Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 752

№ 752 เจ้าเป็นผู้หญิง

อาจารย์คนหนึ่งกลืนน้ำลาย พลางประคองคนข้างกาย กล่าวว่า “คนอื่นบรรลุขั้นหนึ่งช่วงสองช่วง เจ้าว่าทะ ทำไมเขาถึงบรรลุไปขั้นหนึ่งเลย? บรรลุระดับสร้างรากฐานทันที ผ่านขั้นต้น ขั้นกลางก็ยังไม่หยุด…”

“เหมือนรากฐานวิถีสวรรค์หรือเปล่า? ไม่เหมือนแน่ๆ”

“นั่นสิ อยู่สำนักศึกษามาตั้งหลายปีเพียงนี้ ยังไม่เคยเจอรากฐานวิถีสวรรค์ แค่เห็นแรงกดดันน่ากลัวตอนที่เฟิ่งจิ่วบรรลุขั้น ก็มั่นใจว่าต้องไม่เหมือนผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานทั่วไป”

ด้านหน้า เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักได้ยินเสียงพูดคุยของอาจารย์พวกนั้นด้านหลัง มุมปากกระตุกเล็กน้อยอย่างไม่อาจสังเกตเห็น พวกเขาไม่รู้ ไม่รู้ว่าเฟิ่งจิ่วคือร่างเทพประทับ นึกว่าแรงกดดันนั้นมาจากรากฐานวิถีสวรรค์

กลับไม่รู้ว่าคนที่มีร่างเทพประทับบรรลุ ขั้นจะไม่เหมือนคนอื่นๆ ตอนที่ผู้ฝึกตนทั่วไปบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณ ก็หยุดอยู่ระดับสร้างรากฐานช่วงที่หนึ่ง ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนมากพรสวรรค์ อย่างมากตอนบรรลุขั้นก็หยุดอยู่ช่วงที่สองหรือสาม อย่างเช่นเฟิ่งจิ่วนี้ ทะลุผ่านขั้นต้นเข้าขั้นกลางทันทียังเป็นส่วนน้อยในส่วนน้อยอีกที

เวลาประมาณครึ่งก้านธูป กลิ่นอายพลังวิญญาณรอบข้างกลับเข้าร่างเฟิ่งจิ่วทั้งหมด ระดับวรยุทธ์เธอกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากบรรลุขั้นกลางก็พุ่งขึ้นไปติดต่อกัน กระทั่งขั้นท้ายยังไม่หยุด จนขั้นสูงสุดก็ยังไม่หยุด กลิ่นอายพลังวิญญาณยังไหลขึ้นไปตลอด ราวกับคิดจะพุ่งทลายด่านสุดท้ายนั้น ทว่าสุดท้ายความสามารถยังมีขีดจำกัด หลังจากพุ่งผ่านขั้นสูงสุดหลายครั้งกลิ่นอายพลังวิญญาณจึงค่อยๆ อ่อนแรง ถึงจะหยุดลงในที่สุด

แม้เป็นเช่นนี้ วรยุทธ์ก้าวเข้าระดับสร้างรากฐานก็กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ความเร็วการบรรลุขั้นเช่นนี้ ยังทำให้คนสูดลมหายใจ

ต้องรู้ว่าผู้ฝึกตนปกติจากขั้นต้นไปขั้นกลาง อย่างเร็วสุดต้องใช้เวลาเกือบสิบปี แต่เขา นึกไม่ถึงว่าจะบรรลุกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดภายในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งก้านธูป…

เฟิ่งจิ่วลืมตาขึ้นช้าๆ เวลานี้เธอรู้สึกถึงความแตกต่างของร่างกาย ตรงจุดตันเถียนเพราะบรรลุระดับสร้างรากฐาน ตรงนั้นก่อตัวเป็นจุดชี่ไห่[1] เล็กๆ คือจุดบรรจบของพลังวิญญาณที่เป็นเช่นวังวน ก่อนจะหลั่งไหลเข้าจุดตันเถียนและห้อมล้อมเม็ดบัวเขียวเม็ดนั้นไว้

บรรลุระดับสร้างรากฐาน วิสัยทัศน์คล้ายจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ได้ยินพวกเสียงแผ่วเบาบริเวณไกลๆ และเห็นพวกสิ่งของเล็กๆ ได้ สรุปว่ารู้สึกแปลกอย่างยิ่ง

ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ คือเทพจุติชุดขาวไร้ตำหนิผู้นี้ ยามนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าพลางจ้องตรงมายังเธอ สายตาพินิจมองแปลกๆ เช่นนั้น เธอมองเสียจนอึ้งไปอย่างอดไม่ได้

“ทำอะไรน่ะ?”

เธอนั่งขัดสมาธิไม่ขยับ เพราะแม้จะบรรลุระดับสร้างรากฐาน แต่บาดแผลบนร่างกลับไม่หาย แค่ขยับยังคงทำให้เธอเจ็บเสียจบอยากจะด่ากราด

“เจ้าเป็นผู้หญิง” โม่เฉินจ้องนาง น้ำเสียงสงบนิ่ง แต่แววตาในดวงตารวมถึงใจเขากลับไม่สงบ

น้ำเสียงมั่นใจนั้นกล่าวจบ ทุกคนรอบข้าง นอกจากคนที่รู้ตัวตนนางอย่างสามคนนั้นจากตลาดมืดรวมถึงกวนสีหลิ่นกับเนี่ยเถิง คนอื่นๆ ต่างอ้าปากค้างด้วยความตะลึง มองไปยังเฟิ่งจิ่วอย่างตาค้างไปบ้าง

“ผะ ผู้หญิง?”

เนี่ยเถิงขมวดคิ้วจ้องโม่เฉินด้วยสีหน้าเย็นเยียบ กวนสีหลิ่นก็จ้องเขาอย่างเย็นชาเช่นกัน

เซียวอี้หานอ้าปากพะงาบๆ พลางจ้องมองเฟิ่งจิ่วที่ปล่อยผมสยาย โม่เฉินไม่พูดอะไร และไม่ได้สนใจ ยามนี้มองอีกทีหนุ่มน้อยชุดแดงผมสีหมึกแผ่สยายนี้ ไหนเลยจะมีท่าทางเช่นเด็กหนุ่มสักนิด? ชัดเจนว่าเป็นสาวงามน่าตะลึงที่ทรงเสน่ห์งดงาม

………………………

[1] จุดชี่ไห่ ตำแหน่งกึ่งกลางท้องใต้สะดือ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version