกันปิดบังไม่กล้าพูดออกมา ภายในพระราชวังนี้มีคนเช่นนี้ด้วยหรือ?
พวกเขาคาดไม่ถึง แต่เฟิ่งเซียวตรงตำแหน่งผู้อาวุโสเห็นองค์ชายพวกนั้นกลับกระแอมไอเบาๆ ยกน้ำชาขึ้นจิบ หลังจากปกปิดรอยยิ้มตรงริมฝีปากถึงจะเอ่ยปากว่า
“การฝึกซ้อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาพละกำลัง องค์ชายทั้งหลายก่อนหน้านี้ต่างอยู่กันคนละแคว้น ยากนักที่จะพบกัน มีโอกาสได้ฝึกซ้อมย่อมเป็นประโยชน์มากแน่นอน”
ทั้งแปดคนได้ยินคำพูดนี้ ต่างก้มหัวลงเล็กน้อยและขานรับอย่างไม่ชัดเจนนัก
เสด็จพ่อพวกเขาเห็นเช่นนี้ แม้ในใจมีความขุ่นเคือง กลับยากจะแสดงออกมา ขณะกำลังจะไล่พวกเขาถอยไปก็ได้ยินเสียงรายงานดังมาจากด้านนอก…
……………………