№ 669 ได้ยินหรือเปล่า?
“มากมายเพียงนี้เชียว? ข้อมูลบนป้ายหยกแสดงตัวตนบอกว่าเจ้าเพิ่งเข้าสำนักศึกษามาไม่ใช่หรือ?” เขาอดไม่ได้ที่จะถาม พร้อมถลึงมองหนุ่มน้อยคนนั้น “หรือว่าเจ้ามีใครคอยหนุนหลัง?”
“เอ่อ…”
เฟิ่งจิ่วอึ้งไป เกาหัวด้วยใบหน้าอักอ่วน ทำสีหน้าไร้เดียงสา “ข้าไม่มีใครคอยหนุนหลังหรอก! ข้าหามาด้วยตนเองจริงๆ เป็นคะแนนคุณงามความดีที่ข้าไปเก็บมณีเพลิงจากเทือกเขาหมื่นอสูรกลับมาแลก เพิ่งแลกไปเองขอรับ!”
เธอไม่น่าเชื่อถือเพียงนั้นเชียวหรือ? ชัดเจนว่าพูดความจริง ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อเล่า?
เธอไม่บอกว่าไปเก็บมณีเพลิงที่เทือกเขาหมื่นอสูรยังดีกว่า เอ่ยไปเช่นนี้ชายชรายิ่งไม่เชื่อ
แม้ในใจยังสงสัยชายชรากลับไม่พูดอะไรมากอีก แต่ช่วยเฟิ่งจิ่วแลกขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นไป ถึงอย่างไรก็มีคะแนนคุณงามความดีมากพอ ไม่มีเหตุผลจะไม่ให้เขาแลก แต่คิดว่ากลับไปต้องให้คนตรวจสอบว่าหนุ่มน้อยคนนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่? หรือว่าจะเป็นญาติเจ้าสำนัก? เจ้าสำนักจึงแอบให้คะแนนคุณงามความดีกับเขา?
แต่ความคิดนี้พอผุดขึ้นก็ถูกเขายับยั้งไว้ เป็นไปไม่ได้ เจ้าสำนักไม่ใช่คนเช่นนั้น
หลังจากแลกเปลี่ยน เฟิ่งจิ่วหยดเลือดลงบนขนนกนั้นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จากนั้นค่อยหยิบแถบผ้าสีแดงมาผูกมันไว้ตรงเอว มองขนนกเคลือบแวววาวสะดุดตานั้นตรงเอวแล้วเอ่ยชมทันทีว่า “สวยจริงๆ”
“ขอบคุณท่านอาจารย์มากที่ชี้แนะขอรับ ข้าต้องไปแล้ว ครั้งหน้าค่อยมาอีก” เธอโบกๆ มือ แล้วมุ่งไปยังสำนักพลังเร้นลับท่ามกลางสายตาชายชราที่ถลึงมอง
ยามเดินไปตลอดทาง เหล่านักเรียนที่พบเธอพากันส่งสายตาไปที่ขนนกตรงข้างเอวเธอ นัยน์ตาแต่ละคนต่างแปลกใจ
ขนนกเคลือบหลากสีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามสมบัติที่นักเรียนอยากแลกที่สุดในหอสวรรค์ของสำนักศึกษา ขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นสร้างขึ้นโดยช่างทำอาวุธผู้อาวุโสคนก่อนของสำนักศึกษา ขนนกแทบจะไร้น้ำหนัก แต่ลำแสงหลากสีดุจสายรุ้งกลับไหลเวียนผ่านบนขนนกเฉกเช่นคลื่นน้ำ แต่ละชั้นเป็นเหมือนลายน้ำงดงามอย่างยิ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้คนอยากได้ที่สุดคือ นอกจากมันจะเป็นพาหนะเหาะเหินที่มีความเร็วแสนว่องไว ยังสามารถต้านทานการโจมตีจากผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้สามครั้ง ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณหนึ่งครั้ง เป็นวัตถุเวทป้องกันตัว
พวกเขารู้ดีว่าสิบผู้มีพรสวรรค์ในสำนักศึกษาเพ่งเล็งสามสมบัติของหอสวรรค์ไว้ แต่คะแนนคุณงามความดีไม่ได้หามาง่ายดายเพียงนั้น โดยเฉพาะคะแนนคุณงามความดีสำหรับแลกสามสมบัติสูงยิ่งกว่าเช่นนั้น นักเรียนธรรมดาใช้เวลากว่าหลายสิบปียังแลกไม่ได้เลย
นึกไม่ถึงว่าวันนี้กลับเห็นอยู่ตรงเอวนักเรียนสำนักยาที่สวมชุดสีฟ้า ข่าวนี้แทบจะแพร่ออกไปในสำนักศึกษาอย่างรวดเร็วราวสายลม…
“รู้หรือยัง? หนึ่งในสามสมบัติหอสวรรค์ ขนนกเคลือบหลากสีชิ้นนั้นถูกนักเรียนชุดฟ้าแลกไปแล้ว”
“ได้ยินหรือเปล่า? ขนนกเคลือบหลากสีโดนนักเรียนสำนักยาแลกไป ว่ากันว่านักเรียนคนนั้นเป็นนักเรียนที่เพิ่งเข้ามาปีนี้ด้วย”
“ได้ยินแล้ว มีคนเดาว่านักเรียนชุดฟ้าคนนี้คงมีคนหนุนหลัง”
“จริงด้วย มิเช่นนั้นเพิ่งเข้ามาปีนี้จะแลกขนนกเคลือบหลากสีหนึ่งในสามสมบัตินั้นได้อย่างไร?”
“ท่านอาจารย์สำนักศึกษายังไม่มีอำนาจให้คะแนนคุณงามความดี เป็นไปได้มากว่านักเรียนชุดฟ้าคนนี้จะเป็นลูกหลานตระกูลท่านเจ้าสำนักหรือรองเจ้าสำนัก”
“เป็นไปไม่ได้ ได้ยินว่าตระกูลท่านเจ้าสำนักไม่ได้อยู่ที่นี่ ยิ่งไม่ต้องพูดว่ามีลูกหลานตระกูลอะไรนั่นเลย”
“เช่นนั้นก็เป็นรองเจ้าสำนัก มิเช่นนั้นขนนกชิ้นนั้นต้องแลกด้วยคะแนนคุณงามความดีหนึ่งล้านแปดแสน นักเรียนคนนั้นจะหามาได้เช่นไร?”
“เรื่องนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้าได้ยินว่าสิบผู้มีพรสวรรค์ของสำนักศึกษาเรารู้เรื่องนี้ ก็ออกไปตามหาหนุ่มน้อยชุดฟ้าคนนั้นแล้ว”
เวลาเดียวกัน เฟิ่งจิ่วที่ยังไม่รู้ว่าตนเองกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในสำนักศึกษาก็มาถึงสำนักพลังเร้นลับแล้ว…
…………