№ 700 ยาสัจจะระดับสอง
“ขะ ข่าวลืออะไร?”
เยี่ยจิงมองไป๋รั่วเฟยนิ่งๆ ไม่ได้ตอบกลับ ผ่านไปสักพักก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา
“ก็ใช่ เจ้าไปฝึกบำเพ็ญไหนเลยจะรู้ ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องนั้นแล้ว วันนี้ข้าแค่เข้ามานั่งเล่นพูดคุยกับเจ้าสักหน่อย”
ไป๋รั่วเฟยแอบถอนหายใจโล่งอก มองนางที่หลับตาลงดื่มชา จากนั้นถึงจะพูดเรื่องอื่นและคุยเล่นด้วย…
อีกด้านหนึ่ง ภายในอาศรมของเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วกลับมาก็เข้าไปยังอาศรม เปิดเตาเริ่มกลั่นยาเซียน ในหมู่ตำรายาเซียนที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้เธอ มียาอายุวัฒนะที่เรียกว่ายาสัจจะอยู่ เป็นยาอายุวัฒนะระดับสอง ด้วยทักษะยาเซียนของเธอในตอนนี้ อยากจะกลั่นยาสัจจะระดับสองสักเม็ดจริงๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
นายท่านภายในอาศรมกำลังกลั่นยาเซียน ส่วนสัตว์อสูรสามตัวด้านนอกก็นอนเรียงกันพลางมองอาศรมนั้นโดยไม่เข้าไปรบกวน
หลังจากวันนั้น พวกมันไม่ได้ไปขโมยโสมวิญญาณอะไรอีกเลย เพราะยาอายุวัฒนะที่นายท่านปรุงให้พวกมันเป็นของดียิ่งกว่า กินเม็ดเดียวอยู่ได้ครึ่งเดือน หนำซ้ำยังเสริมกลิ่นอายพลังในร่างพวกมันได้ด้วย เทียบกับการกินยาทิพย์โสมวิญญาณสดๆ แล้วดีกว่ามากนัก
ทางยอดเขาสำนักยา เรื่องนี้ก็ค่อยๆ ถูกเก็บเงียบไว้ และจบลงอย่างไม่มีบทสรุป เพราะยาทิพย์โสมวิญญาณไม่ได้ถูกขโมยไปอีก
ภายในห้องปรุงยาเฟิ่งจิ่วผสมสมุนไพรเช่นลำโพงม่วงกับถั่วเพรียวตามตำรายาเซียน ควบคุมแหล่งพลังไฟในร่างมาปรุงกลั่น
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม กลิ่นหอมยาก็กระจายออกมา กลิ่นหอมยานั้นแม้แต่เธอได้กลิ่นจิตใจยังเลื่อนลอยอย่างอดไม่ไหว
“สมกับเป็นยาสัจจะ ลำพังแค่กลิ่นหอมยายังทำให้เกราะป้องกันจิตใจพังทลาย หากนำของชิ้นนี้มาประมูล เดาว่าคงมีคนต้องการไม่น้อยเลยกระมัง?”
เธอพึมพำเสียงเบา ช่วงนี้ไม่ได้ส่งยาใหม่ๆ เข้าตลาด แต่ยังส่งยาอายุวัฒนะไปประมูลยังตลาดมืดได้
ในใจกำลังคิดแต่กลับไม่ได้ใจลอย เห็นยาอายุวัฒนะจวนจะสำเร็จแล้ว ก็พลันพลิกมือเพิ่มไฟไปอีก
กลิ่นอายพลังวิญญาณถูกส่งเข้าไป สุดท้ายก็เคาะไปยังตัวเตาและนำยาอายุวัฒนะข้างในออกมา
“ยาสัจจะระดับสอง มีลวดลายยาสี่สาย ยังถือว่าไม่เลว แต่ไม่รู้ว่าผลของยาจะเป็นเช่นไร?”
เธอกระซิบเสียงค่อย พลางมองยาสัจจะสามเม็ดบนมือ คิดว่ายาอายุวัฒนะนี้ควรหาคนมาทดลองเสียก่อน จะได้รู้ผลลัพธ์ของมัน แต่จะหาใครมาลองเล่า?
เธอเดินพึมพำออกไปนอกอาศรม ถือยาอายุวัฒนะไว้ในมือพลางมองไป ครุ่นคิดว่าจะให้ใครมาทดลองยาดี?
แม้บอกว่าปรุงตามตำรายาเซียน แต่ไม่รู้อาจารย์เธอเอาตำราพวกนั้นมาจากไหน เคยปรุงตามพวกตำราสมัยก่อนก็กลั่นได้ยาอายุวัฒนะแปลกๆ ด้วยเหตุนี้แม้รู้ว่าพวกยาอายุวัฒนะที่ปรุงออกมาไม่มีพิษอะไร ก็ต้องทดลองยาเสียหน่อยถึงจะวางใจ
เพราะกลิ่นที่ปล่อยออกมาจากยาอายุวัฒนะสามเม็ดบนมือยากเกินกว่าจะต้านทาน
สัตว์อสูรสามตัวที่นอนอยู่ด้วยกันได้กลิ่นยาก็ลุกขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย และจ้องมองยาอายุวัฒนะในมือเธอด้วยท่าทางละโมบ
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มเอ่ยอย่างอดไม่ได้
“นี่ไม่ใช่ของกินพวกเจ้า สามเม็ดนี้เป็นยาสัจจะ ใช้ทำให้คนพูดความจริง คงไม่มีประโยชน์กับสัตว์อสูร”
เธอนั่งลงบนพื้นหญ้า หยิบขวดออกมากำลังจะใส่ยาอายุวัฒนะทั้งสามเม็ด
ใครจะรู้ว่ามีลิ้นใหญ่ม้วนกินยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ดสุดท้ายในมือไป
เธออึ้งไปสักพัก มองทางเหล่าไป๋แล้วถลึงตาทันใด
“เหล่าไป๋! เจ้าผีจอมตะกละ! นั่นเป็นยาสัจจะ! ไม่ใช่ของกินสัตว์อสูร แต่เป็นของมนุษย์! หนำซ้ำยังไม่ได้ผ่านการทดสอบ หากเจ้ากินแล้วมีผลลัพธ์ดีเลวอะไรขึ้นมา อย่ามาหาว่าข้าไม่เตือน”
“เอิ้ก!”
…………………