Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 652

№ 652 ผิดพลาด

สิ้นคำพูดนี้ เทพจุติชุดขาวผู้นั้นเงยหน้ามองมาทางเธอ

“เหอะๆ ข้าไม่มีเจตนาอื่น แค่คิดว่ามือข้าทำให้สกปรก จะช่วยเจ้าซักให้สะอาดก็เป็นเรื่องสมควร” เธอยิ้มเจื่อนๆ พร้อมยื่นน้ำแกงที่ถือไว้ไปข้างหน้า แล้วกล่าวด้วยเสียงเบาลง “เจ้ากินน้ำแกงก่อนเถอะ! น้ำแกงนี้เย็นแล้วไม่อร่อยหรอก”

โม่เฉินมองเธออย่างแฝงความนัย ถึงค่อยยื่นแขนเรียวยาวขาวเนียนออกไปรับน้ำแกงชามนั้นมากิน

เห็นเช่นนี้ ใจเฟิ่งจิ่วที่เคยหวั่นๆ ในที่สุดก็ปล่อยวางลง แล้วลอบถอนหายใจเบาๆ เธอนั่งขัดสมาธิข้างกายเขา ท่าทางคึกคักขึ้นมา ก่อนจะดึงน่องไก่วิญญาณอีกข้างหนึ่งยื่นให้เขา “มาๆ กินสิ มีเยอะแยะเลย!”

โม่เฉินมองมือหนุ่มน้อยที่ถือน่องไก่ไว้ เนิ่นนานไม่ยื่นมือไปรับ ในประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาไม่เคยกินอาหารโดยใช้มือถือกินตรงๆ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไร

เฟิ่งจิ่วเห็นก็รู้ความคิดเขา ยิ่งเห็นท่าทางปานเทพจุติยิ่งรู้ว่าไม่เคยลองวิธีกินเช่นนี้ ดังนั้นจึงยิ้มเอ่ย “กินเนื้อชิ้นใหญ่เช่นนี้รสชาติยิ่งโอชา เป็นความรู้สึกที่ต่างจากการใช้ตะเกียบกินอาหารแน่นอน เจ้าลองแล้วจะรู้”

เห็นเช่นนี้ โม่เฉินลังเลสักพัก ยังคงยื่นมือไปรับ แต่เขาไม่ได้กินคำโตเหมือนเฟิ่งจิ่ว แต่ฉีกชิ้นเล็กกินอย่างเชื่องช้า

เฟิ่งจิ่วหัวเราะเสียงดังลั่น หยิบตะเกียบวางลงตรงหน้าเขา เดี๋ยวเขาจะได้คีบอาหารกิน ส่วนตัวเองลงมือฉีกเนื้อชิ้นหนึ่งกินอย่างไม่เกรงใจ ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง อาหารที่เรียงรายบนพื้นหญ้าก็เหลือแต่ความเลอะเทอะ

โม่เฉินเห็นดังนั้นก็รู้สึกเสียมารยาทเล็กน้อย ถึงอย่างไรปกติเขาจะไม่ทำให้โต๊ะกลายเป็นเช่นนี้ แม้ที่นี่จะเรียกว่าเป็นโต๊ะไม่ได้ แต่ยังคงรู้สึกว่าเสียความสง่างาม ทว่าเมื่อเห็นหนุ่มน้อยคนนั้นขุดหลุมฝังของพวกนั้นลงไปอยู่ข้างๆ ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้

“ข้างหน้ามีลำธารเล็กๆ พวกเราไปล้างมือที่นั่นเถอะ!” หลังจากเฟิ่งจิ่วฝังของจำพวกกระดูกกับจานลงดิน ก็ปัดๆ มือพลางเรียกเขาเดินไปยังลำธารที่อยู่ไม่ไกล

ตรงลำธาร เธอล้างมือล้างหน้า ขณะกำลังคิดจะหาที่นอนพักผ่อนสักเดี๋ยว ก็เห็นชุดคลุมตัวหนึ่งยื่นมาตรงหน้า

“ซักให้สะอาด”

น้ำเสียงอ่อนโยนแผ่วเบาราวสายน้ำบนภูเขาสูง ทั้งใสและเสนาะหู

เธอหันหน้าไปเล็กน้อย ชะโงกหน้าออกจากเสื้อคลุมที่ขวางอยู่ตรงหน้า และมองชายคนนี้ที่ยืนอยู่พร้อมยื่นเสื้อคลุมมาให้ ยามนี้บนร่างเขาสวมเพียงชุดซับใน กำลังก้มมองเธอด้วยท่าทีเย็นชา

“อ้อ ได้” เธอขานรับ หลังจากรับมาก็เริ่มซักในลำธาร แต่ไม่ซักยังดีกว่า พอซักไปแล้ว…

หน้าผากเฟิ่งจิ่วมีเหงื่อไหล มองเสื้อคลุมที่ยิ่งซักยิ่งสกปรกโดยไม่กล้าหันกลับไป

ด้านหลังเธอไม่ไกล โม่เฉินมองแผ่นหลังเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าเฉยชา แล้วมองท้องฟ้าที่พระอาทิตย์คล้อยลง เนิ่นนานหลังจากนั้น ได้ยินเพียงเสียงผ้าฉีกขาดแว่วมา เขาจึงคืนสติและมองไปทางหนุ่มน้อยคนนั้น จึงเห็นอีกฝ่ายถือชุดคลุมเหม่อลอยอย่างนิ่งอึ้ง

เขาลุกขึ้นเดินไปดู พอมองไปหนังตาก็กระตุกเล็กน้อย

เพียงเห็นว่ารอยอุ้งมือมันๆ บนชุดคลุมไหมสวรรค์ตัวนั้นถูกซักจนจางลง แต่หลังจากจางไปมันกลับเปลี่ยนสภาพทำให้บนชุดสีขาวมีรอยดำผืนใหญ่ ไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนี้ซักอย่างไรกันแน่ ถึงซักเสื้อคลุมไหมสวรรค์ตัวนั้นจนขาดได้ ยามมองรูนั้นบนเสื้อคลุม เขารู้สึกแต่ว่าหมดคำจะพูด

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version